ไลฟ์แฮ็ก

10 วิธี พาลูกหนีจอ!!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
10 วิธี พาลูกหนีจอ!!

(เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน)

ปัจจุบันมือถือและแท็บเล็ท แทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ห้าในชีวิตเรา เราสามารถค้นหาข้อมูล ทำงาน ขายของ เข้าสังคมผ่านทางหน้าจอและถือมันไว้เกือบตลอดเวลา จนเกิดความเคยชินไม่เว้นแม้กระทั้งเด็ก ๆ

ผลเสียของการที่เด็ก ๆ เฝ้าถือโทรศัพท์ จ้องแต่หน้าจอนั้นร้ายแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นร่างกายไม่พัฒนาตามวัย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ไม่ได้เคลื่อนไหวตามสมควร ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิ สายตาสั้น เข้ากับสังคมปกติได้ยาก วันนี้กุ้งเลยขออนุญาตนำเสนอทางเลือก 10 วิธีในการพาลูกห่างจอ 

มาลองดูกันนะคะ ว่านอกจากให้เด็ก ๆ ดูจอ เราสามารถชวนลูกทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง?

ภาพลูกสาวผู้เขียน1.อ่านหนังสือ ใครว่าเราให้เด็กน้อยอ่านหนังไม่ได้ ถึงแม้เด็ก ๆ จะยังไม่สามารถอ่านคำและความหมายได้แต่หนู ๆ มักจะสนุกกับการดูรูปภาพในหนังสือนะคะ การได้จับ ได้สัมผัสวัสดุพื้นผิวต่าง ๆ เป็นการกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ๆ ได้ดีเลยค่ะ ยิ่งได้ฟังคุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟัง เด็ก ๆ จะยิ่งสนุก ยิ่งสามารถสะสมคำไว้ใช้ในการสื่อสารได้มากยิ่งขึ้นด้วย

Advertisement

Advertisement

2. ออกไปสำรวจรอบบ้าน ทุกบ้านต้องมีบริเวณบ้าน ด้านหน้า ด้านหลัง แม้แต่ห้องในคอนโดฯ ก็ต้องมีบริเวณ เราสามารถพาลูก เดินดูนู่นนี่นั่น รอบ ๆ บริเวณได้อย่างปลอดภัย เดินกันไปคุยกัน พาลูกไปทำความรู้จักคนรอบ ๆ พื้นที่ ได้ฝึกการสนทนาและเข้าสังคมไปในตัว

ภาพลูกสาวผู้เขียนสำรวจสวนสาธารณะ3.ปั่นจักรยาน ทั้งจักรยานสองล้อและแบบล้อพ่วงสำหรับเด็ก ไปหาที่ปั่นจักรยานเล่นกันในสวนสาธารณะ หรือถนนหมู่บ้านที่การจราจรไม่คับคั่ง นอกจากฝึกการทรงตัว ได้ออกกำลังกายพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้แข็งแรงด้วยนะคะ

4.ทำอาหาร กิจกรรมนี้ใช้เวลาทดแทนการใช้มือถือได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ช่วยกันคิดว่าจะทำอะไรกินกันดี เตรียมวัสดุ เตรียมอุปกรณ์ เด็ก ๆ มักจะสนุกที่ได้ใช้เครื่องครัวของจริงของคุณแม่ แถมยังเป็นกิจกรรมที่หลากหลายมาก ตำน้ำพริก ทำยำ ทอดไข่ ทำพะโล้ ทำขนม คุณแม่ถนัดแบบไหน ทำแบบนั้นเลยค่ะ ทั้งลูกสาวลูกชาย สามารถเล่นสนุกในครัวได้ทั้งคู่ เป็นการปลูกฝังความสามารถในการทำอาหารให้ลูกไว้เป็นความรู้ติดตัวด้วยค่ะ

Advertisement

Advertisement

ภาพลูกสาวผู้เขียนทำอาหาร5.ทำความสะอาดบ้าน อันนี้ปกติ แม่ ๆ คงไม่ค่อยอยากให้ลูกทำ เพราะทำแล้วไม่ค่อยสะอาด อาจเป็นการเพิ่มงาน หรือทำให้งานของคุณแม่ช้าลง แต่การชวนลูกทำความสะอาดบ้าน จะเป็นการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดีให้ลูก ค่อย ๆ ฝึก แล้ววันนึงลูกจะทำได้ดี จนสามารถทำแทนคุณแม่ได้เลยค่ะ
ภาพลูกสาวผู้เขียนขัดห้องน้ำ6.ไปเที่ยวสวนสัตว์ หรือ พาไปดูสัตว์ตามคาเฟ่ เดี๋ยวนี้ คาเฟ่หมา แมว กระต่ายเกิดขึ้นเยอะมาก เราไม่ต้องเลี้ยงสัตว์เอง ก็สามารถพาน้อง ๆ ไปเล่นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด คุณแม่สามารถจิบกาแฟเพลินๆ ให้ลูกเล่นไป ไม่ต้องใช้จอเลยค่ะ

7.วาดภาพ ระบายสี อันนี้นอกจากจะเสริมทักษะของการใช้กล้ามเนื้อมือ กล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วแล้ว ยังฝึกสมาธิ ฝึกจินตนาการ ฝึกสังเกตและฝึกแก้ไข (หากมีข้อผิดพลาด) ระบายสีมีทั้งแบบสำเร็จรูป ไม่ว่าจะผ้า กระดาษ ปูนปั้น ราคาไม่แพง และหากคุณแม่มีฝีมือ จะวาดภาพแล้วให้ลูกระบายสีก็เป็นกิจกรรมเก๋ ๆ ในครอบครัวนะคะ

Advertisement

Advertisement

ภาพลูกสาวผู้เขียนระบายสี8. ทำสวน ชวนลูกใส่ปุ๋ยต้นไม้ รดน้ำ พรวนดิน เก็บสอยผลไม้ แต่งกิ่ง กวาดใบไม้ เหล่านี้ เป็นกิจกรรมนอกบ้านที่เด็กแทบทุกคนชื่นชอบค่ะ ไม่ต้องกลัวเปื้อนแค่คุณแม่หาชุดเก่าหน่อยที่เปื้อนดินเปื้อนทรายได้ก็สามารถเล่นสนุกด้วยกันได้แล้วค่ะ

9.ร้องเพลงฟังเพลง เล่นดนตรี เด็ก ๆ แทบทุกคนชอบเสียงเพลง ได้ยินเป็นต้องลุกขึ้นเต้น คุณแม่ลองหาเพลงสนุก ๆ มาร้องเล่นกับลูก เล่นดนตรีให้ลูกเต้น หรือเปิด cd (แบบไม่มีภาพ) ให้ลูกฟัง ร้องเล่นเต้นไปด้วยกัน ได้ออกกำลังและลดความเครียดไปในตัว

ภาพลูกสาวผู้เขียนตีกลอง10. เลี้ยงสัตว์ ข้อนี้อาจเป็นภาระสำหรับบางบ้าน แต่หากบ้านคุณ สถานที่พร้อม คนพร้อม ใจพร้อม ลองหาสัตว์สักชนิดมาเลี้ยงในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น แมว หมา ปลา ไก่ กุ้ง สารพัดสัตว์ เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกให้ลูกอ่อนโยน รู้หน้าที่ (ที่จะต้องให้อาหาร) มีวินัย เด็ก ๆ ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพสามารถช่วยคุณพอดูแลสัตว์ รักและผูกพันธ์ เล่นกับหมามาก ๆ ย่อมดีกว่านั่งจ้องจอเพื่อเสพความรุนแรงแน่นอนค่ะ

ภาพลูกสาวผู้เขียนกับลูกหมาหลังจากแม่กุ้งได้ใช้เทคนิคทั้ง 10 ข้อนี้แล้ว พบว่า ลูกสาวของแม่กุ้งใช้มือถือดูคลิป น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน มือถือและคลิปวีดีโอต่าง ๆ น่าสนใจสำหรับเด็ก ๆ สามารถสะกดจิตเด็กให้จมอยู่กับมันได้ก็จริง แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น คือกิจกรรมเสริมทักษะรอบ ๆ ตัว โดยเฉพาะ กิจกรรมที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยอยู่ใกล้ ๆ ร่วมกิจกรรมนั้นไปด้วยกัน ดังคำกล่าวที่ว่า คุณพ่อคุณแม่ คือของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูก"

ได้ไอเดีย 10 ข้อแล้ว แม่ ๆ อย่าลืมลองเลือกไปทำดู และขอให้มีความสุขกับทุกกิจกรรมนะคะ

หมายเหตุ :ทุกภาพเป็นภาพลูกสาวที่ผู้เขียนบันทึกเองทั้งสิ้นค่ะ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ธรรมาภรณ์ขวัญแก้ว
ธรรมาภรณ์ขวัญแก้ว
อ่านบทความอื่นจาก ธรรมาภรณ์ขวัญแก้ว

ชื่อกุ้งค่ะ เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง ชอบอ่านหนังสือ ชอบเล่าเรื่อง

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์