อื่นๆ
ความยากของ "ชีวิต"

ความยากของ "ชีวิต"
เคยรู้สึกบ้างไหมว่า ชีวิต ทำไมมันใช้ยากจัง?
เรื่องนี้ไม่มีข้อชัดเจนทางปรัชญา
เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันจากวิทยาศาสตร์
มันเป็นเพียงความรู้สึกของมนุษย์คนหนึ่งที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้
ชีวิตที่น่าลำบาก คือชีวิตที่ต้องรับมือกับความคาดหวัง
มนุษย์ทุกคนก็สามารถมีความคาดหวัง การเลือกที่จะตอบสนองความคาดหวังคือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ มันเป็นเรื่องยากเสมอที่เราจะเก็บกดความคาดหวังไว้ให้เหมือนกับว่า "เราไม่เคยมีมันอยู่เลย"
การเลือกอนาคตนับว่าเป็นก้าวสำคัญ ถ้าจะถามหาความถูกต้อง คงพูดไม่ได้ว่าจะต้องเลือกอนาคตแบบไหน แต่พอจะพูดได้ว่า "อนาคตที่เราเลือกด้วยตัวเอง มันคือคำตอบที่ถูกต้องสำหรับเรา"
มันไม่ได้สำคัญว่า จะต้องเลือกอนาคตที่มั่นคง หรืออนาคตที่พ่อแม่พึงพอใจ
มันสำคัญที่ เรามีความสุขกับอนาคตแบบไหน
ลูกอาจจะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
ลูกอาจจะมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองถนัด
ลูกอาจจะมีความสุขกับความสุขของพ่อแม่
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขาจะมีความสุขกับอะไร หากเราไม่เปิดใจรับฟังคำตอบของเขาจากใจจริง
Advertisement
Advertisement
บางปัญหา มันไม่ได้แก้ด้วยวิธีการที่ชัดเจนหรือคำตอบที่ตายตัว
บางปัญหา ก็แก้ได้ด้วยความเข้าใจ ของคนในครอบครัวหรือคนในความสัมพันธ์
เรื่องหนึ่งที่เราไม่ชอบและรู้สึกเห็นใจเด็กๆ (ส่วนใหญ่) ในยุคนี้ก็คือการที่ต้องเกิดมาเจอ "อะไรก็ไม่รู้"
อะไรก็ไม่รู้ก็คือ ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้เลยว่าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปทำไม ไม่รู้ว่าสิ่งที่เจออยู่คืออะไร
เกิดมาต้องเจอกับวิกฤตทางธรรมชาติต่าง ๆ
เกิดมาต้องเจอกับภาวะเศษรฐกิจที่แย่และแปลกประหลาด
เกิดมาต้องเจอกับสังคมที่บิดเบี้ยว
เกิดมาต้องเจอกับความอยุติธรรมที่ประเจิดประเจ้อ
เกิดมาต้องเจอกับการแข่งขันทางการศึกษา
เกิดมาต้องเจอกับความคาดหวังของพ่อแม่
มันเหมือนว่าทุกวันนี้ ผู้ใหญ่กำลังไม่เคารพเด็กๆ ไม่เคารพการเติบโตทางธรรมชาติของพวกเขา ผู้ใหญ่มักเอาสิ่งที่เขาเชื่อกันไปเองว่าดีไปยัดใส่ตัวเด็กๆ เพื่อหวังว่าเขาจะโตมาในแบบที่เราเชื่อและเราต้องการ ไม่มีใครถามเด็กๆ ว่าอยากทำอะไร อยากเล่นอะไร วันหยุดพวกเธออยากทำอะไร หรือ ไปโรงเรียนวันนี้รู้สึกยังไง ผู้ใหญ่ที่โตกว่าพยายามวางแบบแผนชีวิตให้เด็กๆ
ตื่นเช้าไปเรียน กลับมาเรียนพิเศษ วันหยุดก็ไปเรียนพิเศษ
หรืออีกฝั่งที่ตรงกันข้าม เด็กที่พยายามตั้งใจเรียนมากๆ ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากผู้เป็นพ่อและแม่ หรือไม่ได้รับการตอบสนองจากนโยบายการศึกษา
Advertisement
Advertisement
เด็กที่ไม่เก่งวิชาการกลายเป็นเด็กที่ถูกสังคมตีตรา มันอาจจะใช่ที่เขาไม่เก่งวิชาการ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณค่าในตัวเขานั้นไม่มีอยู่เลย คุณค่าของพวกเขาไม่ใช่ไม่มีหรือหายไป แต่มันถูกมองข้ามจากสายตาของผู้ใหญ่นั่นแหละ
ทุกคนพยายามสอนให้เด็กๆ เข้มแข็งโดยการไม่เป็นคนอ่อนแอ "อย่าร้องไห้นะ" "เรื่องแค่นี้เองร้องทำไม" "เครียดทำไมกับเรื่องแค่นี้" ฯลฯ แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า การเป็นคนเข้มแข็งไม่ใช่การเป็นคนที่ไม่อ่อนแอ แต่การเป็นคนเข้มแข็งคือการเป็นคนที่อ่อนแอเป็น และสามารถดูแลจิตใจตัวเองได้ในวันที่อ่อนแอ
มันเหมือนพวกเขาต้องโตมาในสังคมที่ย้อนแย้งในตัวเอง และในที่สุดเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเขาเป็นใคร รู้เพียงแค่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตอบสนองความหวังของคนอื่น เหมือนกับตอนเด็กๆ ที่เขาได้ทำ ได้เรียนรู้ และเติบโตมา...
Advertisement
Advertisement
ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Pixabay :
ภาพปกโดยผู้เขียน
ภาพที่1https://cdn.pixabay.com/photo/2015/01/26/22/40/child-613199_1280.jpg
ภาพที่2 https://cdn.pixabay.com/photo/2016/11/09/16/24/virus-1812092_1280.jpg
ภาพที่3 https://cdn.pixabay.com/photo/2017/12/29/00/16/child-3046494_1280.jpg
ภาพที่4 https://cdn.pixabay.com/photo/2014/11/03/17/50/man-515518_1280.jpg
ความคิดเห็น
