หน้าที่ของเอนไซม์แต่ละชนิดในระบบย่อยอาหาร ภายในร่างกายของมนุษย์เรานั้น ต่างประกอบกันด้วยระบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อน เพื่อจัดแจงให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน เพื่อให้ร่างกายของเราสามารถดำรงชีวิตอยู่เป็นวัฏจักรได้และมีอายุที่ยืนยาว ตลอดจนสามารถสืบเชื้อสายดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้อยู่ต่อไปอีกเป็นหมื่น ๆ ปี ดังนั้นจึงมีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านที่พยายามศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อให้รู้แจ้งเห็นชัดเกี่ยวกับการทำงานที่ซับซ้อนของมันและเพื่อให้เราได้รักษาดูแล ไม่ทำสิ่งใดเพื่อทำลายมัน ซึ่งหากเราไม่รักษาดูแลระบบต่าง ๆ นี้ ก็เท่ากับว่าเราทำลายชีวิตของตัวเอง ในปัจจุบันนี้มนุษย์จึงได้รับความรู้เกี่ยวกับร่างกายของพวกเขาเองอย่างมากมาย แต่ก็อาจจะยังจำหน้าที่ของแต่ละอวัยวะสลับกันไปมา ทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การให้ข้อมูลที่ผิด ๆ ต่อไปยังบุคคลอื่นได้ ดังนั้นจึงต้องทำให้บุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และปฏิบัติตนไม่ขัดแย้งกับการทำงานของระบบภายในร่างกาย แต่หากจะนำการทำงานทุกระบบมาอธิบายให้เข้าใจรวดเดียว ก็คงจะกลับไปจำสับสนกันเช่นเคย วันนี้จึงนำแค่ "หน้าที่ของเอนไซม์แต่ละชนิดในระบบย่อยอาหาร" มาอธิบายให้เข้าใจกันแบบสั้น ๆ ตามมาดูกันเลยCr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์อะไมเลส ( Amylase Enzyme )Cr.Picture : https://pixabay.com เอนไซม์อะไมเลส เป็นเอนไซม์ที่อยู่ภายในช่องปากและตับอ่อน ทำหน้าที่ในการย่อยแป้งให้กล้ายเป็นน้ำตาลมอลโทส และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเด็กน้อยหลาย ๆ คน ถึงชอบอมข้าวไว้ในปาก เพราะเวลาอมข้าวไว้ในปากนาน ๆ แล้ว เอนไซม์อะไมเลสนี้จะทำการย่อยดังกล่าว ทำให้ข้าวหรือแป้งนั้นมีรสชาติอมหวานนิด ๆ โดยภายในช่องปากของเรานั้นจะมีฟันที่ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารให้แตกละเอียดออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อนำไปสู่การย่อยเชิงเคมีในกระเพาะอาหารที่ง่ายขึ้น ซึ่งกระบวนการนี้จะเรียกว่า "การย่อยเชิงกล" เอนไซม์เพปซิน ( Pepsin Enzyme ) Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์เพปซิน เป็นเอนไซม์ที่อยู่บริเวณกระเพาะอาหาร ทำหน้าที่ในการย่อยโปรตีนต่าง ๆ เช่น เนื้อไก่ , เนื้อหมู , ไข่ไก่ , ปลา เป็นต้น ให้กลายเป็นโปรตีนที่มีโมเลกุลเล็กลงมา นั่นก็คือ "เพปไทด์" เพื่อสามารถนำไปสู่การย่อยต่อที่ตับอ่อน เพื่อให้ง่ายต่อการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกาย เอนไซม์เรนิน ( Renin Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์เรนิน เป็นเอนไซม์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารเช่นเดียวกับเอนไซม์เพปซิน แต่มีหน้าที่ที่ต่างกัน คือ เอนไซม์ชนิดนี้จะทำหน้าจำเพาะเจาะจง คือ ย่อยเฉพาะโปรตีนในน้ำนมเท่านั้น จะไม่ทำหน้าที่ในการย่อยโปรตีนอย่างอื่นโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเอนไซม์เพปซินและเพื่อไม่ให้เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน เอนไซม์ทริปซิน ( Tryptin Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์ทริปซิน เป็นเอนไซม์ที่พบได้ในตับอ่อน ทำหน้าที่ในการย่อยเพปไทด์ที่ได้จากการย่อยของเอนไซม์เพปซิน เพื่อทำให้เพปไทด์ถูกย่อยเป็นโมเลกุลที่เล็กลงกว่าเดิม นั่นก็คือ "กรดอะมิโน" เพื่อง่ายต่อการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายที่บริเวณลำไส้เล็ก เอนไซม์ไลเปส ( Lipase Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์ไลเปส เป็นเอนไซม์ที่พบอยู่ในตับอ่อน ทำหน้าที่ในการย่อยไขมันต่าง ๆ ที่เรารับประทานเข้าไปภายในร่างกาย โดยจะทำการย่อยไขมันให้กลายเป็นกรดไขมันและกลีเซอรอลแทน เพื่อให้โมเลกุลมีขนาดเล็กลงและง่ายต่อการดูดซึม เอนไซม์แล็กเทส ( Lactase Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์แล็กเทส เป็นเอนไซม์ที่พบได้ในลำไส้เล็ก ซึ่งจะทำหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลแล็กโทสน้ำตาลโมเลกุลคู่ ให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคสกับกาแล็กเทส ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เอนไซม์ซูเครส ( Sucrase Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์ซูเครส เป็นเอนไซม์ที่พบในลำไส้เล็ก ทำหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลซูโครส น้ำตาลโมเลกุลคู่ ให้กลายเป็นกลูโคสกับฟรักโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เอนไซม์มอลเทส ( Montase Enzyme )Cr.Picture : https://image.freepik.com เอนไซม์มอนเทส เป็นเอนไซม์ที่พบในลำไส้เล็กด้วยเช่นกัน ทำหน้าที่ในการย่อยน้ำตาลมอลโทส น้ำตาลโมเลกุลคู่ เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว นั่นก็คือ น้ำตาลกลูโคส จากการอธิบายมาทั้งหมดก็ทำให้เห็นได้แล้วว่า อาหารที่เรารับประทานเข้าไปทั้งหมดนั้น ร่างกายของเราสามารถทำการย่อยสลายได้ โดยนำสารอาหารที่ร่างกายต้องการและสารอาหารที่มีประโยชน์ ดูดซึมเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย เพื่อให้เซลล์ต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดี แต่การที่ร่างกายสามารถย่อยสลายอาหารทุกชนิดได้หมดนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถรับประทานอาหารอย่างไรหรืออะไรเข้าสู่ร่างกายก็ได้ เพราะการรับประทานที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปนั้น ก็ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเท่าไหร่นัก ดังนั้นเราจึงควรรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ และไม่เป็นพิษต่อร่างกายจะดีที่สุดCr.ภาพปก : https://pixabay.com