ช่วงวิกฤตการณ์โควิดแบบนี้เพื่อน ๆ หลายคนคงจะอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว...เก็บกวาดบ้าน ลองจัดมุมบ้านต่าง ๆ จนครบทุกแบบที่คิดไว้ เชื่อว่าใครหลายคนน่าจะเป็นแบบนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ ขอแนะนำ 10 ซีรีส์ ที่เหมาะกับการ “ฆ่าเวลา” และวันน่าเบื่อของเพื่อน ๆ แถมยังเป็นซีรีส์ที่คอซีรีส์ไม่ควรพลาด...ถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิตควรที่จะได้ดูเลยก็ว่าได้1. CHERNOBYLเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง Chernobyl Chernobyl ชื่อที่ใคร ๆ หลายคนคงคุ้นเคยและเคยได้ยินกันมาบ้าง กับอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่ร้ายแรง ที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็ล่วงเลยมากว่า 3 ทศวรรษ เป็นซีรีส์ที่สร้างขึ้นโดยอิงจากเหตุการณ์จริง ว่าด้วยเรื่องของวิศวกรได้ทำการทดสอบการทำงานของระบบหล่อเย็น และระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่ล่าช้ากว่ากำหนดจนได้ล่วงเลยมาถึงวิศวกรกะดึก เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้เกิดแรงดันไอน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ระบบตัดการทำงานอัตโนมัติไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงขึ้นจนทำให้แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 4 หลอมละลาย และเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงทำให้มีสารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา กับเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เราต้องลุ้นไปกับเนื้อเรื่องที่มีความยาวเพียงแค่ 5 ตอนในช่องทาง HBO กับความกดดันอย่างมาก ที่จะคอยตามลุ้นว่าตัวละครในเรื่องจะแก้ไขปัญหากับเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร 2. THE WITCHER เครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง THE WITCHERพระเอกสุดหล่อกล้ามโตที่เรารู้จักกันดีในฉายา “บุรุษเหล็กซุปเปอร์แมน” คาล-เอล/คลาร์ก เค้นต์ ที่รับบทโดย เฮนรี แควิลล์ กับบทบาทใหม่ในเรื่อง THE WITCHER แกรัลต์ ออฟ ริเวีย นักล่ามอนส์เตอร์รับจ้าง ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนต่าง ๆ และดัดแปลง จนกลายพันธ์ มีความสามารถเหนือมนุษย์ธรรมดา กับเรื่องราวชวนน่าติดตามที่ ใคร ๆ หลายคนที่ดูกับตรงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เอ้าอะไร” กับเนื้อเรื่องและการเรียงทามไลน์ ที่แปลกชวนให้เราคิดตาม กับตัวละครต่าง ๆ ที่จะโผล่มาในเรื่อง ให้เราตามดูว่าผู้เขาเหล่านั้นคือใคร มีอะไรเกี่ยวข้องกับ นักล่ามอนส์เตอร์ อย่าง แกรัลต์ ออฟ ริเวีย บ้าง และที่สำคัญของหนังเรื่องนี้ แกรัลต์ของเราเป็นคนที่ชอบเชยชมนารีในที่ต่าง ๆ ที่ไปเยือน นับว่า นายนี่ฮืมม ร้ายกาจนักนะ กับซีรีส์เรื่องนี้ ที่ฉายผ่านช่องทาง Netflix ที่มีด้วยกันทั้งหมด 8 ตอนใน ซีซันที่ 1 กับปมที่ชวนให้ติดตามต่อในซีซันที่ 2 ที่กำลังจะมาเร็ว ๆนี้ 3. MONEY HEISTเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง MONEY HEISTว่าด้วยเรื่องราวของแก็งโจรหน้ากากดาลี่ ที่วางแผนเข้าปล้นโรงกษาปณ์สเปน ภายใต้แนวคิดที่ว่า ปล้นเงินที่เพิ่งผลิตมาใหม่ และไม่มีใครเป็นเจ้าของ ที่มีผู้นำทีมที่เรียกตัวเองว่า “ศาสตราจารย์” ถือเป็นหัวหน้า และหัวกะทิของการวางแผนปล้นในครั้งนี้ เขารวบรวมนักต้มตุ๋นที่มีความสามารถในด้านต่าง ๆ เข้ารวมทีม และใช้โค้ดเนมชื่อเมืองในการแทนชื่อของคนในทีม เพื่อลดความสัมพันธ์และความสมบูรณ์แบบระหว่างการปล้น ซึ่งหนังจะคอยเล่าถึงความฉลาดปราดเปรื่องของศาสตราจารย์ที่คิดวางแผน และคอยแก้ปัญหาความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการปล้นที่จะกินระยะเวลายาวนานกว่า 12 วัน ในเรื่องก็จะเกิดความวุ่นวายต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิด กับเหตุการณ์ที่คอยให้ลุ้นจนแทบหยุดหายใจกันเลยทีเดียว กับซีรีส์เรื่องนี้ที่ฉายผ่านทาง Netflix ที่มีให้ดูกันยาว ๆ ไปถึง 4 ซีซันกันเลยทีเดียว กับกระแสตอบรับที่ดีจากคนดูเลยคาดว่า ซีซันที่ 5 ก็อาจจะได้ดูภายในปีหน้านี้ 4. PEAKY BLINDERS เครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง PEAKY BLINDERS Peaky Blinders เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้มาก ด้วยความว่าส่วนตัวเป็นคนชอบอะไรดิบๆเถื่อน ๆ อยู่บ้าง เป็นอีกหนึ่งซีรีส์สุดคูล ที่เหมาะกับคนคูล ๆ มาก ว่าด้วยเรื่องราวของ แก๊งอันธพาล ที่ติดใบมีดโกนไว้ที่หมวก และใช้ชื่อชื่อแก๊งว่า “Peaky Blinders” โดยจะเล่าผ่านตัวละครหลักหรือหัวหน้าแก๊งอย่าง ทอมมี่ หรือ โธมัส เชลบี้ และครอบครัวเชลบี้ แกนนำกลุ่มอันธพาลแห่งเมืองเบอร์มิงแฮม และพนันม้า ที่มีความทะเยอทะยานอยากเป็นใหญ่ ใช้ชีวิตอย่างไม่กลัวตาย ทำทุกอย่างเพื่อที่จะขยายธุรกิจของเขาให้ยิ่งใหญ่ โดยในซีรีส์เรื่องนี้ จะแสดงให้เห็นถึงครอบครัวที่ใช้ชีวิตอย่างเสี่ยงอันตราย และแสดงให้เห็นถึงความฉลาดของทอมมี่ที่จะคอยคิดและแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเนื้อหาของซีรีส์ค่อนข้างมีความดาร์ค ที่จะนำเสนอในด้าน ธุรกิจมืด ยาเสพติด เหล้า เซ็กซ์ ความรุนแรง อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมกับเยาวชนสักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวที่ชอบหนังเรื่องนี้คือการสร้างที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในยุคของสมัยนั่น การเป็นอยู่ และการแต่งตัวในยุคนั้น และการติดตามตัวละคอรอย่าง ทอมมี่ ที่เราคนดูเองต้องคอยวิเคราะห์การเดินเกมของทอมมี่ โดยซีรีส์เรื่องนี้สามารถรับชมได้บนทาง Netflix ที่นั่งดูกันไปยาว ๆ ถึง 5 ซีซันกันเลยทีเดียว 5. THE BOYSเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง THE BOYS ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาหนังฮีโร่ซักเรื่องดูในช่วงนี้ แนะนำเลยครับเรื่องนี้ THE BOYS… แต่เดี๋ยวก่อนนะครับถ้าเพื่อน ๆ คิดว่าฮีโร่ที่เพื่อน ๆ รู้จักคือช่วยเหลือผู้คน เป็นตัวอย่างที่ดี เพื่อน ๆ กำลังคิด “ผิด!!!” ใช่แล้วครับฮีโร่ที่เราเข้าใจว่าดี แต่กับเรื่องนี้ไม่ใช่แน่นอนครับ เป็นซีรีส์ที่ทำให้ผู้ชมอย่างเราได้เห็นความรีเวิร์สของเหล่าฮีโร่ที่หน้าฉากก็ทำตัวเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ลับหลังพวกเขาเหล่านั้นแย่สะยิ่งกว่าผู้ร้ายด้วยซ้ำ เพียงเปิดเรื่องมาก็เห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งกำลังบอกรักกันริมถนนด้วยความหวานซึ้งแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หนึ่งในสมาชิดฮีโร่ที่ความเร็วเทียบเท่าเดอะแฟลชแห่งโลก DC ได้วิ่งชนหญิงสาวคนนั้นขาดเหลือแต่แขนที่ชายหนุ่มคนนั้นจับไว้อยู่ หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้เขาได้รู้จักกับชายที่ชื่อ บุชเชอร์ ผู้ที่พยายามชักชวนและบอกความจริงถึงเรื่องราวของเหล่าฮีโร่พวกนี้ ว่าแท้ที่จริงแล้วความดีที่เราเห็นนั้นเป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้นเอง แค่อ่านเรื่องราวเริ่มต้นก็รู้สึกหน้าติดตามมากแล้วครับเรื่องนี้ สามารถเข้าไปเอาใจช่วยพวกเขาวางแผนกำจัดฮีโร่เหล่านี้ได้ทาง Amazon.com ที่ตอนนี้มีด้วยกัน 1 ซีซัน จำนวน 8 ตอน 6. DRACULAเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง DRACULA อีกหนึ่งซีรีส์ที่มีความยาวเพียงแค่ 3 ตอน กับตอนละ หนึ่งชั่วโมงนิด ๆ ที่ไม่น่าเบื่อ ทำให้เราอยากรู้และต้องรีบดูให้จบภายใน 3 ชั่วโมงกว่า ๆ กับเรื่องนี้เลยครับ DRACULA แน่นอนครับว่าหลายคนน่าจะรู้จักเขาคนนี้ในนามท่านเคาท์ หรือแดรกคูล่า ผู้ที่มีอายุยืนยาวนานกว่า ร้อย ๆ ปี เพียงได้ดื่มเลือดของคนเข้าไปก็ทำให้เขาเป็นอมตะและดูเยาว์วัยยิ่งขึ้น เอะในที่นี้หรือเปล่าที่เขาชอบบอกว่า กินเด็กแล้วเป็นอมตะ เอะ!! ไม่น่าใช่นะครับ แต่บอกได้เลยครับ ความเชื่อบางอย่างที่เราเคยเข้าใจมาตลอดกับแดรกคูลาผมอยากให้เพื่อน ๆ เอาความคิดวางไว้ตรงนั้นก่อนที่จะมาดูเรื่องนี้ เพราะมันอาจจะไม่เหมือนที่เราเคยได้ยินมาก็เป็นได้ ซีรีส์เรื่องนี้ก็สามารถรับชมได้บนทาง Netflix และเรามาทำความรู้จักกับท่านเคาท์อย่างจริงจังกัน 7. SEX EDUCATIONเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง SEXEDUCATION และก็มาถึงเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ผมชอบมากกกกก ฮ่า ๆ ๆ แค่ชื่อเรื่องก็ชวนน่าติดตามมากขนาดนี้แล้วกับเรื่อง Sex Education ที่ฉายผ่านทาง Netflix ว่าด้วยเรื่องของเหล่าวัยรุ่นช่วง ไฮสคูลที่เริ่มมีความสนใจในเรื่องของเพศ โดยเรื่องจะพูดถึงตัวละครหลัก อย่างโอติส มิลเบิร์น (เอซา บัลเตอร์ฟิลด์) เด็กผู้ที่ไม่เคยแม้กระทั่ง พูดอีสาน ? ฮ่า ๆ ผู้ที่มีความหลังเรื่องเพศไม่ดีนัก แต่มีความรู้ในเรื่องเพศศึกษาอย่างมาก เป็นเพราะแม่ของเขา จีน มิลเบิร์น (จิลเลียน แอนเดอร์สัน) นักบำบัดทางเพศ ที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ที่เลิกรากับพ่อของเขาเลยมีความหลังที่ค่อนข้างไม่ดี แต่ในอาชีพของแม่นั้นทำให้ โอติส ลูกชายที่ได้ฟังแม่ให้คำปรึกษาผู้คน เริ่มมีความรู้ในด้านนี้ จนทำให้เค้าเปิดคลินิกเล็ก ๆ ภายในโรงเรียนในการให้คำปรึกษาเรื่องเพศกับเหล่าเพื่อนนักเรียนในโรงเรียน ความวุ่นวายต่าง ๆ ภายในโรงเรียนจึงเกิดขึ้น ตอนนี้ซีรีส์ก็มีด้วยกันถึง 2 ซีซันก็ไปนั่งดูกันยาว ๆ เลยครับรับรองว่าวัยรุ่นอย่างเรา ๆ ต้องชอบกับซีรีส์เรื่องนี้แน่นอน 8. KINGDOMเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง KINGDOM ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าเดี๋ยวนี้หนังแนวซอมบี้ของทางเอเชียเราอย่างเกาหลีใต้ ก็ไม่แพ้หนังซอมบี้ของทางฝั่งยุโรป กับเรื่องนี้เลยครับ KINGDOM หนังซอมบี้ที่ให้ความรู้สึกแบบ โอ้โห!! มันจะโหดอะไรขนาดนั้น ถ้าจะเปรียบเทียบซอมบี้ในหนังเรื่องนี้คงจะไม่พูดถึงเรื่องอย่าง WAR Z และ TRAIN TO BUSAN ที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นลุ้นจนแทบหยุดหายใจกันเลยทีเดียวในเวลาที่ซอมบี้วิ่งไล่เนี่ยะ กับซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้แล้วแต่อีกอย่างที่ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจยิ่งขึ้นคือ การแย่งชิงบัลลังก์ เพื่อน ๆ งงกันไหมครับว่าทำไมการแย่งชิงบัลลังก์กับซอมบี้ถึงเกี่ยวข้องกันได้ ฮั่นแน่ อยากรู้สินะครับ ถ้าอยากรู้เข้าไปดูซีรีส์เรื่องนี้ได้ทาง Netflix ที่ตอนนี้มีให้ดูด้วยกัน 2 ซีซัน ที่ถ้าเราได้ดูแล้วจะรู้สึกว่าเห้ยทำไมมันน้อยจัง กับความยาวตอนแค่ 6 ตอน ตอนละ 30-40 นาที โห มันทำให้เรารู้สึกแบบจบไวจัง แต่เดี๋ยวก่อนนะครับแอบได้ยินมาว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีต่ออีกยาว ๆ เลยอีกหลายซีซันที่กำลังจะถ่ายทำ รับรองได้เลยครับว่าใครที่ชอบแนวซอมบี้ห้ามพลาดเรื่องนี้โดยเด็ดขาด 9. THE GOOD DOCTORเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง THE GOOD DOCTOR ชายผู้ที่ฉลาดแบบที่ไม่เหมือนใครกับเรื่อง THE GOOD DOCTOR กับการเปิดเรื่องที่ว่าด้วยเด็กหนุ่มที่เป็นออทิสติกตั้งแต่เกิด ชอน เมอร์ฟี (เฟรดดี ไฮร์มอร์) กำลังจะเดินทางไปสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าเป็นหมอศัลยแพทย์ ก็ต้องพบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันกับอุบัติเหตุที่ทำให้กระจกในอาคารรับรองผู้โดยสารการบินของอาคารหล่นลงมาใส่ร่างเด็กทำให้เด็กคนนั้นได้รับบาดเจ็บและหายใจไม่ออก ทำให้ ชอน เมอร์ฟี ผ่านเข้ามาเห็นเหตุการณ์ก็พยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่ด้วยความที่เขาเองก็ไม่ปกติด้วยอาการออทิสติก ทำให้ รปภ. ที่อยู่แถวนั้นต้องวิ่งตามจับเขาเพราะต้องการมีดและเหล้าสักขวดที่จะมาใช้ในการรักษา แต่ด้วยแม่ของเด็กเห็นเหตุการเลยเข้ามาบอกว่าเขาพยายามช่วยลูกชายของเขา ทำให้ ชอนก็ได้เริ่มต้นการรักษาเด็กคนนั้นในรูปแบบที่ใครหลายคนก็คาดไม่ถึง กับความสามารถของ ชอน เมอร์ฟี ซีรีส์เรื่องนี้ ค่อนข้างที่จะมีคำศัพท์ทางการแพทย์ค่อนข้างเยอะ ทั้งในด้านการรักษา และทางกฎหมายของการแพทย์ จึงทำให้เราคนดูต้องนั่งคิดวิเคราะห์ไปกับเรื่องและการรักษาจนไม่สามารถละสายตาได้เลย เข้าไปเอาใจช่วยในการพิสูจน์ตัวของการเป็นศัลยแพทย์ของ หมอชอน เมอร์ฟี ที่ตอนนี้มีด้วยกันถึง 2 ซีซัน สามารถรับชมได้บนช่องทาง ABC.com รับรองว่าซีรีย์เรื่องนี้ไม่ทำให้เพื่อน ๆ ต้องผิดหวังกับความฉลาดของหมอชอน แน่นอน 10. THE KING: ETERNAL MONARCHเครดิตภาพจาก : ซีรีส์เรื่อง THE KING: ETERNAL MONARCH และแล้วก็มาถึงเรื่องสุดท้ายกันแล้ว เรื่องนี้ ผมยินดีนำเสนอและพร้อมอวยมากที่สุดเลยตอนนี้ โอ้ยยถ้าใครยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้นะครับแนะนำเลยครับ กับเรื่อง THE KING: ETERNAL MONARCH จอมราชันบัลลังก์อมตะ กับการเล่าเรื่องราวของโลกคู่ขนานระหว่าง จักรวรรดิเกาหลี กับ สาธารณรัฐเกาหลี ของพระเอกอย่าง กษัตริย์อีกน (อีมินโฮ) พระเอกที่หน้าฟ้าประทาน ที่อาศัยอยู่ในโลกของจักรวรรดิเกาหลี และนางเอกของเรื่อง อย่าง ผู้หมวด จอง แท อึล (คิมโกอึน) ที่อยู่อีโลกหนึ่งใน สาธารณรัฐเกาหลี ผู้ที่มีรอยยิ้มกระชากใจหนุ่ม ๆ อย่างผม กับเรื่องราวที่ว่าด้วยการข้ามไปมาของโลกสองใบ จนทำให้ได้ไปพบกันระหว่าง คู่พระนางของ อีกน และ จอง แท อึล และเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องที่จะชวนให้เราติดตามว่าทำไมต้องข้ามไปมาระหว่างสองโลก และอะไรที่ทำให้ พระเอกสามารถข้ามไปมาระหว่างโลกสองใบได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่แท้ที่จริงของซีรีส์เรื่องนี้หรอกครับ สิ่งที่ทำให้ซีรีส์น่าดูยิ่งขึ้นคือความลงตัวของเคมีนักแสดงทั้ง อี มิน โฮ และ คิม โก อึน ที่แสดงได้เข้ากันมากจนได้จิกหมอนขาดไปสิบกว่าใบแล้ว เข้าไปฟินตามกันได้บนช่องทางของ Netflix ที่ตอนนี้ ในซีซันที่ 1 กำลังดำเนินมาจนถึงตอนที่ 12 แล้ว คาดว่าจะมีถึง 16 ตอน ซึ่งจะออกฉายในทุกคืนวันศุกร์ และ วันเสาร์ เวลา 3 ทุ่มครึ่ง บน Netflix รับรองว่าเพื่อน ๆ จะเขิน และฟินกับพระนางคู่นี้กันอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับ 10 ซีรีส์ที่ผมได้แนะนำไว้นะครับ ช่วงวิกฤตการณ์แบบนี้ก็ขอให้ทุกคนรักษาตัวกันนะครับด้วยการหยุดเชื้อเพื่อชาติ และเพื่อให้การอยู่บ้านของเพื่อน ๆ ไม่น่าเบื่อก็นี่เลยครับซีรีส์ดีๆที่ไม่ควรพลาด แล้วมาพบกันใหม่ Emag