วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ยหมัก เป็นปุ๋ยอินทรีย์ประเภทหนึ่ง ซึ่งวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ต่าง ๆ ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ซึ่งได้จากการย่อยสลายของอินทรีย์วัตถุจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของแข็งหรือของเหลว เกษตรกรนิยมใช้สำหรับปลูกพืชทางการเกษตร เพราะปุ๋ยหมัก มีธาตุอาหารครบถ้วน สามารถสร้างดินให้มีชีวิตได้ ซึ่งปุ๋ยหมักในประเทศไทยมีวิธีทำอยู่หลายรูปแบบ แต่รวม ๆ แล้วสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ การใช้อากาศและไม่ใช้อากาศในการหมัก การใช้อากาศในการหมัก หมายถึง ใช้อากาศเพื่อทำให้จุลินทรีย์ที่เติบโตได้ดีในกาศสามารถย่อยสลายพืชได้ (Aerobic) ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นปุ๋ยหมัก ส่วนการไม่ใช้อากาศ คือ ให้จุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศเติบโตได้ดี (Anaerobic) เช่นน้ำหมัก บ่อแก๊ส ซึ่งจะได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรดสูง ส่วนมากจะทำเพื่อผลิตแก๊สมีเทน สำหรับเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มหรือเครื่องยนต์สันดาป แต่บทความนี้จะพูดถึงการทำปุ๋ยหมักแบบกลับกอง เพื่อเติมอากาศให้แก่กองปุ๋ยหมักโดยใช้เครื่องจักรกลเข้าช่วยการกลับกองโดยเครื่องจักรกล เป็นวิธีการทำปุ๋ยหมักแบบเติมอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถเติมอากาศได้ตลอดเวลา เพราะการกลับกองเพื่อเติมอากาศ 5-7 วันต่อครั้งจะทำให้เป็นปุ๋ยได้เร็วขึ้น ประมาณ 40 วัน ก็เสร็จ และถ้ากลับกองทุก 10 วัน จะเป็นปุ๋ยภายใน 50 วัน ดังนั้นการเติมอากาศจึงจำเป็นต่อกระบวนการหมักปุ๋ยแบบ Aerobic ซึ่งส่วนผสมในกระบวนการนี้มีข้อจำกัด จะทำใช้ฟางหรือต้นพืชที่มีขนาดยาวได้ยาก เพราะจะเกี่ยวพันกับใบสกรูเครื่องกวน ดังนั้นวัตถุดิบที่จะใช้คือ เปลือกมัน ขี้เค้กอ้อย มูลสัตว์ หรือวัสดุที่มีขนาดเล็ก ซึ่งกระบวนการหมักจะใช้หรือไม่ใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ก็ได้ครับ แต่น้ำหมักค่อยข้างเป็นกรด หากนำมาใช้จะทำให้ปุ๋ยเป็นกรดได้ครับ ข้อควรระวัง ซึ่งหากต้องการจุลินทรีย์สามารถใช้มูลสัตว์แทนได้ครับ ไปดูวิธีการทำกันเลยครับ1. ขี้เค้กอ้อย 2 ส่วน เปลือกมันล้าง 2 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน ขี้เค้กอ้อยและเปลือกมันล้างจะมีคาร์บอนสูง และธาตุอาหารที่จำเป็นต่อพืชเยอะ ส่วนมูลสัตว์จะมีไนโตรเจน ช่วยในการหมักปุ๋ยได้2. ตักวัตถุดิบเข้าห้องหมักกระจายให้ทั่วกัน จากนั้นเปิดเครื่องกวน ซึ่งเป็นระบบที่ใช้บำบัดขยะของ SUT-MBT โดยจะเปิดกลับกองทุก 5-10 วัน ประมาณ 40-60 วันกระบวนการทำปุ๋ยก็เสร็จแล้วครับ โดยสามารถดูจากอุณหภูมิจะลดลงจากช่วงหมัก ไม่ค่อยมีไอน้ำระเหยขึ้น ไม่ค่อยมีกลิ่น สีจะออกดำ จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง หรือหากยังไม่รีบก็สามารถหมักต่อไปได้อีก เพื่อให้ย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ วิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ ในแบบนี้ อาจมีข้อจำกัดที่หน่วยงานเล็ก ๆ หรือ ประชาชนไม่สามารถเอาไปทำได้ เพราะมีต้นทุนสูง เหมาะกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่มีทุน ซึ่งมีข้อดีคือ สามารถทำปุ๋ยได้ทุกเมื่อเมื่อช่วงฤดูฝน การกลับกองทำได้ง่าย จึงทำให้ได้ปุ๋ยเร็วขึ้น การนำไปใช้กับพืช สามารถนำไปโรยรอบทรงพุ่มได้ตามปริมาณที่พอเหมาะ กรณีปลูกในกระถาง ควรผสมดินธรรมดาด้วยเพราะปุ๋ยที่ได้เป็นปุ๋ยล้วน ไม่ใช้ดินปลูกครับ สามารถผสมดิน 4 ส่วน ปุ๋ย 1 ส่วน โดยปริมาตร สูตรนี้ทดลองใช้จริงแล้วครับ ไนโตรเจนค่อนข้างสูง เวลานำไปใส่ พืชเขียวทันตาเห็นเลยครับ สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด หากต้องการใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี อาจจะต้องใช้ในปริมาณเยอะ เพราะธาตุอาหารหลักจะน้อยกว่าปุ๋ยเคมีโดยน้ำหนัก แต่ปุ๋ยอินทรีย์ให้ธาตุอาหารที่ครบถ้วนกว่าhttps://www.youtube.com/watch?v=AAcJgtQbGc0สามารถดูบทความที่เกี่ยวข้องได้ตามลิงก์ด้านล่างเลยครับวิธีการขยายพันธ์หรือการดูแลพืชอื่น ๆ วิธีขยายพันธุ์เงินไหลมาด่างชมพูข้อเดียววิธีขยายพันธุ์ต้นช้อนเงินช้อนทองโดยการควบแน่นบำรุงโขดชวนชมให้ใหญ่ โดยใช้สูตรนี้เรื่องของปุ๋ยปุ๋ยเคมีไม่ใช่สารพิษอย่างที่ใคร ๆ กล่าวหา"ปุ๋ยอินทรีย์" กับ "ปุ๋ยชีวภาพ" แตกต่างกันอย่างไร หลายคนมักเข้าใจผิดประเภทของปุ๋ยทางการเกษตร หน้าที่ต่างกันแต่ช่วยให้พืชงอกงามทันใจการดูแลพืชไร่พืชสวนสูตรปุ๋ยเพิ่มผลผลิตสำหรับยางพาราแชร์สูตรปุ๋ยเพิ่มผลผลิต-ระเบิดหัวมันสำปะหลังแชร์เคล็ดลับการปลูกหอมแบ่งให้สวย หัวดก ใบงาม ที่มาภาพและวีดีโอทั้งหมด: ลงท่งลงท่า (เจ้าของบทความ) #การทำปุ๋ยหมัก #ปุ๋ยทางการเกษตร #เกษตรอินทรีย์ #ประโยชน์ของปุ๋ยหมัก เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !