ความรู้
คำคล้องจอง ฉบับคุณตาสอนหลาน เข้าใจง่าย เห็นภาพ

สวัสดีครับ บทความนี้ Tani เคยใช้สอนหลานๆ เลยจะขอนำมาถ่ายทอดวิชาศาสตร์ศิลป์ เกี่ยวกับ "คำคล้องจอง" รวมไปถึงศิลปะการแต่งกลอนต่าง ๆ ฉบับคุณตาสอนหลานกันนะครับ
"คำคล้องจอง" คือคำเขียน หรือคำพูด ที่เขียนหรือพูดสัมผัสและรับกันได้สละสลวย สบายตาสบายหู เรียกว่า "คำคล้องจอง"
- ตัวอย่างที่ 1 สัมผัสคล้องจอง 1 คำ เช่น น้ำ ห้าม ข้าม ม้าม ล่าม หนาม
- ตัวอย่างที่ 2 สัมผัสคล้องจอง 2 คำ เช่น น้ำชา มาหา ตาณี ที่บ้าน ผ่านมา หาตา
- ตัวอย่างที่ 3 สัมผัสคล้องจอง 3 คำ เช่น ฝนไม่ตก นกไม่บิน หินไม่แข็ง แย่งกันกิน
- ตัวอย่างที่ 4 สัมผัสคล้องจอง 4 คำ เช่น น้ำชาตาสวย ด้วยธรรมชาติ ฉลาดเหลือล้ำ (4 คำ สามารถนำไปแต่งเป็นกลอน 4 ได้)
- ตัวอย่างที่ 5 สัมผัสคล้องจอง 6 คำ เช่น นาร์เชียเนี่ยหนาน่ารัก คักแท้แน่นอนตอนหลับ (สามารถนำไปแต่งเป็นกลอน 6 ได้)
- ตัวอย่างที่ 6 สัมผัสคล้องจอง 8 คำ เช่น หนูนัทเชลเล่นเพลินเดินตกท่อ (สามารถนำไปแต่งเป็นกลอน 8 ได้)
Advertisement
Advertisement
ตัวอย่างกลอน 4 คำ
อยู่ดีมีสุข เรื่องทุกข์ห่างหาย
เรื่องเงินพอใช้ ค้าขายไม่รวย
ต้องมีมานะ นะจ๊ะคนสวย
อย่ารอโชคช่วย เรื่องหวยเรื่องเบอร์
* ตามตัวอย่างด้านบนและด้านล่างนี้จะมีบทกลอนเชื่อมต่อกันอยู่ 2 บท โดยบรรทัดที่ 1 ถึงบรรทัดที่ 2 นับรวมกันเป็นกลอน 1 บท และบรรทัดที่ 3 ถึงบรรทัดที่ 4 นับรวมกันเป็นกลอนอีก 1 บท และให้สังเกตคำสุดท้ายของบรรทัดที่ 2 และบรรทัดที่ 3 คือจุดสัมผัส "คล้องจอง" กันของบทกลอนทั้งสอง
รักตัวกลัวตาย ทำใจเย็นเย็น
ลำบากยากเข็ญ ลำเค็ญจริงหนอ
รักลูกรักหลาน สำราญให้พอ
เราแก่แล้วหนอ แต่พอสู้ไหว
..ต่อไปจะเป็นตัวอย่างกลอน 6 คำนะครับ
ตัวอย่างกลอน 6 คำ
1 อวยพร กลอนให้ ไหลหลง ขอจง คงอยู่ สู้ไป
หายเศร้า หายโศก โรคภัย สิ่งใด ดีดี มีมา
2 ความดี ที่สร้าง ดีแล้ว คลาดแคล้ว แคล้วคลาด เถิดหนา
Advertisement
Advertisement
รักตัว ยิ่งใหญ่ ในโลกา บุษบา น่ารัก ฮักจุงเบย
3 การงาน ก้าวหน้า พาสุข เลี้ยงลูก รุกหน้า อย่าเฉย
สิ่งดี มีมา พาเสบย ขอเอย เป็นกลอน ร่อนมา
4 เรื่องร้าย หายไป ไม่มี เงินดี มีรวย ด้วยหนา
อยู่เย็น เป็นสุข ทุกครา ปีหน้า ฟ้าใหม่ ให้เหมือนเดิม
* ด้านบนนี้มีกลอน 6 อยู่ 4 บท โดย 1 บท มี 4 วรรค แต่ละวรรคจะมี 6 คำ เรียกว่า " กลอน 6 " ซึ่งจะมีจุดสัมผัสในแต่ละวรรค เช่น ไหลหลง - ขอจง และจุดสัมผัสระหว่างบท เช่น มีมา - เถิดหนา (แต่ละวรรคจะมี 7 คำก็ได้ แต่ต้องคล้องจองและมีความหมาย)
* หลักการแต่งกลอน ทุกกลอนจะต้องมีความหมาย เมื่อผู้อ่านอ่านแล้วจะต้องเข้าใจสื่อความหมาย ว่ากำลังแต่งถึงเรื่องอะไร เช่น แต่งกลอนชมคุณพ่อ คุณแม่ ปู่ย่าตายาย ว่าความดีแต่ละคนมีอะไรบ้าง แต่งถึงน้อง ๆ ก็ได้ แต่งถึงเพื่อนในโรงเรียนก็ได้ หรือจะแต่งจากจินตนาการก็ได้ แต่ต้องให้คล้องจอง อยู่ในบทข้อบังคับของแต่ละกลอน
Advertisement
Advertisement
ตัวอย่างกลอน 8 คำ
1 ขออวยพร เป็นกลอน ตอนวันเกิด ขอให้เพริศ พริ้งพราย ประกายฟ้า
อยู่ที่ไหน ให้คนรัก ปักอุรา หนูน้ำชา ยาใจ ให้ทุกคน
2 แข็งแรง แข็งขัน ขยันศึกษา ทั้งหน้าตา อวบอิ่ม ยิ้มสุขล้น
สุขภาพดี มีสุข ทุกข์ห่างตน ให้เป็นคน น่ารัก ฮักจุงเบย
3 การศึกษา ให้ก้าวหน้า อย่าท้อถอย อนาคตคอย หนูอยู่ รู้ไหมเอ่ย
เป็นกำลัง ให้ครอบครัว ตัวเสบย อย่าละเลย หน้าที่ มีวินัย
4 เป็นเด็กดี ได้ดี มีเติบใหญ่ เป็นผู้ใหญ่ ที่ดี มีสดใส
สร้างครอบครัว สร้างชาติ เก่งกาจไกล ตาเอาใจ ช่วยหนู อยู่นิรันดร์
"กลอนแปด" เป็นกลอนที่นิยมแต่งกันมากที่สุด รู้สึกว่าจะแต่งง่ายกว่าทุกกลอน ประวัติกลอน 8 มีที่มา Tani จะบอก "สุนทรภู่" คือต้นแบบของการแต่งกลอน 8 ซึ่งหลาน ๆ ก็จะได้เรียนแน่นอนในวิชา "ภาษาไทย" ด้านบนและด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างที่ Tani เคยแต่งไว้นะครับ
1 ตาภูมิใจ ในน้ำชา หลานตายิ่ง หนูเป็นมิ่ง ดวงใจ ในแฟมิลี่
ช่างน่ารัก จริงจริง หลานตาณี เก่งอีหลี เก่งอีหลอ อย่าบอกใคร
2 ทำถูกแล้ว ทำดีแล้ว แก้วตาเอ๋ย แจ๋วไปเลย เคยบอกไว้ หนูทำได้
ทำตัวอย่าง ให้น้องเห็น นั่นเป็นไร ต่อต่อไป หนูมีน้อง ต้องเหมือนกัน
3 ตั้งใจเรียน เพียรขยัน หมั่นฝึกฝน จะเป็นคน ดีเลิศ เกิดสีสัน
รักครอบครัว รักตัว เช่นเดียวกัน ไม่นานวัน หนูได้ดี มีสุขเอย
*** ฝึกอ่านออกเสียงจะมีความสุข จริง ๆ นะหลาน ๆ
Confirm by Tani
ขอบคุณรูปภาพภาพปก: Canva
ความคิดเห็น
