ไถหนาน (Tainan) เป็นเมืองทางภาคใต้ของประเทศไต้หวัน และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของไต้หวัน ก่อนจะย้ายไปยังไทเปเมื่อปี 1887 สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในเมืองไถหนานจะเป็นแนวประวัติศาสตร์ และเนื่องจากเคยถูกพ่อค้าชาวดัตช์เข้ามายึดเพื่อทำการค้าขายกับต่างชาติ จึงยังมีสถาปัตยกรรมตะวันตกให้เห็นอยู่ในเมืองไถหนาน เราเดินทางมาไถหนานจากประเทศไทยโดยบินตรงจากเชียงใหม่มายังไทเป จากนั้นนั่งรถไฟความเร็วสูง HSR จากสถานี Taoyuan มาถึง HSR Tainan ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง แล้วเข้าเมืองด้วยรถไฟ TRA จากสถานี Shalun มาลง TRA Tainanประมาณ 25 นาที ใครที่เดินทางช่วงกลางคืนต้องวางแผนให้ดี ๆ เพราะรถไฟปิดให้บริการประมาณเที่ยงคืนค่ะ (สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง ควรซื้อตั๋วมาก่อนเพราะจะได้ราคาถูก แนะนำเว็บไซต์ klook และ kkday บางทีมีโปรโมชั่นลดราคาหรือซื้อ 1 แถม 1 ยิ่งถูกไปอีก) การเดินทางในเมืองไถหนานอาจจะไม่สะดวกเท่าไทเปหรือเกาสง เพราะไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่มีรถบัสนำเที่ยวให้บริการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รอบเมือง ทริปนี้เราแพลนจะเที่ยวชิลล์ ๆ ที่ไถหนานกัน 1 วัน ค่อย ๆ เที่ยว อยากแวะก็แวะ อยากพักก็พัก ไม่รีบเร่ง เริ่มด้วยช่วงเช้า เราจะไปนั่งเรือชมอุโมงค์ต้นไม้ที่ “Sicao Green Tunnel” เรานั่งรถบัสสาย 99 ไปลงที่สถานี Shicao Eco-Culture Area (Dajhong Temple) แล้วซื้อตั๋วเพื่อนั่งเรือคนละ 200TWD และต่อแถวเข้าคิวรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อถึงคิวขึ้นเรือ ทุกคนจะได้รับเสื้อชูชีพ เมื่อจำนวนคนเต็มแล้วก็ถึงเวลาออกเรือ ภายในเรือจะมีไกด์คอยบรรยายเป็นภาษาจีนไปตลอดทาง ซึ่งคนต่างชาติอย่างเรา แน่นอนว่าไม่เข้าใจเลยค่ะ แต่ก็ยังเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ 2 ฝั่งของป่าชายเลนที่ยังอุดมสมบูรณ์ ถ้าเกิดโชคดีก็จะเจอกับนกแปลกๆ ด้วย ระหว่างที่นั่งเรือก็จะเจออุโมงค์ต้นไม้ธรรมชาติอยู่บางช่วง เมื่อสุดทางแล้วเราก็จะกลับหัวเรือเพื่อกลับไปทางเดิม หากมีเรือลำอื่นสวนมา นั่งท่องเที่ยวบนเรือแต่ละลำก็จะส่งเสียงทักทายกัน น่ารักดีค่ะ เวลานั่งเรือทั้งหมดประมาณ 30 นาที แต่ถ้าใครอยากดื่มด่ำบรรยากาศป่าชายเลนนานกว่านี้ ก็สามารถเลือกเป็นแบบเส้นทางยาวได้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 70 นาที หลังจากล่องเรือเสร็จแล้ว เมื่อขึ้นมาจะเจอวัด Dajhong อยู่ทางขวามือ ซึ่งสามารถเข้าไปชมภายในวัดได้ บริเวณข้าง ๆ วัดยังมีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการอีกด้วย สถานที่ที่เราจะไปกันต่อคือ “Anping Tree House” โดยจาก Dajhong Temple เรานั่งรสบัสสาย 99 ใช้เวลาประมาณ 25 นาที เพื่อมาลงที่ป้าย Tait&Co. and Anping Tree House เดิมที่นี่เคยเป็นโกดังสินค้ามาก่อน แต่ด้วยวันและเวลาทำให้รากและกิ่งก้านของต้นโทรแผ่คลุมไปทั่วตัวอาคาร ที่นี่จึงถูกเรียกว่า “Tree House” หรือบ้านต้นไม้นั่นเอง ทั้งภายนอกและภายในตัวอาคารเต็มไปด้วยรากต้นไทรที่ยังมีชีวิต ดูสวยงาม คลาสสิคไปอีกแบบ ใกล้ ๆ กับ Anping Tree House ยังมีร้านขายของที่ระลึกน่ารัก ๆ ของเมืองไถหนาน และ “Anping Old Fort” ที่ถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาเมื่อครั้นที่ไถหนานถูกชาวดัตช์ยึดครอง ใครที่ชอบประวัติศาสตร์น่าจะถูกใจไม่น้อย และห่างไปอีกไม่ไกลยังมีถนนคนเดิน “Anping Old Street” ให้เดินเล่นด้วยค่ะ ต่อไป เราจะไปชิมไอศกรีมชื่อดังของไถหนานกันที่ “Zhengxing Street” เรานั่งรสบัสสาย 99 มาลงที่ป้าย Jienguan ถนนคนเดินเดินที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย ของที่ขายจะเป็นแนวฮิป ๆ คูล ๆ แต่เป้าหมายของเราคือไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟร้าน NINAO Gelato เมื่อไปถึงแล้วต้องเอาคิวก่อน ซึ่งเราต้องรอคิวประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เราจึงมาทานไอศกรีมผลไม้ชื่อดังที่อยู่ตรงข้ามกันระหว่างรอ ที่ร้านไอศกรีมผลไม้ “Tai Cheng Fruit Shop” ต้องเข้าคิวรอเหมือนกัน แต่ไม่นานมาก เมื่อถึงคิวได้โต๊ะแล้วให้เข้าไปสั่งในร้าน โดยเราสั่งไอศกรีมรสมะม่วงและองุ่นในลูกเมล่อน ราคา 200TWD ถือว่าราคาแรงอยู่ไม่น้อย ไอศกรีมถูกตักไว้เป็นลูก ๆ เนื้อเป็นแบบซอร์เบต รสมะม่วงอร่อยมาก หอมหวานมะม่วงชัดเจน เมล่อนก็ดีมาก หวานชื่นใจ หลังจากทานไอศกรีมผลไม้เสร็จเรียบร้อย ไม่นานเราก็ได้คิวซอร์ฟเสิร์ฟร้าน “NINAO Gelato” โดยจะขายแค่วันบะ 2 รสต่อวัน ในวันที่เราไปมีรส Black Tea และ Italian Cream ราคาโคนละ 90 TWD เราเลือกรส Black Tea มา เนื้อไอศกรีมนวลเนียนมาก อร่อยหอมชา ส่วนรส Italian Cream เราชิมดูนิดหน่อย มันก็คือรสนมนั่นเอง ตกเย็นพวกเรากลับไปยังโรงแรมเพื่อยืมจักรยานปั่นชมเมือง ซึ่งวันนี้เรามาจบทริปกันที่ “Shennong Ols Street” โดยที่นี่เป็นถนนโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์และยังคงสภาพแบบเมื่อสมัย 10 ปีก่อนไว้ บ้านเรือนยังคงเป็นแบบสมัยก่อน เหมาะแก่การถ่ายรูปอย่างยิ่ง แต่เนื่องด้วยตอนที่เราไปยังฟ้านังสว่างอยู่ เลยอดเก็บภาพเวลากลางคืนมาฝากค่ะ ไถหนานยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกมากมายให้เยี่ยมชม ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ มีพิพิธภัณฑ์มากมายให้ไปศึกษา หากใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์น่าจะหลงรักไถหนานได้ไม่ยาก อีกทั้งบ้านเมืองและผู้คนที่น่ารัก เหมาะสำหรับการมาเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ถ้าเรามีโอกาส เราจะกลับมาเที่ยวไถหนานอีกแน่นอนค่ะ เครดิต: ภาพถ่ายโดยผู้เขียน