โยเกิร์ต เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของกลุ่มคนรักสุขภาพ แถมทานแล้วไม่อ้วน ทำให้โยเกิร์ต กลายเป็นเมนูอันดับต้นๆของผู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพ เพราะไขมันต่ำ และยังอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆที่ดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายแข็งแรง แล้วยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ส่วนประกอบของโยเกิร์ต มีโปรตีนมากกว่านมถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกระบวนการผลิตโยเกิร์ตนั้น เป็นการหมักนมด้วยแบคทีเรีย ทำให้โยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบไปด้วย แลคโตบาซิลัส เดลบริคิโอ บัลแกริคัส สเตรปโตคอคคัส ซึ่งจัดได้ว่าเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์สำหรับร่างกายอย่างมหาศาล แถมยังเป็นผลดีสำหรับคนที่แพ้นมวัวด้วย เพราะสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีพอๆกับนมวัว และยังได้ประโยชน์มากพอๆกัน ปัจจุบันโยเกิร์ตมีให้เลือกหลากหลายแบบและหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นแบบไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย รสธรรมชาติ รสผลไม้รวม หรือรสผลไม้ที่จะทำเฉพาะช่วงฤดูกาลก็มีให้เห็น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโยเกิร์ตแบบไหนก็ล้วนแต่ทำให้สุขภาพดีและได้ประโยชน์แบบเต็มๆ แต่ประโยชน์ของโยเกิร์ตที่เห็นแล้วจะต้องรีบหามารับประทาน จะมีอะไรบ้าง ดังนี้ ลดระดับคอเลสเตอรอล เนื่องจากโยเกิร์ตมีส่วนประกอบของแลคโตบาซิลัสแอซิโดฟอลัส และไบฟิโดแบคทีเรียมแลคติส ซึ่งจะช่วยปรับระดับของไขมันดีให้มีเพิ่มมากขึ้น ป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด ลดการอักเสบของช่องคลอด แถมยังช่วยยับยั้งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย แค่เพียงรับประทานโยเกิร์ตทุกวัน ก็สามารถช่วยลดการเกิดเชื้อราหรือแบคทีเรียในช่องคลอดได้ถึง 3 เท่า ช่วยควบคุมน้ำหนัก หากใครทำลังไดเอทอยู่ ควรมีโยเกิร์ตไว้ในบ้าน เนื่องจากโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและเร่งกระบวนการเผาผลาญให้ทำงานเร็วขึ้น ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ง่าย ช่วยลดกลิ่นปาก เพราะโยเกิร์ตสามารถลดระดับไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปากและลมหายใจมีกลิ่นเหม็น แถมยังช่วยลดการอักเสบของเหงือกและบำรุงฟัน เพราะแลคโตสบาซิลัสและสเตรปโตคอคคัสในโยเกิร์ต จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้ไม่มีกลิ่นปากนั่นเอง แคลเซียมสูง โยเกิร์ตจัดได้ว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ไม่แพ้นม แถมยังช่วยให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน ลดอาการท้องเสียและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร เนื่องจากโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหาร แถมยังช่วยลดการติดเชื้อในลำไส้ได้อีกด้วย ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมีผลการวิจัยพบว่า การรับประทานโยเกิร์ตทุกวัน ช่วยลดอัตรความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีงานวิจัยบอกว่า การรับประทานโยเกิร์ตะวันละ 2 ถ้วย จะทำให้ไม่ป่วย สุขภาพแข็งแรง ลดการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากในโยเกิร์ต มีสารที่ไปยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็ง และยังสร้างสารต้านมะเร็งแบบธรรมชาติขึ้นอีกด้วย ช่วยป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากโยเกิร์ตจะช่วยกำจัดโซเดียมในร่างกาย ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงไปด้วย งานนี้ชาวเฮลตี้ สายรักสุขภาพ ควรมีโยเกิร์ตไว้ในตู้เย็นกันบ้าง เพื่อร่างกายจะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วย บางคนอาจจะสงสัยว่าทานโยเกิร์ตเวลาไหนถึงจะดีที่สุด แต่สรรพคุณอย่างหนึ่งของโยเกิร์ตที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ดังนั้นควรรับประทานช่วงเช้าก็ดี หรือบางคนอาจจะไดเอท ไม่อยากทานมื้อเย็น ก็อาจจะเปลี่ยนมาทานโยเกิร์ตแทนก็ได้ เรียกได้ว่าได้ประโยชน์เต็มๆก่อนนอน เอาเป็นว่าไม่ได้มีสูตรตายตัวว่าจะทานโยเกิร์ตช่วงไหน ถึงจะได้ประโยชน์เยอะที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคนมากกว่า ว่าสะดวกช่วงไหน แต่ที่แน่ๆประโยชน์ของโยเกิร์ตมีมากมาย จนพลาดไม่ได้จริงๆ ควรมีอยู่ในตู้เย็นที่บ้านไว้บ้าง เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเอง ขอบคุณข้อมูลจาก - pobpad.com - posttoday.com - เกร็ดความรู้.com - mthai.com ขอบคุณรูปภาพจาก - pixabay.com