สวัสดีค่ะน้อง ๆ ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ทุก ๆ คน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีน้อง ๆ ม.ต้น กำลังที่จะจบการศึกษามัธยมที่ 3 ซึ่งก็น่าจะทำให้มีน้องบางคน กำลังมีคำถามนี้อยู่ในใจกันแน่ ๆ ก็คือ "เรียนต่อ ม.ปลาย สายไหนดี?" วันนี้พี่ก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์การเลือกเรียนต่อ ม.ปลาย ของแต่ละสายค่ะ ว่าแต่ละสายการเรียนเนี่ยจะมีความยากง่าย หรือว่าแตกต่างกันอย่างไร อันดับเเรกเลยที่น้อง ๆ จะต้องรู้ก็คือ น้องอยากเป็นอะไร อยากทำอาชีพไหนในอนาคต? ซึ่งถ้าน้องคนไหนที่รู้ตัวเร็วว่าตัวเองอยากที่จะเป็นอะไร อยากทำอาชีพไหน ก็จะได้เปรียบมากกว่าเพื่อนคนอื่นมาก ๆ เลยค่ะ มันจะทำให้น้องตัดสินใจในการเลือกเรียนต่อในสายนั้น ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเลือกเรียนสาขาต่าง ๆในมหาวิทยาลัยเลยด้วย ถ้าน้องมองจากข้างบนลงมาข้างล่าง(อาชีพที่จะเป็น ลงมาสาขาที่ควรเรียน) มันก็อาจจะทำให้น้องตัดสินใจได้ง่ายกว่า คนที่มองจากข้างล่างไปข้างบน (สาขาที่จะเรียนไปสู่อาชีพ) เพราะเเต่ละสาขาที่เราเรียนเนี่ย บางสาขาก็สามารถเเยกไปประกอบอาชีพอื่น ๆ ได้อีกมากมายเลย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสมัยนี้ อาชีพเปิดกว้างมาก ๆ ยังมีอีกหลายอาชีพที่น้องยังไม่รู้จัก ซึ่งทุกอาชีพล้วนมีความสำคัญเท่า ๆ กัน คำถามที่พี่มักเจอบ่อย ๆ เลย ก็คือQ : เรียนต่อสายไหนดีที่สุด?A : พี่ขอตอบเลยนะคะ ว่าไม่มีสายไหนดีที่สุด ทุกสายมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน จบไปมีอาชีพทำ มีเงินเดือนมาก/น้อย ก็แล้วแต่อาชีพที่น้องจะไปประกอบสายวิทย์-คณิต : สายที่ใคร ๆ ก็ต่างบอกว่าดีที่สุด แต่ถ้าน้องเข้ามาเรียนจริง ๆ แล้วพี่บอกเลยว่าถ้าไม่ชอบจริง ๆ คือเรียนไม่ได้แน่ ๆ เพื่อนพี่บางคนเข้ามาเรียนตามเพื่อนอีกที ปรากฏว่าพอเรียนไปเรื่อย ๆ แล้วไม่ชอบ มันยังไม่ใช่ ก็ต้องซิ่วรอเรียนใหม่ปีต่อไปก็มีนะ น้องต้องถามตัวเองด้วยว่าน้องมีใจรักในสายนี้จริง ๆ ไหม เรียนหนัก แถมงานยังหินอีกต่างหาก ทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ซึ่งก็อาจจะมีบางวิชาเพิ่มเติมอีก แล้วแต่โรงเรียนที่น้องเลือก แต่หลัก ๆ ก็จะมีตามที่พี่กล่าวไป หน่วยกิตก็เยอะกว่าสายอื่น ๆ แต่ดีตรงที่ว่าจบไปแล้วมีคณะและสาขารองรับสายนี้เยอะกว่าสายอื่น ๆ ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นคุณหมอ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ เภสัช พยาบาล ก็เข้าเรียนสายนี้ได้เลย เพราะถ้าเป็นสายอื่นแล้วเบียวมาเรียนหมอ พยาบาล น้องปวดหัวแน่ ๆ เพราะน้องต้องพยายาม และปรับพื้นฐานหรือเรียนเสริมเพื่อให้ตามทันเพื่อน ๆสายศิลป์-อาชีพ : สายที่หลาย ๆ คนอยากเข้าเรียนด้วยเหตุผลที่ว่า เรียนง่าย ปล่อยเกรด ไม่จริงเลย เด็กสายศิลป์จะรู้ดี 555 ถึงแม้จะเป็นสายที่หน่วยกิตเบากว่าวิทย์-คณิต แต่การเรียนและงานต่าง ๆ ก็จะมีความยากไม่ต่างจากวิทย์-คณิตเลยสายศิลป์-คำนวณ : สายในฝันของคนที่ชอบคณิต แต่ไม่ชอบวิทยาศาสตร์ 555 ซึ่งสายนี้ก็จะเรียนหนักเรื่องคำนวณ มีเรียนคณิตเพิ่มเติมหนักเหมือนคณิตในสายวิทย์ รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ก็อาจจะค่อนข้างหนักเหมือนศิลป์-อาชีพเลยด้วย ดังนั้นใครที่จะเลือกเรียนสายนี้ ต้องรักคณิตศาสตร์ด้วยนะ!สายศิลป์-ภาษา : สายนี้บางโรงเรียนก็อาจจะมีแยกย่อย ๆ ไปอีก เช่น ศิลป์-อังกฤษ, ศิลป์-จีน, ศิลป์-เกาหลี, ศิลป์-ฝรั่งเศส ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าเขาเปิดสอนศิลป์ภาษาไหนบ้าง สายนี้จะเรียนหนักเรื่องภาษามาก ๆ ซึ่งถ้าใครชอบภาษา หรือมีพื้นฐานทางภาษาดีอยู่เเล้วก็ได้เปรียบหน่อย แต่ยังไงขึ้นมา ม.4 น้อง ๆ ทุกคนต้องได้เรียนปรับพื้นฐานกันอยู่แล้ว ซึ่งน้องคนไหนที่พื้นฐานไม่แน่น ก็อาจจะต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น ๆ ด้วยนะ ใครอยากเป็นล่าม นักเขียน นักการฑูต ก็เลือกสายนี้ได้เลย (ยังมีอาชีพอื่นที่เรียนสาขานี้ได้อีกนะ ลองหาข้อมูลดู พี่แค่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพคร่าว ๆ นะ)กศน. (การศึกษานอกระบบ) : ไม่ใช่เรื่องแปลก หากน้องจะเลือกเรียน กศน.แทนที่จะเรียนต่อสายสามัญเหมือนคนอื่น ๆ สายนี้ถ้าน้องคนไหนต้องการที่จะมีเวลา ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย หรือต้องการที่จะค้นหาว่าตัวเองชอบอะไร ก็สามารถเลือกเรียนสายนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดหรือน่าอายเลย ซึ่งถ้าเรียนจบ(เทียบเท่า ม.6) น้องก็มีโอกาสเลือกเรียนได้ 2 ทาง คือ 1. เรียนสายอาชีพต่อไปเลย หรือ 2.เรียนมหาวิทยาลัยต่อ ซึ่งถ้าสายอาชีพก็จะไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ เพราะน้องเรียนมาตรงสาย แต่ถ้าน้องเบียวกลับมาเรียนต่อมหาวิทลัย ก็อาจจะยากหน่อยเพราะต้องพยายามมากกว่าคนอื่นนิดนึง ในเรื่องพื้นฐานหรืออะไรต่าง ๆ ถามว่ามีโอกาสไหม? มันก็มี ขึ้นอยู่กับความพยายามของน้องQ : ผม/หนูยังไม่รู้เลย ว่าตัวเองอยากทำอาชีพไหนในอนาคตA : ถ้าน้อง ๆ ยังไม่รู้ตัวเองอยากที่จะประกอบอาชีพไหนในอนาคต พี่แนะนำให้น้องสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวันของน้องเลยค่ะ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ง่ายมาก น้องเป็นคนนิสัยแบบไหน น้องชอบทำอะไรในเวลาว่าง น้องชอบเรียนวิชาอะไร น้องชอบที่จะช่วยเหลือผู้คน น้องชอบดูแลคนอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งมันก็จะเป็นตัวชี้ได้ว่าน้องสามารถประกอบอาชีพอะไรในอนาคตได้ หรือจะเลือกทำแบบทดสอบประเมินผลที่เกี่ยวกับอาชีพก็ได้นะ สมัยนี้มีเยอะมาก เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้น้องได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเลย ที่สำคัญเลยคือ อย่าตามเพื่อน สักวันนึงน้องก็จะเเยกย้ายกันไปใช้ชีวิต น้องยังมีเวลานัดพบปะกันได้นะเป็นยังไงกันบ้าง พี่หวังว่าน้อง ๆ ที่ได้อ่านบทความนี้ จะพอจะมีแนวทางในการเลือกเรียนสายต่าง ๆ ได้มากขึ้นนะ ขอบคุณที่อ่านบทความนี้จนจบนะคะ หวังว่าบทความของพี่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ในการตัดสินใจของน้อง ๆ นะ สายการเรียนแต่ละสายมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน อย่าลืมนะคะ เลือกตามที่คิดว่าเป็นตัวน้องมากที่สุดแล้วทุกอย่างจะดีเอง ขอให้โชคดีนะคะ :) ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน