รีวิว Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค) หนังภาคต่อที่แจ่มกว่าภาคแรก โคตรบันเทิง สนุกครบรส ไม่ควรพลาด! บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)เรื่องราวจะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ภาคแรก 30 กว่าปี ซึ่งในภาคนี้ Maverick (รับบทโดย Tom Cruise) ได้รับคำสั่งจากโรงเรียน Top Gun ให้กลับไปฝึกเหล่านักบินหัวกะทิรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมตัวไปทำภารกิจสำคัญที่แทบเป็นไปไม่ได้ และหนึ่งในลูกศิษย์ที่เขาต้องสอนคือ Rooster (รับบทโดย Miles Teller) ลูกชายของ Goose เพื่อนสนิทของ Maverick ที่เสียชีวิตไปในภาคแรก ซึ่งในด้านของ Rooster เขาเกลียด Maverick เพราะเชื่อว่า Maverick เป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อเขาเสียชีวิต แถมตอนที่ Rooster สมัครเข้ากองทัพเรือครั้งแรก Maverick ยังไปดึงใบสมัครเขาออกอีก ทำให้เขาต้องเสียเวลาไปถึง 4 ปี เพื่อสอบเข้าใหม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้ Rooster ไม่ชอบหน้า Maverick ทว่าแท้จริงแล้ว ที่ Maverick ดึงใบสมัครของเขาออกนั้นมีเหตุผลอยู่ สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะสานสัมพันธ์กันได้ไหม และภารกิจสุดหินที่ดูจะเป็นไปไม่ได้ จะสำเร็จได้หรือไม่ บทสรุปของเรื่องราวในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง ภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค) ฉายแล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ตัวอย่าง Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)รีวิว Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)พูดได้คำเดียวสำหรับเรื่องนี้ สนุกชิบมากกก ก.ไก่ ล้านตัว สนุกจนอยากดูซ้ำ เป็นภาคต่อที่เหนือกว่าภาคแรกอีก งานมันออกมาดีมากๆ แต่อ่านจากเบื้องหลังแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ป๋าทอมแกทุ่มเทกับเรื่องนี้มาก เป็นหนังที่ดูได้ทุกคนจริงๆ เน้นความบันเทิง สนุกเต็มอิ่ม แต่ก็ไม่ไม่ได้ละทิ้งดราม่า และการที่ภาคนี้เล่นกับเรื่องราวการเสียชีวิตของ Goose ในภาคแรกมันก็ดีมากๆ ยิ่งช่วยส่งให้ภาคแรกน่าจดจำขึ้นกว่าเดิมอีก และความเจ๋งคือ ภาคนี้ห่างจากภาคแรกเกือบ 40 ปี แต่กลับเขียนบทออกมาให้เชื่อมกันแบบไม่เคอะเขินเลย ทุกอย่างมันลงตัวไปหมด ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ของพระเอกกับ Rooster (อันนี้ดีมาก) หรือความสัมพันธ์ของพระเอกกับเพื่อนเก่าอย่าง Iceman (ฉากงานศพคือดีเหมือนกัน) ชีวิตรักของพระเอก ส่วนนี้เป็นส่วนที่มาเสริมให้เราได้หัวเราะด้วยและมีมุมน่ารักๆ ช่วยให้หนังมันครบรสทุกอารมณ์ และสุดท้ายมิตรภาพของเหล่านักบิน อันนี้ก็สวยงามเช่นกัน ฉากเล่นวอลเลย์บอลริมหาดคือฉากที่ดีอีกฉากเช่นกัน คือมันดีมากจริงๆมาเริ่มกันที่เรื่องบทกันก่อน บทเขียนมาดี เกลี่ยบทได้ดี ตัวละครสมทบอื่นๆ มีบทแบบไม่น้อยไปไม่มากไป และตัวละครแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองจดจำได้ง่าย บทเรียงลำดับเรื่องมาดีมากๆเช่นกัน เริ่มที่การฝึก ให้ป๋าทอมโชว์เทพให้เด็กๆมันดู และก็ค่อยๆคลายปมต่างๆไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างทางก็มีฉากสนุกๆ แวะมาให้ดูตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อเลย สิ่งที่ชอบมากที่สุดคือช่วงท้ายเรื่องเลย มันทำไปสุดกว่าภาคแรก ภาคแรกแค่ซ้อมทั้งเรื่อง ออกไปทำภารกิจจริงครั้งนึง และจบ แต่ภาคนี้มันเจ๋งกว่า ฝึก และไปทำภารกิจ และตอนทำภารกิจนี่โคตรมันส์ ภารกิจมันงานหินสุดๆ และมีการเล่นกับเรื่องเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปด้วย เรื่องนี้ก็ทำการบ้านมาดี แต่มันขยี้ต่อ ทำภารกิจเสร็จ มีสถานการณ์ซื้้อใจกัน และพอช่วยได้นึกว่าจะจบแล้วนะ ยังไปต่อด้วยการบินด้วยเครื่อง F-14 แบบภาคแรกและบินกับ Rooster ลูกชายของ Goose อีก มันทำให้ทุกอย่างมันลงล็อคแบบสวยงามมากจริงๆต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้ก็ดีไร้ที่ติเช่นกัน อย่างที่บอก ไม่มีฉากไหนน่าเบื่อเลย เล่าเรื่องดี กระชับเข้าใจง่าย อธิบายเทคนิคการบินให้เข้าใจอย่างง่ายดาย ถือว่าสุดยอดจริงๆ ทำการบ้านมาดี้มาก ต่อมาในด้านการแสดง ส่วนนี้ผมเฉยๆนะ ทุกคนแสดงได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ได้ดีเวอร์จดตราตรึงใจ แต่หนังเรื่องนี้ความดีงามมันไม่ได้อยู่ที่การแสดงไง ดังนั้นการแสดงเอาแค่พอธรรมดาทั่วไปก็ได้ แต่ไปเน้นเรื่องอื่นๆ แทน ป๋าทอมก็แสดงเหมือนเรื่องที่ผ่านๆมา ฟิลเดิมเลย แต่มีอย่างที่คาใจ ทำไมป๋าแกหล่อขนาดนั้นวะ อายุ 59 แล้วนะนั่น ฉากเล่นวอลเลย์ที่แกถอดเสื้อนี่แบบ หุ่นแกแม้งอย่างฟิตเลย หล่ออมตะจริงๆ แต่แม้ว่าบทจะไม่ได้ส่งให้โชว์ฝีมืออะไรมากมาย แต่ก็ต้องให้เรื่องความทุ่มเทของนักแสดงทุกคนจริงๆ ในเรื่องการฝึกเพื่อมารับบท มันหินมากๆ เดี๋ยวแปะลิงก์ข่าวเบื้องหลังของเรื่องนี้ไว้ให้ด้านล่างสุดท้ายคือเรื่องงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ไม่มีอะไรจะติจริงๆ 10/10 ไปเลย งานสร้างโคตรอลังการ ฉากบินนี่มันส์ทุกฉากเลยจริงๆ และที่สำคัญคือมันสมจริงมาก เวลาบินแล้วเจอแรงจี จะเห็นหน้านักแสดงทุกคนเลย ว่ามันอึดอัดแค่ไหน และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะป๋าทอมให้ขึ้นบินจริงๆ สีหน้านั้นก็คือความรู้สึกของนักแสดงจริงๆ มันเลยสมจริงมาก อย่างที่บอก นักแสดงฝึกมาโหดทุกคน ส่วนด้านงานภาพก็ถ่ายออกมาอย่างดี สีแสงสวยงามทุกฉาก การตัดต่อ ลำดับเสียง ดีงามหมด เสียงเครื่องบินดังทั้งเรื่อง และเสียงได้อารมณ์มาก พื้นโรงหนังสั่นทั้งเรื่องอะคิดดู เพลงประกอบก็ดีงามเหมือนเคย ขอสรุปเลยแล้วกัน โดยรวมดีงามจริงๆ บทลงตัว มีครบทุกรสชาติ ความรัก มิตรภาพ ความบันเทิง สนุกจริงๆ ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูในโรงภาพยนตร์จริงๆ และถ้าได้ดู IMAX จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ไปดูกันเถอะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน รับประกันเลย ท้ายสุดนี้ขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค) ไว้ที่ 9/10 คะแนนฉากที่ประทับใจใน Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)ส่วนตัวผมชอบมากๆ อยู่ 2 ฉาก1. ฉากที่ Rooster เล่นเปียโนและร้องเพลงในบาร์ในตอนต้นเรื่อง : ฉากนี้ผมชอบมากๆ มันอิมแพ็คจริงๆ ด้วยความที่แคสต์นักแสดงมาดี คือ Miles Teller นักแสดงที่รับบทเป็น Rooster ลูกชายของ Goose นั้น หน้าตาแทบจะถอดแบบมาจากนักแสดงเก่าเลย หน้าคล้ายกันมาก เห็นหน้าก็เชื่ออะว่าเป็นลูก และฉากนี้เพลงที่เล่น คือเพลงที่โปรดของ Goose ที่ชอบเล่นและร้องกับพระเอกในภาคแรก แถมซีนนี้ยังมีย้อนให้ดูภาพจากภาคแรกด้วย โดยในซีนนี้ Rooster นั่งเล่นเปียโนร้องเพลงกับเพื่อน ส่วน Maverick (พระเอก) ยืนมองอยู่ข้างนอกบาร์ และยืนทำหน้าเศร้า เพราะเขาก็ยังไม่เคยทำใจได้เลยกับการที่ต้องเสียเพื่อนรักไป ฉากนี้ทำให้การเสียชีวิตของ Goose ในภาคแรกนั้นน่าจดจำขึ้นกว่าเดิมไปอีก ดีมากๆ ขนลุกเลยฉากนี้2. ฉากตอนท้ายที่ Maverick กับ Rooster ขับเครื่องบิน F-14 ด้วยกัน : ฉากนี้ก็สุดยอดเช่นกัน แถมยังให้ Rooster นั่งในที่ผู้ช่วยเหมือนกับพ่อของเขา ประทับใจซีนนี้มากจริงๆ และเป็นซีนที่ทั้งคู่เคลียร์ใจกันได้ ชอบที่ตอนท้ายก่อน Hangman มาช่วย ซึ่งฉากนั้น Maverick คิดว่าจะไม่รอดแล้ว และพูดขึ้นมาว่า ฉันขอโทษ Goose ที่ปกป้องลูกนายไม่ได้ เป็นบทพูดสั้นๆ ที่มีความหมายมาก เพราะ Maverick รู้สึกผิดมาก เพราะตอนที่ Goose เสียชีวิตไป ตอนนั้น Rooster ยังเด็กมาก เขารู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้ Rooster โตมาแบบไม่มีพ่อ ทำให้เขาอยากทำตัวเป็นพ่อให้กับ Rooster มันสวยงามมากจริงๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่พ่อลูกกันแท้ๆ แต่ก็รักกันจนสละชีวิตแทนกันได้ ชอบมากๆ ในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครนี้สุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง : Top Gun: Maverick (ท็อปกัน มาเวอริค)ผู้กำกับ : Joseph Kosinskiความยาว : 131 นาทีวันที่ฉาย : 25 พฤษภาคม 2022ระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทยช่องทางการรับชม : วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์คะแนน : 9/10ช่องทางอื่นๆในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Toscana ทัสคานี (2022) หนังโรแมนติก-ดราม่า ดูเพลิน พร้อมพากย์ไทยรีวิว Everything Everywhere All at Once (ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส) หนังไซไฟหลุดโลกที่โคตรดี และครบรสรีวิว A Perfect Pairing คู่นี้...คือเพอร์เฟค (2022) ความรักวุ่นๆของสาวชาวเมืองกับหนุ่มชาวไร่รีวิว 4KINGS อาชีวะ ยุค 90 หนังไทยเรื่องแรก จากค่ายเนรมิตรหนังฟิล์มรีวิว Stranger Things ซีซัน 4 Vol.1 (7 ตอนแรก) ภาคต่อที่โคตรดี สนุกจนไม่ได้นอน มีพากย์ไทย เครดิตภาพทั้งหมดจาก Facebook : Top Gunภาพปก : ภาพที่ 1 ภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6วิดีโอ : Top Gun: Maverick - Official Trailer 2 [ซับไทย] จาก Youtube : Major Groupคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน