ผักทุกชนิดมีสารอาหารและมีประโยชน์อยู่ในตัว แต่การจะปลูกผักนอกฤดู โดยที่ไม่มีแมลงมารบกวนนั้น จะต้องมีสถานที่พร้อม เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชที่จะเข้ามาทำลายผัก เช่น เพลี้ย หนอนผีเสื้อ หอยทาก ตั๊กแตน ดังนั้น เราจึงต้องทำโรงเรือนเพื่อป้องกันศัตรูพืชเหล่านี้ และที่สวนของผู้เขียนเองก็มีโรงเรือนเพื่อปลูกผักด้วยเช่นกัน โดยใช้ผักเหล่านี้เพื่อใช้บริโภคภายในครัวเรือน และเพื่อจำหน่ายนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย ในวันนี้ผู้เขียนจะมาบอกเล่าถึงข้อดีของการปลูกผักในโรงเรือนกันค่ะ 1. ป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ดี ผักที่ปลูกในโรงเรือนสามารถป้องกันแมลงที่มีขนาดใหญ่กว่าตาข่าย เช่น ผีเสื้อและตั๊กแตนที่ไม่สามารถเข้ามาวางไข่ในโรงเรือนได้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงเพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้2. ปลูกผักนอกฤดูได้ การปลูกผักนอกฤดูส่วนใหญ่จะถูกทำลายโดยแมลงศัตรูพืชเกือบ 60% จึงทำให้เกษตรกรใช้สารเคมีกำจัดแมลงเหล่านั้น กว่าพืชจะเจริญเติบโตที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิต ผักเหล่านี้จึงมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นเมื่อปลูกอยู่ในโรงเรือนจึงสามารถปลูกพืชนอกฤดูกาลได้ดี3. ดูแลง่าย พืชผักที่อยู่ในโรงเรือนดูแลง่ายกว่าพืชผักที่ปลูกในพื้นที่โล่ง เพราะสามารถควบคุมการเกิดของแมลง วัชพืช และการขาดธาตุอาหารของพืชได้ง่ายกว่า 4. สามารถปลูกพืชหมุนเวียนได้ การปลูกพืชในโรงเรือน เราจะมีแปลงย่อย ๆ แยกออกมาเพื่อปลูกพืชหมุนเวียนสลับกันไป เพื่อเติมปุ๋ยให้กับดิน ผักที่มีหัวใต้ดิน เช่น แครอท แรสดิส บีสรูท ผักที่รับประทานใบ เช่น ผักกาด ผักบุ้งจีน คะน้า ผักสลัด เป็นต้น นอกจากนี้ก็จะเป็นผักพื้นบ้าน เช่น ผักเผ็ด หอมแย้ ผักชี พืชเหล่านี้ก็มีการปลูกสลับแปลงกันไปเรื่อย ๆ (ตัวอย่างผักที่ปลูกในโรงเรือน)5. ผักที่ปลูกมีคุณภาพ แน่นอนว่าผักที่ปลูกในโรงเรือนมีคุณภาพกว่าผักที่ปลูกกลางแจ้ง ด้วยกรรมวิธีการปลูก การดูแลและการกำจัดศัตรูพืช ทำให้ผักที่ปลูกได้มีคุณภาพและประโยชน์ที่ครบถ้วน ปลอดภัยจากสารเคมีอันตรายเป็นอย่างไรบ้างคะ กับข้อดีของการปลูกพืชในโรงเรือน ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย และใช้อาจเป็นทางเลือกให้ผู้ที่สนใจการปลูกผักหันมาปลูกผักในโรงเรือนกันมากขึ้นด้วยค่ะ ในวันนี้ผู้เขียนต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะภาพประกอบบทความโดย ผู้เขียน