TITANIC (ไททานิค) เป็นภาพยนตร์ชื่อดังเกี่ยวกับเรื่องราวความรักแสนโรแมนติกระหว่างแจ๊คกับโรส ที่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง กำกับโดยผู้กำกับมากความสามารถอย่างเจมส์ คาเมรอน โดยเจมส์สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นเพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เรืออาร์เอ็มเอส ไททานิก เกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 ในตอนค่ำแล้วเรือก็อับปางในเวลาต่อมา เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เขาจึงได้ยกเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาแล้วแต่งเติมเรื่องราวความรักของชายหญิงลงไปเปลี่ยนโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นเป็นความรักอมตะที่หลายคนยังจดจำและกล่าวถึงจนทุกวันนี้ หนังเริ่มขึ้นในยุคปัจจุบันที่มีกลุ่มคนต้องการที่จะหาเพชรเม็ดหนึ่งที่อาจจะมีมูลค่ามหาศาล พวกเขาดำน้ำลงไปค้นหาใต้ท้องทะเลจนได้พบกับซากเรือไททานิค หนึ่งในนั้นเป็นตู้เซฟที่บรรจุภาพวาดของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีหน้าตาสวยนอนเปลือยทั้งตัวพร้อมกับแขวนสร้อยที่พวกเขากำลังตามหา เมื่อเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ไปทางทีวีจึงทำให้โรส หญิงชราวัย 84 ปี ที่เป็นคนเดียวกับหญิงสาวในภาพวาด ผู้เป็นเจ้าของสร้อยเส้นนั้นเดินทางมายังกลางทะเลสถานที่ที่นักล่าสมบัติกำลังปฏิบัติการกันอยู่ พร้อมกับเล่าเรื่องในอดีตให้พวกเขาฟัง เรื่องราวทั้งหมดของไททานิคจึงเริ่มต้นขึ้นผ่านการเล่าเรื่องของโรสนั่นเอง โรสเล่าว่าในปี ค.ศ. 1912 เรือไททานิคที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือสำราญลำใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้กำหนดการออกเดินทางท่องทะเลเป็นครั้งแรก โดยจะแล่นจากสหราชอาณาจักรไปยังนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แจ็คเป็นเด็กหนุ่มผู้โชคดีเขาเล่นการพนันชนะและได้รางวัลเป็นตั๋วเพื่อขึ้นเรือไททานิคจำนวน 2 ใบ เขาจึงขึ้นเรือลำนั้นไปพร้อมกับเพื่อนของเขา หลังขึ้นไปบนเรือแจ็คได้พบกับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งซึ่งก็คือโรส กำลังจะฆ่าตัวตายบนดาดฟ้าของเรือ แจ็คจึงได้เข้าไปคุยและช่วยพูดให้เธอสบายใจ เธอจึงยอมกลับเข้ามาและการพบกันในครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตของเขาและเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ความรักของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นผมคิดว่าเล่าต่อไปคงจะหมดสนุกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นก็เข้าไปติดตามต่อกันได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง True ID ได้เลยครับ ทั้งนี้ผมต้องขอบอกไว้ก่อนนะว่าใน Netflix ไม่มีภาคไทยนะครับจะมีแต่ซับไทยเท่านั้น ส่วนตัวผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรอบที่สี่แล้วครับ แม้จะรู้เรื่องราวในแต่ละฉากหมดแล้ว แต่ทุกครั้งที่ดูก็ยังรู้สึกประทับใจในความรักของทั้งคู่อยู่ดี เพราะแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ตัวหนังก็สามารถถ่ายทอดให้เราได้เห็นถึงพลังความรักอันสุดแสนจะโรแมนติกได้อย่างสุดซึ้ง สิ่งหนึ่งที่หนังสามารถบอกเราได้อย่างชัดเจนคือความรักกับความเหมาะสมมันเป็นคนละเรื่องกัน การวางบทให้นางเอกเป็นเหมือนลูกคนรวย ฐานะดีในขณะที่พระเอกกลับแตกต่างกันสุดขั้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะยุคก่อนหรือแม้แต่สมัยปัจจุบันเองถือเป็นอุปสรรคของความรักที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะนั่นหมายความว่าทั้งสองคนจะต้องถูกเลี้ยงและเติบโตมาในสังคมที่แตกต่างกัน ความคิดและทัศนคติย่อมไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคือครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมักจะไม่ค่อยยอมรับจุดนี้มากนัก ซึ่งเราจะค่อย ๆ อินไปความรักของพระนาง พร้อมกับเอาใจช่วยพวกเขาให้ฝ่าฟันกับเรื่องดังกล่าวไปด้วย ฉากที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากในตำนานอย่างฉากที่แจ๊คกับโรสยืนกางแขนโต้ลมอยู่บนหัวเรือหรือฉากร่ำลาสุดสะเทือนใจในตอนท้าย แต่เป็นฉากที่พระเอกวาดรูปเปลือยของนางเอกนั่นต่างหาก ผมรู้สึกว่าฉากดังกล่าวเป็นฉากที่ทำให้เรารับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าของทั้งคู่ว่าสนิทสนมและไว้ใจกันมากขึ้นกว่าเดิมขนาดไหน เพราะเอาเข้าจริงเรื่องราวความรักของทั้งคู่มันเกิดขึ้นเร็วมาก แค่ไม่กี่วันเท่านั้น ก่อนหน้านั้นเป็นแค่การเล่าเรื่องราวความเป็นมาของตัวละครว่าแต่ละคนเป็นใคร มาจากไหน และรู้จักกันได้อย่างไร แต่หลังจากฉากนี้จะเป็นเรื่องราวของความรักที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จากความประทับใจกลายเป็นความชอบและเปลี่ยนเป็นความรักในที่สุดครับ นอกจากเรื่องราวที่น่าประทับใจแล้วที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้คงเป็นเพลงประกอบอย่าง My Heart Will Go On ที่ได้รับรางวัลมากมายเช่นเดียวกับตัวภาพยนตร์เลย เพราะมันเป็นตัวเร้าให้เราอินไปกับอารมณ์ของหนังได้ดีเหลือเกิน ทั้งเพลงประกอบ การดำเนินเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ บวกกับการคัดเลือกนักแสดงได้น่าดู พระเอกหล่อ นางเอกสวย และบทสรุปที่ซึ้งกินใจคนดูจนเป็นที่จดจำ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้จึงทำให้ไททานิคเป็นภาพยนตร์ที่สุดยอดตลอดกาลครับขอบคุณภาพจาก 20th Century Fox / Titanic 1 / Titanic 2 / Titanic 3 / Titanic 4