กลับมาอีกครั้งกับ “ดินแดนไร้เสียง” หรือ “A Quiet Place” ภาคสองที่จะมาส่งต่อความสยองและขนลุกผ่านความเงียบที่พร้อมทำให้คุณสะดุ้งได้ตลอดเวลา หลังจากภาคแรกได้ฉายไปเมื่อปี 2019 พร้อมกับกระแสตอบรับจากแฟนๆอย่างล้นหลามที่รับประกันถึงความลุ้นระทึกของหนัง สำหรับภาคสองนี้ได้เข้าฉายไปเป็นที่เรียบร้อยที่โรงภาพยนต์ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง “A Quiet Place” ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวที่ต้องใช้ชีวิตในความเงียบ เพราะหากส่งเสียงออกมา สิ่งมีชีวิตลึกลับจะออกไล่ล่าพวกเขา สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไรถ้าไม่ใช้เสียงเลย ซึ่งก็ได้ฝีมือการกำกับจาก จอห์น คราซินสกี้ (John Krasinski) และนักแสดงนำมากฝืมืออย่าง เอมิลี่ บลันต์ (Emily Blunt) และ จอห์น คราซินสกี้ที่ทั้งกำกับและเป็นนักแสดงหลัก มิลลิเซนต์ ซิมมอนด์ส (Millicent Simmonds) โนอาห์ จูป (Noah Jupe) สำหรับภาคต่อมานี้ว่าด้วยเรื่องราวที่เชื่อมจากภาคแรกคือหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจนที่อยู่เดิมพังทลาย ไม่สามารถอยู่ได้ ครอบครัวนี้จึงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อหาแหล่งที่อยู่ใหม่ จึงเกิดอุปสรรคที่ท้าทายและยากแบบโหดหินที่พวกเขาต้องเผชิญ ในหนังมีการเปิดเผยเรื่องราวก่อนหน้าที่จะโดยสัตว์ประหลาดเข้ามาทำลายเมืองด้วย จุดนี้เป็นจุดที่ใครหลายๆคนน่าจะอยากดูมากแน่ๆ ก่อนที่เมืองจะพังพินาศไปแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือมีการเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดสองไทม์ไลน์พร้อมๆกัน ทำให้คนดูอย่างเราต้องลุ้นระทึกตามทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน โดยมีการตัดสลับไปสลับมาอย่างลงตัว ตื่นเต้นเหตุการณ์นี้อยู่ก็ต้องมากลัวสัตว์ประหลาดจากอีกเหตุการณ์หนึ่งด้วย ซึ่งจุดนี้ต้องขอชมทีมงานมากๆว่าทำออกมาได้ลงตัวสุดๆ มันกลมกล่อมและสนุกมากในการบีบเรื่องราวเข้ามาให้คนดูแบบนี้ ส่วนใครที่มาเพื่อรอดูฉากลุ้นระทึกแน่นอนว่าภาคสองนี้ยิ่งกว่าภาคหนึ่ง ทั้งสะดุ้ง ทั้งลุ้น ตื่นเต้นและกลัวไปพร้อมๆกัน ยิ่งถ้าใครมีโอกาสที่จะไปดูในโรงภาพยนต์ได้ ขอแนะนำว่าควรดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนต์เพราะว่าถ้าได้ดูพร้อมจอใหญ่ๆ เสียงดังๆ ห้องที่มันเงียบๆ จะยิ่งเพิ่มความสนุกให้กับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างมาก ตอนแรกเองผู้เขียนเองก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าภาคแรกผู้เขียนไม่ได้ดูในโรงภาพยนต์ก็เลยไม่ได้อินกับหนังเรื่องนี้มากเท่าไหร่นัก คิดว่าก็สนุกตามประสาหนังไซไฟ สยองขวัญทั่วไป แต่พอได้มาชมภาคสองได้โรงภาพยนต์แล้วก็ต้องยอมเปลี่ยนความคิด เพราะว่ามันสนุกมากจริงๆ ตอนที่ดูไปก็เผลอกลั้นหายใจตามกลัวจะส่งเสียงดังไปด้วย และเพราะหนังมันเล่าด้วยความเงียบพอมีฉากให้สะดุ้งก็สะดุ้งไปเลยยิ่งกว่า ส่วนฝีมือการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะนักแสดงทุกคนพาเราที่เป็นผู้ชมไปถึงอารมณ์จริงๆ ชอบการที่ใช้ภาษามือเป็นตัวสื่อสารหลักของเรื่อง เป็นจุดที่น่าสนใจและเหมาะกับหนังเรื่องนี้มากๆจริง ภาคสองนี้ได้ มิลลิเซนต์ ซิมมอนด์ส (Millicent Simmonds) ที่รับบทพี่สาวคนโตมารับบทหลักของเรื่องด้วย ซึ่งมิลลิเซนต์ ซิมมอนด์สเองนั้นก็เป็นผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยินจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของการแสดงของเธอ กลับยิ่งทำให้มิลลิเซนต์เองแสดงบทบาทนี้ได้ลึกและทำให้คนดูเข้าใจยิ่งขึ้น แต่สำหรับตอนจบเองนั้น ถ้าใครที่ไม่ชอบตอนจบแบบให้ไปคิดเอาเอง ก็อาจจะผิดหวังได้ แต่ตอนจบแบบที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบ คือการตัดไปให้คนดูต้องคิดเอาเอง ซึ่งผู้เขียนเองก็คิดว่ามันมากพอแล้ว และเต็มอิ่มสำหรับเรื่องราวทั้งหมด ไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องราวอื่นๆต่อเลย แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบตอนจบแบบให้ไปคิดเอาเอง ก็อาจจะผิดหวังได้ สุดท้ายนี้สำหรับผู้เขียนเอง “A Quiet Place 2” เป็นหนังที่ควรค่าแก่การไปรับชม เนื้อเรื่องมีความเข้มข้น ในเทคนิคในการมาทำให้คนดูสะดุ้งได้น่าสนใจและลุ้นระทึก นักแสดงก็พาเราไปถึงจุดที่หนังมันพาไปได้ สนุกและสยองไปในเวลาเดียวกัน เป็นผลงานการผลิตที่ดูแล้วรู้เลยว่าตั้งใจทำกันมากจริงๆ ไม่ควรพลาดเลยสำหรับเรื่องนี้ และที่สำคัญถ้าใครสามารถหรือมีโอกาสไปดูในโรงภาพยนต์ได้ ควรจะลองดูสักครั้ง สามารถรับชมได้ผ่าน TrueIDhttps://www.youtube.com/watch?v=BpdDN9d9Jio Credit : ภาพปก : Paramount Pictures /ภาพที่ 1 : Paramount Pictures , AQuietPlace.TH /ภาพที่ 2 : A Quiet Place Part II Official /ภาพที่ 3 : AQuietPlace.TH /ภาพที่ 4 : Paramount Pictures ขอบคุณวิดีโอ A Quiet Place Part II (2021) - Final Trailer จาก Paramount Pictures จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !