เมื่อใครสักคนพูดถึง “ขโมยขึ้นบ้าน” ภาพชายชุดดำแงะหน้าต่างยามวิกาลอาจผุดขึ้นมาเป็นสิ่งแรก แต่ความจริงกับจินตนาการนั้นอาจสวนทางกันก็ได้เพราะจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนร้ายปล้นบ้าน กองบัญชาการตำรวจนครบาลเคยเปิดเผยข้อมูลจากการศึกษาวิเคราะห์คดีที่เกิดขึ้นจริง พบว่ารูปแบบการปล้นบ้านของคนร้ายส่วนใหญ่ กลับไม่ใช่การไต่หลังคาเข้าบ้านยามวิกาล เหมือนที่พวกเราจินตนาการจากการดูหนังแต่นี่คือพฤติกรรมยอดฮิต 8 รูปแบบที่พา “ไอ้ตัวแสบ” เข้าถึงบ้านในชีวิตจริง1. รู้มาก่อน คนร้ายมักรู้ข้อมูลล่วงหน้าว่าวันเวลาใด บ้านหลังนี้จะไม่มีคนอยู่บ้าน จึงเข้าทำการลักทรัพย์2. รอทีเผลอ เฝ้ารอจนมั่นใจว่าคนในบ้านหลับ หรือออกจากบ้านไปซื้อของ แล้วจึงเข้าทำการลักทรัพย์3. เดินสายปล้น คนร้ายจะตระเวณไปตามหมู่บ้าน ถ้าพบว่าบ้านไหนไม่มีคนอยู่ ก็จะงัดแงะประตูหน้าต่าง ช่องระบายอากาศ หลังคาบ้าน ใช้กุญแจผี หรือทุบกระจกเข้าไปทำการลักทรัพย์4. หลอกเป็นเจ้าหน้าที่ คนร้ายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น พนักงานไฟฟ้า โทรศัพท์ ประปา เพื่อขอเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน แล้วหาทางปล้นทรัพย์5. ลวงเป็นช่าง คนร้ายอ้างกับคนในบ้านว่า เจ้าของบ้านให้มาซ่อมเครื่องใช้ภายในบ้าน หรือให้มารับเครื่องใช้ไปซ่อมแซม หรือเอาไปเปลี่ยนใหม่ พอเข้ามาได้ก็ทำการปล้นทรัพย์6. อ้างเป็นญาติ คนร้ายอ้างตัวเป็นญาติหรือเพื่อน ขอเข้ามารอพบเจ้าของบ้าน เมื่อสบโอกาสแล้วจึงลงมือปล้นทรัพย์7. มือไวใจเร็ว ไม่ได้ตั้งใจปล้นแต่แรก แต่เป็นคนงาน ช่าง หรือพนักงานที่เข้ามาติดตั้งหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน ขณะที่เข้าไปทำงานเห็นทรัพย์สินล่อตาล่อใจ เมื่อเห็นว่าคนในบ้านเผลอก็จะทำการลักทรัพย์8. เกลือเป็นหนอน คนรับใช้หรือคนงาน ทำทีลาออกหรือขอกลับไปเยี่ยมบ้าน แล้วกลับไปพาเพื่อนหรือญาติมาช่วยกันปล้นทรัพย์ บางรายใช้วิธีนัดแนะวันเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เปิดประตูทิ้งไว้ ไม่ใส่กลอน ไม่ใส่กุญแจ เพื่อให้พรรคพวกเข้ามาลักทรัพย์จะเห็นว่าการปล้นบ้านจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อบ้านนั้นมีสภาวะเป็นใจ เช่น ไม่มีคนอยู่บ้าน หรือมีคนอยู่แต่ชะล่าใจเปิดให้มันเข้ามาได้ และคนในบ้านนั่นแหละเป็นสายให้ขโมยเข้ามาและอย่าหลงคิดว่า ขโมยจะลงมือแต่ในยามวิกาล เพราะข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า การปล้นบ้านส่วนใหญ่มักเกิดตอนกลางวันแสก ๆ แปลกสุด ๆ ใช่ไหม เพราะใคร ๆ ก็ต้องคิดว่าเหล่าร้ายอยากได้ความมืดอำพรางตัว แต่ข้อมูลจากการสำรวจอาชญากรรมในสหรัฐอเมริกาปี 2016 พบว่า ช่วงเวลาที่ขโมยลงมือทำงานมากที่สุดคือ เที่ยงถึงบ่ายสี่ !ส่วนเวลาที่คนทั่วไปคิดว่าน่าจะมืดดี คือสี่ทุ่มถึงหกโมงเช้านั้น มีอาชญากรรมปล้นบ้านเกิดขึ้นเพียง 17% สาเหตุที่พี่โจรลงมือทำงานช่วงกลางวัน ก็เพราะมันสะดุดตาคนน้อยกว่า คิดภาพชายหนุ่มเดินไปเดินมาช่วงกลางวัน คงไม่มีใครคิดว่าเขามาปล้นเท่าไหร่ แต่ถ้าเห็นเขามาเดินที่เดียวกันในเวลาตีสามอาจดูน่าสงสัย ดังนั้นคนร้ายจึงชอบลงมือกลางวันมากกว่ายิ่งกว่านั้นเจ้าของบ้านมักออกไปทำงานหรือทำธุระช่วงกลางวัน ทำให้มีเวลาปลอดคนนานพอที่จะทำการสำเร็จ ขณะที่การปล้นกลางคืนนั้นเสี่ยงกว่า โอกาสที่จะถูกเจ้าของบ้านตื่นมาจ๊ะเอ๋กันก็มีมากทิปส์เพื่อความปลอดภัย ป้องกันโจรร้ายปล้นบ้านคุณ1) อย่าวางใจว่าจะกลางวันจะปลอดภัยกว่ากลางคืน ล็อคประตูบ้านของคุณให้แน่นหนาไว้เสมอไม่ว่าจะออกไปไหน ไม่ว่าธุระใกล้หรือไกล ไปแป๊บเดียวหรือไปหลายชั่วโมง2) ล็อคบ้านให้เว่อร์เข้าไว้ ให้ล็อคให้แน่นหนาทุกด้าน หัวขโมยจะแสบขนาดไหนมันก็คงไม่ชอบใจหากบ้านคุณต้องใช้เวลางัดแงะมาก ถ้าการเข้าบ้านยุ่งยากจนคำนวณแล้วมีเวลาไม่พอที่จะทำการชั่ว เป็นไปได้ที่มันจะปล่อยบ้านหลังนี้ไป เพราะยิ่งอยู่นานยิ่งเสี่ยงที่ใครจะมาเห็นเข้า ดังนั้นจงทำบ้านให้เข้ายากที่สุดเข้าไว้3) จอดรถทิ้งไว้ในบ้านเสมือนว่ายังมีคนอยู่ในบ้าน ต่อให้อยากปล้นแค่ไหน ขโมยก็ไม่อยากเข้าไปในบ้านที่ลังเลใจว่ายังมีคนอยู่หรือไม่มีกันแน่4) เสียงดังช่วยได้ ไม่มีอะไรเรียกความสนใจให้เพื่อนบ้านเปิดหน้าต่างมาดูได้เท่าเสียงดัง หัวขโมยส่วนใหญ่ใจจะขาดผึงถ้าเสียงสัญญาณกันขโมยโหยหวน ถ้ามีทุนทรัพย์พอให้ติดตั้งระบบขับไล่ด้วยเสียงไซเรนไว้ ถึงมันจะแงะเข้าไปได้แต่ช่วยโอกาสจะอยู่จนทำสำเร็จมีน้อยมาก5) เปิดประตูทุกครั้ง ระวังทุกคราว ถ้ามีคนในบ้าน กำชับทุกคนล่วงหน้าว่า ห้ามเปิดประตูให้ใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะอ้างว่าเป็นใครหรือเจ้าของบ้านสั่งให้มาทำอะไรก็ตาม ไม่ให้เปิดประตูต้อนรับเด็ดขาด ถ้าอยู่ในบ้านคนเดียว แล้วมีคนเอาของมาส่ง ตะโกนบอกให้วางไว้ข้างนอก6) ระวังเมื่อพบสิ่งผิดปกติ ถ้ากลับมาบ้านแล้วพบว่ามีอะไรผิดปกติแม้แต่เล็กน้อยที่ประตูบ้าน เช่น กลับมาพบประตูถูกงัดหรือมีเสียงคนในบ้าน จงอย่าเข้าบ้านเป็นอันขาด รีบไปหาเพื่อนบ้าน ขอใช้โทรศัพท์โทรแจ้งตำรวจทันที ภาพจาก pixapayภาพหน้าปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4