(เครดิตภาพหน้าปก : https://pixabay.com/images/id-4554077/)Double Exposure(เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-2571683/) กล้องฟิล์มในปัจจุบันนั้นกำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ทั้งในหมู่นักเรียน นักศึกษา วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยผู้ใหญ่ ที่รำรึกความหลัง เอากล้องฟิล์มเน่า ๆ ที่ตั้งโชว์อยู่ที่บ้าน ออกมาทำความสะอาดและพกติดตัวไปท่องเที่ยวอีกรอบก็ได้ โดยการถ่ายด้วยกล้องฟิล์มนั้น ส่วนใหญ่คนที่นิยมก็จะเริ่มตามหากล้องที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้แบบมือโปร ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ราคากล้องฟิล์มแบบมือโปรนั้น ราคาจะสูงขึ้นมาก แต่ด้วยกระแสความนิยมนั้น ทุกคนยังคงตามหามาครอบครองแบบไม่หยุดหย่อน วันนี้ทางผู้เขียนเลยอยากจะมาแชร์เทคนิคการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มแบบมือโปร เป็นเทคนิคที่ใช้กันเยอะแต่ถ่ายให้สวยได้น้อยมาก เทคนิคนี้เรียกว่า การถ่ายภาพซ้อน หรือ Double Exposure เป็นการถ่ายภาพซ้อนที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์ม ดังนั้นเราจึงมีโอกาสแค่ ครั้งเดียวในการถ่าย 1 ภาพ ให้ออกมาดีที่สุด หลาย ๆ คนที่ลองแล้วแต่ไม่มีเทคนิคที่ดี อาจจะทำให้ภาพนั้นเสียไปเลยก็ได้ ดังนั้นก่อนถ่ายภาพแบบนี้ ลองมาอ่านเทคนิคดี ๆ ในการถ่าย และขั้นตอนก่อนการกดชัตเตอร์ ถ่ายภาพแบบ ภาพซ้อน กันซักหน่อยจะดีกว่าถ่ายภาพซ้อน (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-3783572/ ) การถ่ายภาพซ้อนด้วยกล้องฟิล์ม คือการถ่ายภาพซ้ำลงในเฟรมเดิม หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ เลื่อนฟิล์ม 1 ครั้ง กดถ่ายตามที่เราต้องการ 1 ที และ เลื่อนชัตเตอร์ขึ้น แต่ ฟิล์มห้ามหมุนตามอีก 1 ครั้ง และกดชัตเตอร์ซ้ำไป ทีนี้จะมาอธิบายแบบละเอียดกันนะครับ ขั้นตอนการถ่าย 1. รูปแรกก็ตามปกติเลยครับ ขึ้นชัตเตอร์ เลื่อนฟิล์ม ตั้งค่ารูรับแสงต่าง ๆ ให้พอดีกับสถานที่ ที่จะถ่าย แล้วกดชัตเตอร์ภาพที่ 1 เลยแนะนำว่ารูปที่ 1 ควรเป็นฉากพื้นหลัง หรือ ภาพอะไรก็ได้ที่เราจะเอาไปเป็นพื้นหลังของภาพที่ 2 (ต้นไม้ ภูเขา ใบหญ้า หรือกำแพง ก็แล้วแต่ไอเดียของผู้ถ่าย)2. การขึ้นชัตเตอร์โดยไม่ให้ฟิล์มหมุนตามตามปกติในกล้อง SLR ทั่วไปจะมีปุ่มหรือขาเกี่ยวสำหรับกันไม่ให้ฟิล์มหมุนตามการขึ้นชัตเตอร์ เราก็กดหรือเกี่ยวปุ่มนั้นแล้วขึ้นชัตเตอร์กล้องแบบที่ไม่ใช่ SLR จะเป็น Rangefider หรืออื่น ๆ วิธีก็ง่าย ๆ ให้เรากดไปที่ ปุ่มล็อคตัวเกี่ยวของหนามเตย เพื่อให้มันปลดล็อค ก็เหมือนเวลาที่เราจะกรอฟิล์มออก เพื่อเอาไปล้าง ไอ่ปุ่มนั้นแหละ กดไปเลยจ้าแล้วขึ้นชัตเตอร์ (สำหรับกล้องตัวไหนที่ กดเสร็จแล้วไม่เด้งกลับมา ให้ดึงมันกลับมาด้วยนะ ไม่งั้นภาพที่ได้อาจจะซ้อนกันเป็นสิบ ๆ รูปเลย)3. ขั้นตอนนี้ก็เล็งไปที่แบบหรือสิ่งที่เราอยากให้มันอยู่ด้านหน้าของพื้นหลัง ที่ถ่ายในขั้นตอนที่ 1 นั่นแหละ เราก็จะได้ภาพซ้อนมา 1 ใบแล้วจ้า ขั้นตอนง่าย ๆ แค่นี้เอง ที่เหลือก็รอไปลุ้นตอนล้างเอานะConcept & Color(เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-2048413/) เมื่อเราเรียนรู้ขั้นตอนในการถ่ายภาพซ้อนแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลย คือ Concept & Color หรือ แนวคิดในการถ่ายแต่ละรูป ถ้าหากเราถ่ายด้วยภาพซ้อนเฉย ๆ โดยที่ไม่ได้คิดอะไร ภาพที่ออกมานั้นมันก็คือภาพที่เป็นภาพซ้อนนั่นแหละ แต่ถ้าคุณมีไอเดีย หรือ แนวทางที่อยากจะถ่าย แล้วตั้งใจถ่ายออกมาให้เหมือนกับสิ่งที่คิดไว้ในหัว ภาพที่ออกมาจะทำให้คุณเหมือนมือโปรเลยทีเดียว เรื่องสี จะเกี่ยวข้องกับคอนเซ็ปต์ที่คิดมา ให้ร้อยเรียงไปในทางเดียวกัน หรือ จะทำแบบ Contrast สีไปเลยก็ได้ (การถ่ายภาพซ้อนด้วยกล้องฟิล์มสามารถใช้ฟิล์มแบบไหนก็ได้นะ ขอให้ใช้ได้กับกล้องก็พอ)คอนเซ็ปต์ในการถ่ายขึ้นอยู่กับไอเดียของแต่ละคน ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ มีดังนี้คอนเซ็ปต์แบบ Wedding คอนเซ็ปต์แบบผสมผสานระหว่างคน 2 คนคอนเซ็ปต์แบบผู้หญิงและดอกไม้คอนเซ็ปต์แบบอาร์ตPosition (เครดิตภาพ :https://pixabay.com/images/id-4590659/) ตำแหน่งของการวางภาพ แทบจะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลย และเป็นสิ่งที่พลาดง่ายมาก ๆ เช่นกัน การวางตำแหน่งที่เหมาะสมจะทำให้ภาพที่ออกมานั้น มีมิติและมีความหมายมากขึ้น หากเรามีไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่ดี แต่ลืมในเรื่องของตำแหน่งภาพไป อาจจะทำให้ความหมายที่เราต้องการจะสื่อนั้นหายไปเลยก็ได้ อย่างที่บอกว่ามันสำคัญและเป็นสิ่งที่พลาดได้ง่าย ๆ เลยคือ เมื่อเราถ่ายภาพพื้นหลังในครั้งที่ 1 แล้ว เราต้องเอากล้องลงมาจากระดับสายตาเพื่อขึ้นชัตเตอร์ครั้งที่ 2 และถ่ายตัวแบบลงไป ด้วยความที่กล้องฟิล์มนั้นไม่มี จุดตัด 9 ช่องแบบ Smartphone หรือใน กล้อง Digital มันเลยทำให้ลืมจุดที่ถ่ายพื้นหลัง และตำแหน่งจุดที่ 2 ที่เราจะถ่ายแบบลงไปแล้วนั่นเอง ยิ่งถ้าต้องการถ่ายพื้นหลังเป็นภูเขาและตัวแบบเป็นหน้าคนที่พื้นหลังเป็นฉากขาวแล้วละก็ มีโอกาสเสี่ยงที่จะลืมมาก ๆ วิธีแนะนำให้เราถ่ายคิดการถ่ายภาพโดยการคำนึงถึงตัวแบบในตำแหน่งต่าง ๆ เช่นจะถ่ายภาพตัวแบบซ้อนกับภาพดอกไม้ วิธีการคือ ถ่ายดอกไม้ตรง Center ของภาพ และ เราก็ถ่ายตัวแบบลงใน Center ของภาพอีกที หรือ ถ้าจะถ่ายในแบบอื่น ๆ ก็กำหนดตำแหน่งให้แน่นอนไปเลยในการถ่ายแต่ละครั้งหาภาพตัวอย่าง หรือ วาดภาพตัวอย่างที่อยากได้ เป็นไกด์ไลน์ก่อน เพราะถ้าหากต้องการได้ภาพแบบอาร์ต ๆ เราควรจะต้องมีภาพตัวอย่าง เพราะจะทำให้เราไม่ลืมนั่นเอง (เครดิตภาพ : https://pixabay.com/images/id-3778384/) การถ่ายภาพซ้อนนั้นสามารถกดถ่ายกี่ครั้งก็ได้ ขอเพียงฟิล์มไม่เลื่อนก็พอ แล้วแต่ไอเดียและคอนเซ็ปต์ของผู้ถ่ายเลย จะ 3 หรือ 10 ครั้งก็ได้ ตามสะดวกเลยจ้า สิ่งที่ผู้ถ่ายควรจะทำมาก ๆ เลยคือฝึกเยอะ ๆ ถ่ายเยอะ ๆ ยิ่งถ่ายมากขึ้นเรายิ่งเก่งมากขึ้นตามลำดับ ส่วนเรื่องความโปรของกล้องฟิล์มนั้น ผู้เขียนคิดว่ามันไม่สำคัญมากเท่าไหร่ ถ้ากล้องที่เรามีอยู่แล้วสามารถทำได้ครบตามที่ต้องการก็ถือว่าโอเคแล้ว แต่ถ้าอยากเปลี่ยนหรือหามาเพิ่มก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละบุคคล สุดท้ายนี้อยากจะบอกกับทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านว่า การที่กล้องฟิล์มกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ อยากให้ทุกคนที่ชื่นชอบ หรือกำลังจะลองเล่นได้สัมผัสกับมัน และช่วยกันอนุรักษ์ รักษา สิ่งนี้ไว้ เพื่อให้มันเติบโตขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ นะครับ