อื่นๆ

เรื่องลี้ลับ ตอนที่ 1 "ทางกลับบ้าน"

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องลี้ลับ ตอนที่ 1  "ทางกลับบ้าน"

เมื่อยามอาทิตย์อัสดง สายลมอ่อนๆ ยามเย็นจากทางทิศเหนือ ที่พัดผ่านต้นไม้ ใบหญ้า และท้องทุ่งนา เป็นสัญญานถึงการเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลเข้าสู่หน้าหนาว ดวงตะวันค่อยๆ ลับลงหลังเส้นขอบฟ้า  แสงสีทองของท้องฟ้ายามเย็นเริ่มเลือนลางความมืดยามค่ำคืน กำลังดูดกลืนสีสันจากทุกสรรพสิ่ง ให้กลายเป็นโลกแห่งสีเทาและสีดำ

อาทิตย์ตก เอก เด็กหนุ่มวัย 17 ปี  นักศึกษาช่างยนต์ ระดับชั้นปวช กำลังควบรถมอเตอร์ไซด์คู่ใขคันเก่า ผ่านถนนทางลูกรังเข้าหมู่บ้าน หลังจากกลับจากวิทยาลัยในตัวจังหวัด โดยถนนทางลูกรังนี้จะตัดผ่านบริเวณที่เป็นทุ่งนาเป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เพื่อไปยังหมู่บ้านที่เอกอยู่ ถนนซึ่งแสงสว่างจากไฟข้างทาง จะมีก็เพียงแสงไฟจากไฟหน้ารถของเอกเท่านั้น ที่พาเอกและมอเตอร์ไซค์คู่ใจทะยานผ่านความมืด แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่เอกใช้ผ่านเป็นประจำ แต่เอกเองก็ไม่ค่อยจะได้กลับเวลานี้เท่าไหร่นัก แต่เนื่องจากในวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของภาคเรียน หลังจากสอบเสร็จเอกจึงไปสังสรรค์ เฮอากับเพื่อนร่วมชั้น ตามภาษาวัยรุ่นทั่วไป ทำให้วันนี้เขาเดินทางกลับบ้านในเวลาที่ช้ากว่าปกติ

Advertisement

Advertisement

คนขี่มอเตอร์ไซค์ กลางคืน ความมืดและความวังเวงของทุ่งนาสองข้างทาง รวมกับความหนาวเย็นหน้าหนาว ทำให้ดูเหมือนระยะทาง 8 กิโลเมตรนี้ ช่างยาวนานและสร้างความรู้สึกน่าขนลุกให้กับเอกได้ไม่น้อย เขาจึงพยายามเร่งเครื่องเพื่อให้สามารถผ่านไปให้เร็วมากที่สุด จนมาถึงโค้งต้นใหญ่สองต้นคู่หนึ่ง ซึ่งเลยไปอีกไม่ไกลก็ถึงปากทางเข้าหมู่บ้านแล้ว แสงไฟหน้ารถของเอก ส่งไปกระทบที่บริเวณโคนของต้นไม้ ในจังหวะที่เอก กำลังจะผ่านไป เขารู้สึกเหมือนเห็นเงาดำๆสองเงาที่บริเวณโคนต้น  เขาจึงหันหน้าไปกลับไป แต่ก็ไม่มีอะไรนอกจากความมืดและความว่างเปล่า เขาคิดว่าคงตาฝาดไปเอง     จึงหันหน้ากลับมา แต่เขาก็พบว่า รถมอไซด์ของเขากำลังค่อยๆ หลุดโค้ง พุ่งลงนาข้าวข้างทางก่อนที่ภาพทั้งหมดก็ตัดไป

ป่า

“น้องคะ ๆ  เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเรียกของใครคนหนึ่ง ทำให้เอกรู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้น เอกพบว่าตัวเขาอยู่ในนาข้าว โดยหลังพิงกับขอบคันนา พร้อมกับผู้หญิงสองคน ที่ดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าเขาไม่เท่าไหร่  โดยผู้หญิงผมสั้นกำลังเขย่าที่ตัวของเขาอยู่  เอกที่กำลังรู้สึกมึนงง จึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น โดยมีผู้หญิงผมยาวอีกคนมาคอยประคองขึ้นมาจากนาข้าวข้างทาง

Advertisement

Advertisement

เอกค่อยๆได้สติขึ้น ผู้หญิงผมสั้นจึง พูดกับเอกว่า “น้องชื่ออะไร บ้านอยู่ที่ไหน ทำไมจึงมาสลบอยู่ตรงนี้” เอกจึงเล่าเกี่ยวกับตัวเขาและเหตุการณ์ก่อนที่ภาพของเขาจะตัดลง ผู้หญิงผมยาวได้พูดขึ้นมาว่า “ดีนะที่พวกพี่อยู่แถวๆนี้ ไม่งั้นคงต้องรอถึงเช้า กว่าจะมีคนผ่านไปผ่านมา” เอกได้แต่พูดขอบคุณ พร้อมกับถามชื่อของผู้หญิงทั้งสอง จึงรู้ว่าผู้หญิงคนผมสั้นชื่อมะลิ ผู้หญิงที่ผมยาวชื่อชบา ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน มะลิจึงบอกกับเอกว่า "บ้านของพวกพี่อยู่ใกล้ๆนี้เอง ไปพักที่นั่นก่อนแล้วกัน มอเตอร์ไชค์เอาไว้ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวอาการดีขึ้นค่อยมาเอา" เอกจึงตามมะลิและชบาไปยังบ้านของทั้งคู่  แม้ในใจยังสงสัยว่า ทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงสองคนนี้มาก่อน และแถวนี้ไม่น่าจะมีบ้านคนอยู่ เนื่องจากเป็นทุ่งนา แต่ด้วยความที่สภาพร่างกายของเขายังฟื้นตัวไม่เต็มร้อย และบรรยากาศที่ดูวังเวง จึงดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้

Advertisement

Advertisement

หลังจากมาถึงบ้านของมะลิและชบา โดยเป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ใต้ถุนสูง  เอกได้นั่งพักบนแคร่ ไม้ไผ่บริเวณลานหน้าบ้าน    จากนั้นสาวๆทั้งสองช่วยกันทำแผล และนำน้ำ ขนม มาให้เอกทาน ระหว่างนั้นเอก ก็พยายามนึกว่า บริเวณนี้มีบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากเขาเองก็เดินทางผ่านเส้นทางนี้ทุกวัน จึงได้ถามมะลิและชบา ว่าอยู่ที่บ้านหลังนี้นานแล้วหรือ ทั้งสองก็บอกว่าอยู่มานานแล้ว มีคนมาสร้างให้  สักพักเอกก็รู้สึกง่วงนอน จึงเอ่ยปากของีบหลับสักพัก ตื่นขึ้นมาอาการดีขึ้น จะได้ขอตัวกลับบ้าน ทั้งมะลิและชบาก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร โดยก่อนที่เอกจะหลับตาลง ชบายังพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "นอนพักก่อน เดี่ยวตื่นขึ้นมาก็มีคนมารับเอง" ซึ่งก็สร้างความสงสัยให้กับเอก เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ แต่ด้วยความที่รู้สึกอ่อนเพลีย เขาจึงได้แค่ค่อยๆหลับตาและล้มตัวลงนอน

เรือนไทย "เอกๆ มาทำอะไรตรงนี้ลูก" เสียงที่คุ้นเคยปลุกเอกขึ้นจากการหลับไหล เอกค่อยๆได้สติ ลืมตาตื่นขึ้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือแม่ของเขา พร้อมกับชาวบ้านในหมู่บ้านกำลังยืนล้อมตัวเขา เอกที่กำลังมึนงง ค่อยๆมองไปรอบตัว แล้วพบว่า ตัวเขากำลังนั่งพิงโคนต้นไม้ขนาดใหญ่สองต้น และข้างๆก็มีรถมอเตอร์ไซค์ของเอกจอดอยู่ หลังจากนั้นแม่ของเอกและชาวบ้านจึงช่วยกันพาเอกที่ยังอยู่ในอาการมึนงงกลับมาที่บ้าน

เมื่อมาถึงบ้าน แม่ก็ได้ให้เอกไปอาบน้ำเสียก่อน  แต่ทันทีน้ำเย็นๆ โดนร่างกายของเขา  เอกกับสะดุ้งโหยงด้วยความแสบ เขามองไปตามร่างกายพบแผล ถลอกกระจายอยู่เต็มตัว นึกถึงอุบัติเหตุเมื่อคืนแต่ที่หน้าแปลกใจก็คือ แผลเหล่านั้นเหมือนมีใครเอายามาทาให้เบื้องต้นแล้ว ซึ่งไม่ใช่แม่และก็พวกเช้าบ้านที่พึ่งเจอเขาตอนเช้าแน่ๆ

เอกได้แต่ทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น รวมกับที่ได้เจอกับมะลิและชบาเมื่อคืน  เขากำลังสับสนว่า อะไรคือความจริง อะไรคือความฝันกันแน่ ก่อนที่จะเล่าให้แม่ของเขาฟัง เมื่อแม่เอกได้ฟังถึงกับแสดงอาการตกใจ และถามเอกว่าไหวไหม แม่จะพาไปดูอะไรหน่อย แม่จึงพาเอกมาที่โคนต้นไม้ใหญ่ที่พบเอก

แม่ได้บอกกับเอกว่า ต้นไม้ใหญ่สองต้นนี้ เป็นต้นตะเคียนที่อยู่มานาน ตั้งแต่สมัยรุ่นทวดของทวด ชาวบ้านสมัยก่อนเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่  จึงได้สร้างศาลเพียงตาเล็กๆ เอาไว้  แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ในหมู่บ้าน ไม่ค่อยรับรู้ว่ามีศาลอยู่ตรงนี้ แม่จึงพาเอกอ้อมมาด้านหลังของโคนไม้ ก็พบกับศาลเพียงตาเล็กๆ อยู่ จริงๆ ทำให้เอกถึงกับประหลาดใจเป็นอย่างมาก

แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจปนขนลุกมากกว่า คือในศาลนั้นมีตุ๊กตาผู้หญิงอยู่ 2 ตน ตนหนึ่งผมสั้น ตนหนึ่งผมยาว นั่งอยู่คู่กันในศาล พร้อมกับตุ๊กตาช้างม้า วัวควายต่างๆ  ภาพในหัวของเอกเหมือนเล่นย้อนกลับ ถึงเหตุการณ์ที่เขาประสบพบเจอ ไม่แน่ว่า ที่เขาเกิดอุบัติเหตุเมื่อคืน มะลิและชบาที่มาช่วยเขา อาจจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ในศาลเพียงตา ใต้ต้นตะเคียงคู่นี้ก็เป็นไปได้ เอกถึงกับเข่าอ่อน ทรุดลงและยกมือไหว้ท่วมหัว นับจากนั้นมาเอกก็มักจะนำเครื่องเซ่นไหว้ไปถวาย และไปดูแลทำความสะอาดศาลเพียงตานี้อยู่เสมอ เสมือนกับการตอนแทนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่าน ที่ได้ช่วยเหลือเขาในวันนั้น

หมายเหตุ: เรื่องราวในบทความนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยผู้เขียนบทความเอง

#เรื่องลี้ลับ #เรื่องสยอง #เรื่องสั้น

เครดิตรูปภาพ

ภาพที่ 1 TomMarc/Pixabay

ภาพที่ 2  Shutter_Speed /Pixabay

ภาพที่ 3 TheDigitalArtist/Pixabay

ภาพที่ 4 Tedd /Pixabay

ภาพหน้าปก Darkmoon_Art /Pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์