เกาะล้าน เกาะกลางทะเลใกล้กรุงเทพ ฯ ที่เราเคยได้ยินชื่อมานานแต่ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสครั้งนี้ ปลายปีในช่วงคริสมาสต์ฉันเราจึงตัดสินใจที่จะไปเยือนที่แห่งนี้สักที และทริปนี้จะเป็นทริปเรื่อยเปื่อยของคนขี้เกียจการเดินทางไปเกาะล้านเข้าใจง่าย และไม่ซับซ้อน ขนส่งเอกมัยเป็นสถานที่แรกที่เราเดินทางไปซื้อตั๋วมุ่งหน้าจากกรุงเทพ ฯ สู่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา ด้วยรถตู้ราคา 150 บาท และจากแหลมบาลีฮายขึ้นเรือโดยสารราคา 30 บาท ไปสู่ท่าเรือหน้าบ้านของเกาะล้าน (รอบเรือจากแหลมบาลีฮาย-ท่าเรือหน้าบ้าน เกาะล้าน 7.00 น. | 10.00 น. | 12.00 น. | 14.00 น. | 15.30 น. | 17.00 น. | 18.30 น.)จากท่าเรือไม่กี่อึดใจ รถโดยสารจากที่พักก็เข้ามารับเรา ครั้งนี้เราเลือกพักที่ Check-in Resort ที่พักแสนอบอุ่นลึกเข้าไปในตัวเกาะ ค่อนไปทางหาดตายาย ที่นี่เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอกับความต้องการ ทั้งในส่วนของมอเตอร์ไซค์ให้เช่าของทางที่พักเอง (ราคา 300 ต่อวัน ไม่ต้องเติมน้ำมันและสามารถมาเติมที่ที่พักได้เมื่อน้ำมันหมด) รวมไปจนถึงพื้นที่สำหรับปิ้งย่างบรรยากาศใน Check-in Resort นั้นทำได้ดีทั้งการตกแต่ง ความสะอาดของห้อง ไปจนถึงบรรยากาศแสนอบอุ่นยามค่ำคืน และแน่นอนที่พักที่ดี...ต้องมีแมวSoul Sweet ' Koh Larn คาเฟ่แห่งแรกที่เราแวะพักเพื่อเติมพลังหลังจากขับมอเตอร์ไซค์สำรวจเกาะมาได้สักพักหนึ่ง กล้าบอกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นค่าเฟ่ที่น่ารักเป็นอันดับต้น ๆ ในเกาะล้านเลยก็ว่าได้ การตกแต่งร้านด้วยตุ๊กตาหลายสิบตัวที่มองเห็นได้ตั้งแต่หน้าร้านผนวกกับสีร้านที่หวานละมุนและดูอบอุ่นอย่าบอกไม่ถูก ดึงดูดเราให้เข้ามานั่งคุยเล่นสักพักใหญ่ๆ เมื่อ เครื่องดื่ม กาแฟ และอาหารถูกนำมาเสิร์ฟก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยแม้แต่น้อย ทั้งรสชาติและปริมาณ นับว่าเป็นคาเฟ่ที่ครบทั้งมิติความน่ารัก ไปจนถึงคุณภาพเลยทีเดียวในการไปครั้งนี้เราแทบไม่รู้อะไรเลยเรื่องหาดทราย และไม่ได้อ่านรีวิวใด ๆ เพียงแต่ขับมอเตอร์ไซค์ตามป้ายบอกไปเรื่อย ๆ เจอที่ไหนก็แวะพัก จนกระทั่งมาถึง หาดเทียน เราจอดรถตรงสะพานปูนที่เป็นจุดสิ้นสุดของถนนเพื่อเดินต่อไปยังหาด ครั้งแรกที่เราเห็นชายหาดและทะเลของเกาะล้านใกล้ ๆ เราแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทรายขาวละเอียดกับน้ำที่ใสสีเขียวมรกตจนมองเห็นก้อนหินด้านล่าง ไม่น่าเชื่อว่าที่แห่งนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพ ฯ มิหนำซ้ำยังอยู่ถัดจากเมืองใหญ่ ๆ อย่างพัทยา นั่นทำให้เราหลงรักทะเลของที่นี่ได้ไม่ยากเลยไม่นานก็เย็นย่ำ ยังไม่ทันได้ไปไหนต่อก็ต้องหาของกินมาใส่ท้อง เราเลือกจะฝากท้องที่ ครัวพวงพยอม ร้านอาหารริมทะเลใกล้ๆ กับที่พัก ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย คุ้มค่า และบรรยากาศที่สวยงามตามฉบับร้านอาหารริมทะเล ซึ่งแน่นอนว่าไม่ทำให้ผิดหวังอีกตามเคย อาหารทะเลที่สด สะอาด อร่อย และราคาไม่แพงขนาดนี้ นาน ๆ จะมีโอกาสได้รับประทานสักทีในวันต่อมา...ถึงแม้ว่าจะตื่นช้าสักหน่อยให้เข้ากันกับการเป็นทริปขี้เกียจ แต่กาแฟหอม ๆ สักแก้วตอนบ่ายแก่ ๆ คงจะดีไม่น้อยสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ Indigo Cafe ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ลงตัวด้วยวิวทะเล และโลโก้แมงกระพรุนน้อย สะท้อนคำว่าน้อยแต่มาก (less is more) ออกมาได้ชัดเจน ยามเช้าของเราได้เริ่มขึ้นแล้ว และมันเริ่มต้นอย่างดีเลยทีเดียวหลังจากปัดรีวิวใน true ID ได้นานสองนาน หาดนวล หาดทรายที่เราอยากไปสัมผัสมาก ๆ เนื่องจากก่อนจะไปถึงเราจะพบกับพื้นที่ที่สวยงามอย่างทุ่งดอกหญ้า เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงไม่รอช้าก็สตาร์ทเครื่องรถมอเตอร์ไซค์และมุ่งหน้าไปยังหาดนวลทันที ผ่านถนนหน้าชุมชนมาได้เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น วิวทิวทัศน์ที่ไม่นึกฝันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า พื้นที่กว้างใหญ่ปลอดโปร่งกับแสงอาทิตย์ยามเย็นนั้น ทำให้เราเกือบหยุดหายใจ แม้ว่าเกาะล้านปกติจะเป็นพื้นที่ที่เราสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงได้แล้ว แต่ที่ตรงนี้ที่ทุ่งดอกหญ้านั้น มันเป็นความสงบที่เหนือล้ำขึ้นไปอีกรูปแบบหนึ่ง ลมเย็น ๆ ที่ไหลเอื่อยผ่านร่างกายในขณะขับรถ พื้นที่สีเขียวขจีทัศนียภาพกึ่งภูเขา สลับกับดอกหญ้าที่ขึ้นแซมไล่ไปจนสุดลูกหูลูกตา แสงสีทองของยามเย็น รวมกับกลายเป็นบรรยากาศที่ไม่อาจลืมเลือนได้เลยในที่สุดก็ถึง หาดนวล เรานั่งทอดน่องอยู่บนโขดหินที่สุดริมขอบหาดคอยมองแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าไป ผู้คนมากมายต่างพากกันมาจับจองโขดหินของตน บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาคนเดียว เราไม่ได้สนทนาอะไรกันมากนัก อาจทักทายกันตามประสาเพื่อนร่วมเดินทาง แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน...ทุกสายตาจับจ้องไปที่เส้นขอบฟ้าด้วยความเงียบสงัด หากแต่มีมวลของความอบอุ่นตลบอบอวลไปทั่ว ราวกับว่าพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเชื่อมถึงกันที่เส้นขอบฟ้าเดียวกันนี้ กลายเป็นมวลความรู้สึกแปลกใหม่ที่เราเพิ่งเคยได้สัมผัสจากการมาเที่ยวทะเล และเกาะล้านก็ได้มอบประสบการณ์นี้ให้แก่เรา ขอบคุณแหวนสวยๆ จาก www.facebook.com/kween.307ทะเลเป็นพื้นที่ที่ท้องฟ้า ผู้คน ผืนน้ำ และผืนทราย เชื่อมเข้าหากัน วันนี้ฉันได้เห็นแล้วว่าความหมายมันคืออะไร ธรรมชาติสามารถชะล้างความทุกข์ ความเหนื่อยล้า ตลอดจนความไม่สบายใจได้อย่างดีเยี่ยมจริง ๆ อีกทั้งยังกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย (safe zone) ของใครหลายคนที่ได้มาอีกด้วยมื้อดึก...แน่นอนว่ามาทะเลทั้งทีก็อยากทานอาหารทะเลให้เต็มคราบ บุฟเฟ่ต์เป็นคำตอบสุดท้ายของมื้อนี้ ขับรถเข้ามาทางชุมชนจะเห็นป้ายไฟสีเหลือง ๆ เขียนว่า เจ๊ตุ้มบุฟเฟต์ทะเลเผา เพียง 399 บาท อาหารทะเลทั้งหมดบนโต๊ะหน้าร้านจะกลายเป็นของเราทันที จังหวะนี้คงไม่มีอะไรที่ทำให้เรามีความสุขมากไปกว่าการได้ทานอาหารทะเลสดใหม่แบบไม่อั้นอีกแล้ว มื้อนี้เราซัดไปเต็มคราบเรียกว่ามื้อเดียวคุ้มไปจนจบทริปเลยก็ว่าได้ วันสุดท้าย...เราเริ่มต้นด้วยกาแฟหอมๆ จากร้าน Fat Submarine Cafe คาเฟ่น่ารักมีสไตล์ที่หลบอยู่บริเวณตลาดนัดตรงข้ามวัดใหม่สำราญ ด้วยวิวติดทะเล กับการจัดร้านที่สวยงาม ทำให้คาเฟ่แห่งนี้เคยได้รับคำขนานนามว่าวิวหลักล้านเลยทีเดียว บรรยากาศภายในร้านดูสบายๆ น่ารัก และเป็นกันเอง ที่นั่งติดริมทะเป็นไฮไลท์ที่ทุก ๆ คนที่มาอดไม่ได้ที่จะต้องไปนั่งและถ่ายรูปสักสองสามภาพ เครื่องดื่มและขนมจัดมาอย่างสวยงามแต่รสชาติก็ดีไม่แพ่หน้าตาเลยทีเดียว นอกจากนี้เรายังได้รับบราวนี่ฟรีจากทางร้านเนื่องในวัน Christmas อีกด้วยมื้อหลักเราฝากท้องไว้กับ Sea Space ร้านดังของเกาะล้านที่อาหารทั้งอร่อยและสะอาด และวิวทิวทัศน์ที่ได้นั้นนับว่าเยี่ยมยอดสมคำร่ำลือจริง ๆ จบวันด้วยหาดเล็ก ๆ ที่ใกล้ที่พักที่สุดอย่าง หาดตายาย หาดแห่งนี้ไม่ใช่ไฮไลท์ของเกาะล้านเท่าไหร่นัก ด้วยความที่เป็นหาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่สุดเกาะ หากแต่มันนำมาซึ่งบรรยากาศของความเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก เราสูดหายใจเข้าได้อย่างเต็มปอด และพบกับคำว่าการพักผ่อนที่แท้จริง ที่หาดแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คน และเสียงคลื่นทะเลชัดเจนที่ทุดในทุกหาดที่ผ่านมา ลมเอื่อย ๆ พักโชยกับเคล้ากับเสียงคลื่น เรานั่งเฉย ๆ อยู่บนผืนทรายขาวละเอียดอย่างผ่อนคลาย ปล่อยเวลาให้ผ่านไป และผ่านไปวันกลับ...เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย Check out ก่อน 11.00 น. ตามข้อกำหนดที่แจ้งไว้ รถจาก Check-in Resort จะพาไปส่งยังท่าเรือหน้าบ้านเพื่อให้ทันขึ้นเรือรอบ 12.00 น. เนื่องจากมีเวลาอยู่อีกนิดหน่อย แวะเติมพลังสักหน่อยคงจะดี เราเหลือบไปเห็นร้านอาหารสีขาวน่านั่งไม่ไกลจากท่าเรีอเท่าไหร่นัก เราจึงตัดสินใจที่จะไปทางอะไรสักหน่อยก่อนกลับที่ One Million Cafe & Eateryไม่นานเรือโดยสารก็มาถึง...เวลาบนเกาะล้านผ่านไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่เขาพูดกันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นผ่านไปไวเสมอ เกาะล้านกลายเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่เราปักหมุดเอาไว้ว่าครั้งต่อไปจะมาอีกถ้ามีโอกาส ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะใกล้กับกรุงเทพ ฯ แต่มันกลับเหมือนว่าเราได้หลีกหนีผู้คน รถติด และความเร่งรีบ ออกมาได้ไกลแสนไกลเหลือเกิน...ลาก่อนเกาะล้านวันหน้าเจอกันใหม่เนื้อหาเพิ่มเติม www.facebook.com/bokchoystory