หากพูดถึงโลกเวทมนตร์ หรือให้ยกหนังเกี่ยวกับเวทมนตร์มาสักเรื่อง เรื่องแรก ๆ ในหัวของทุกคน คงจะหนีไม่พ้น Harry potter ภาพยนตร์เวทมนตร์เรื่องโปรดของคนทั่วโลก แต่เมื่อเราเปิด Netflix (Netflix ประเทศไทย) เรากับหา Harry potter ไม่เจอซะอย่างงั้น ดังนั้นสำหรับสายมูอย่างพวกเรา ที่กำลังมองหาหนังเกี่ยวกับเวทมนตร์ดูสักเรื่องนั้น ไม่ต้องไปหาให้เสียเวลา เพราะเราคัดกันมาแล้วกับ 5 เรื่องเน้น ๆ ที่จะพาเราหลงเข้าไปอยู่ในโลกของคาถา การร่ายมนตร์ ไปกับพ่อมดแม่มดน้อยใหญ่ แห่งโลกเวทมนตร์ใน Netflix ให้ดูกันเพลิน ๆ จนลืมโลกเวทมนตร์แบบเก่ากันไปเลย ไม่ว่าจะเป็นโลกเวทมนตร์จากเกมดัง โลกเวทมนตร์จากคอมมิกแนวไฮสคูล โลกเวทมนตร์จากตำนานเรื่องเล่า โลกเวทย์มนสายดาร์ก และโลกเวทมนตร์ใส ๆ เบาสมอง ให้ดูกันจนร่ายคาถาตามกันไปเลยเปิดประตูสู่โลกเวทมนตร์ไปกับ Netflix1. Chilling Adventures of Sabrinaเข้าสู่โลกเวทมนตร์ไฮสคูลไปกับเรื่อง Chilling Adventures of Sabrina แค่ชื่อเรื่องก็พอทำให้เราได้ทราบแล้วว่านี่คือเรื่องของซาบริน่า แม่มดสาววัย ในวัยย่างเข้า 16 ปี ที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง โลกแม่มดที่จะได้อยู่กับครอบครัวที่เป็นแม่มดเหมือนกันทั้งบ้าน หรือจะเลือกอยู่กับเพื่อนในโลกมนุษย์ ซึ่งจะพาเธอไปพบกับการผจญภัยในเมืองกรีนเดลอันลึกลับ บวกกับเรื่องราวความรักในแบบฉบับหนุ่มสาววัยรุ่นทั่วไปกับแฟนหนุ่มที่เป็นมนุษย์ จนนำไปสู่ความวุ่นวายในหมู่แม่มด กับชีวิตวัยรุ่นของเธอในเมืองกรีนเดลโดยปัจจุบันซีรีย์เรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ซีรีย์ซั่น ส่วนตัวมองว่าซีซั่นที่ 1 ทำได้ดีมาก ๆ ทั้งการเล่าเรื่อง การคล้ายปม การพาเราไปรู้จักตัวละครของทั้งฝั่งแม่มด และมนุษย์ได้อย่างไหลลื่น ทำให้เรารู้สึกกดดันไปกับทางเลือกของตัวเอกของเรื่องอย่างซาบริน่าไปด้วย ทำให้พอมาในซีซั่นถัดไป ความรู้สึกที่ดูมันเลยดรอปลงไปจากซีซั่นแรก แต่โดยรวมยังถือว่าสนุกอยู่ พอถัดมาในซีซั่นที่ 3 ซีรีย์กลับมาสนุกชวนติดตามอีกครั้ง ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกว่าทั้ง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรีย์แนวไฮสคูลอยู่แล้ว ก็น่าจะชื่นชอบเรื่องนี้ไปด้วยโดยไม่ยากเนื่องจากซีรีย์เรื่องนี้มีผู้อำนวยการสร้างคนเดียวกันกับซีรีย์ Riverdale ซีรีย์แนวลึกลับ วัยรุ่นไฮสคูลชื่อดัง ทำให้อนาคตเราอาจได้เห็น 2 เรื่องนี้มาครอสโอเวอร์กันก็ได้ เพราะใน Riverdale แอบใส่กิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเมืองกรีนเดลไว้บ้างแล้ว ไหนจะเป็นคอมมิคในสังกัดของอาร์ชี่ทั้งคู่ โดยภายในคอมมิกตัวละครของทั้งสองเรื่องรู้จักกันเป็นอย่างดีคะแนน 9/102. The Worst Witch เข้าสู่โลกเวทมนตร์ใส ๆ เบาสมองกับ The Worst Witch หรือ โอมเพี้ยง! แม่มดน้อยสู้ตาย โดยเรื่องราวจะเริ่มจาก Mildred Hubble สาวน้อยธรรมดา ที่จู่ ๆ เธอกลับ เห็นแม่มดขี่ไม้กวาดผ่านไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งคนปกติจะไม่สามารถเห็นแม่มดได้ ทำให้เธอได้ติดสอยห้อยตามแม่มดคนนั้นกลับไปที่โรงเรียนเวทมนตร์ด้วย เรื่องวุ่น ๆ ของเธอจึงได้เกิดขึ้น พร็อตเรื่องไม่มีอะไรสับซ้อน แต่แฝงไปด้วยแง่คิดดี ๆ สำหรับการใช้ชีวิต ในทุก ๆ ตอน เเถมตัวซีรีย์แอบมีกลิ่นอายของแฮรี่พอตเตอร์อีกด้วยตอนนี้ซีรีย์มีทั้งหมด 4 ซีซั่นด้วยกัน แถมยังรักษามาตรฐานเดิมในทุก ๆ ซีรีย์ซั่นอีกด้วย คือเนื้อเรื่องเบาสมอง คลายเครียด สนุก และชวนติดตาม คะแนน 8/103. American Horror Story: Covenเข้าสู่โลกเวทมนตร์สายดาร์ก แนวสยองขวัญไปกับเรื่อง American Horror Story: Coven โดย American Horror Story เป็นซีรีย์ประเภทจบในซีซั่น โดยใช้นักแสดงชุดเดิม และซีซั่น Coven ถือเป็นซีซั่น 3 ของซีรีย์ชุดนี้ โดยในซีซั่นนี้จะเล่าเรื่องราวของชุมแม่มด การล่าแม่มด การใช้เวทมนตร์คาถา ของตัวละครแต่ละตัวที่มีความสมารถแตกต่างกัน แต่จะมีแม่มดเพียงคนเดียวที่สามารถทำได้หลายอย่าง และมีพลังมากกว่าแม่มดคนอื่น นั่นคือ Supreme หรือแม่มดสูงสุดของชุมชนแม่มด ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นการหาตัว Supreme คนใหม่ เพื่อรับช่วงต่อการเป็นผู้นำของแม่ชุมชนแม่มดสำหรับคนที่ชอบแนวสยองขวัญนั้นห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในลิสต์นี้แล้ว กลับกันในซีซั่นของ Coven ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวน้อยที่สุดของชุดซีรีย์ American Horror Story เลยก็ว่าได้ แต่ความสนุกความบันเทิงบอกเลยว่ามาเต็มไม่แพ้ซีซั่นอื่นของซีรีย์ชุดนี้แน่นอนถ้าคุณดู American Horror Story: Coven จบ เเล้วยัง Move on ออกมาไม่ได้ หรือดูจบไปนานแล้วยังไม่หายคิดถึง ผมแนะนำให้ดูซีซั่นนี้ต่อเลย นั่นคือ American Horror Story: Apocalypse ซึ่งเป็นซีซั่นที่ 8 ของซีรีย์ชุดนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ไหนบอกว่าซีรีย์ชุดนี้เนื้อเรื่องมันจบภายในซีซั่นไม่ใช่หรอ ผมบอกเลยว่าใช่ แต่ซีซั่นที่ 8 หรือ Apocalypse ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะในซีรีย์ซั่นนี้ ผู้สร้างทำมาเพื่อเอาใจแฟนคลับที่มีมากมายเหลือเกินของซีซั่นแรก Murder House และซีซั่นที่ 3 Coven โดยการจับ 2 ซีซั่นนี้มา Cross-over กันได้อย่างลงตัว โดยซีรีย์จะเล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์วันสิ้นโลก คนที่รอดชีวิตจะเป็นคนที่ถูกเลือกให้ไปอยู่ในหลุมหลบภัย ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องลึกลับของแต่ละคนคะแนน 10/104. The Witcher เข้าสู่โลกเวทมนตร์ยุคกลางจากเกมดังในชื่อเดียวกันอย่าง The Witcher หรือ เดอะ วิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร ออกฉายครั้งแรก เมื่อไม่นานมานี้เอง ปลายปี 2019 ทาง Netflix ปัจจุบันมีทั้งหมด 1 ซีซั่น ซึ่งซีรีย์เป็นกระแสพูดถึงอยู่นานพอสมควร เพราะได้นักแสดงนำชื่อดังอย่าง Henry Cavill มารับบท Geralt of Rivia ตัวเอกของเรื่อง พร้อมนักแสดงชื่อดังอีกหลายต่อหลายคน โดยซีรีย์จะเล่าเรื่องราวจาก 3 ตัวละครหลัก คือ Geralt of Rivia , Cirilla Fiona Elen Riannon และ Yennefer ซึ่งเรื่องราวของตัวละครจะแยกออกจากกัน แบบสลับ Timeline ฉากต่อฉาก และไม่เรียง Timeline เพื่อพาเราไปสำรวจโลกของ The Witcher ผ่านตัวละครทั้ง 3 แบบภาพรวม เพื่อปูเนื้อเรื่องให้คนดูอย่างเราคุ้นเคยไปกับเนื้อเรื่อง และการกระทำของตัวละคร ท้ายที่สุดแล้วตัวละครจะมาพบกันในท้ายที่สุด พร้อมกับเนื้อเรื่องที่รอการสานต่อสำหรับผมเนื้อเรื่องของซีรีย์สนุกเข้มข้นมากในช่วงแรก ๆ ของซีรีย์ แต่พอเข้าสู่กลาง ๆ ของซีรีย์ เริ่มรู้สึกว่าซีรีย์ออกอาการแผ่ว แอบมีน่าเบื่อ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยอ่านหนังสือ หรือเล่มเกมมาก่อน ทำให้ไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องเท่าที่ควร ตัวอย่างเช่นสิทธิ์ Law of Surprise ของในเรื่อง ที่เราต้องทำความเข้าใจวัฒนธรรมของตัวเรื่อง เราถึงจะยอมรับได้ ( คล้าย ๆ กับโลกนักฆ่าของ john wick ) และอย่างที่บอกไปข้างต้นที่ซีรีย์มีการเล่าเรื่องที่มีเทคนิค ชั้นเชิง สลับไปสลับมา ทำให้เราสับสนไม่รู้ว่ามันอยู่ช่วง Timeline ไหนกันแน่ แต่พอซีรีย์เข้าสู่บทสรุป เริ่มมีการคลายปม เนื้อเรื่องมาประจบกันของแต่ละ Timeline ทำให้ตัวซีรีย์กลับมาสนุกอีกครั้งคะแนน 9/105. Merlin เข้าสู่โลกเวทมนตร์จากตำนานเรื่องเล่าไปกับ Merlin เรื่อราวในวัยหนุ่มของตัวละครสำคัญใน Arthurian legends หรือ ตำนานพระราชาอาเธอร์ กับพวกอัศวินโต๊ะกลม โดยเรื่องราวในซีรีย์เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เด็กหนุ่มนามว่าเมอร์ลิน ผู้ซึ่งมีความสามารถในด้านเวทมนตร์ ได้เข้ามาอาศัยอยู่กับหมอหลวงในพระราชวังของ camelot และได้เข้ามาเป็นข้ารับใช้เจ้าชายหนุ่มหล่อนามว่าอาเธอร์ โดยเมอร์ลินนั้นต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้าชายปลอดภัยจากเหตุการณ์ และภัยร้ายต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามา ก่อนที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครอง บนเเผ่นดิน camelot และห้ามไม่ให้ใครรู้ว่าตัวเขาเองนั้นมีเวทมนย์โดยซีรีย์มีด้วยกันทั้งหมด 5 ซีซั่น โดยส่วนตัวมองว่า ซีซั่น 1-3 ทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะในซีซั่นที่ 3 ที่ถือว่าเข้มข้นที่สุด ทั้งการเฉลยปมต่าง ๆ และการเล่าเรื่องราวที่สนุกน่าติดตาม ทำให้เราลุ้นไปการเอาใจช่วยเมอร์ลิน ให้ปกป้องเจ้าชายอาเธอร์ได้สำเร็จ แถมยังลุ้นด้วยว่าเจ้าชายจะรู้ความจริงเรื่องเวทมนตร์ของเมอร์ลินไหมคะแนน 8/10ภาพปกจาก IMDb : ภาพปกที่1ภาพประกอบจาก IMDb : ภาพปรกอบที่1 / ภาพปรกอบที่ 2 / ภาพปรกอบที่ 3 / ภาพปรกอบที่ 4 / ภาพปรกอบที่ 5