ยอมรับเลยว่า อุทัยธานีเป็นจังหวัดที่เราไม่เคยคิดจะไปเที่ยวมาก่อน เพราะไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไรให้เที่ยวบ้าง จนเมื่อมีโอกาสได้มาก็พบว่าจังหวัดนี้เพลินกว่าที่คิด! อุทัยธานีเหมาะกับมนุษย์สายชิลล์ มาสโลวไลฟ์พักผ่อนชมธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ไม่อยากเกริ่นเยอะละ เจ็บคอ ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ : ) 1 ไร่สีฟ้า ไร่สีฟ้า ไร่เกษตรทฤษฏีใหม่ในตำบลแก่นมะกรูด เจ้าของไร่คือพี่สีฟ้าแสนใจดี เป็นชาวกระเหรี่ยงที่ตั้งรกรากทำเกษตรในพื้นดินนี้ ปลูกพวกผักสลัดอย่างกรีนโอ๊ค รวมถึงสตรอเบอรี่สายพันธุ์พระราชทาน 80 จะปลูกอะโวคาโดและบล็อคโคลี่ด้วยนะ ภายในไร่ถูกแบ่งสันปันส่วนในการทำเกษตรอย่างเป็นระบบบนพื้นที่ 32 ไร่ ไร่ล้อมรอบด้วยภูเขาทำให้บรรยากาศดีมาก พี่สีฟ้าพาเดินชมไร่พร้อมเล่าว่าดินภูเขาไฟทำให้ปลูกผักผลไม้ได้ดี แต่ที่เราสนใจมากเป็นพิเศษคือ ไร่สตรอว์เบอร์รีที่ปลูกทอดเป็นแนวยาวหลายแถว เราเดินไปไร่แปลงใหญ่ด้านหลัง เห็นพี่ชาวเกรี่ยงเก็บสตรอว์เบอร์รีกองมหึมาและกำลังเเพ็คลงกล่องเพื่อเอาไปจำหน่าย สตรอว์เบอร์รีของไร่พี่ฟ้ามีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่บอกเลยว่ารสชาติหวานอร่อยและมีกลิ่นที่หอมมากๆ ฟินนนน นอกจากเดินชมไร่สีฟ้าและสนุกกับการชิมสตอเบอร์รี่แล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมชุมชนชาวกะเหรี่ยงและเป็นโอกาสอันดีที่ได้ลองรับประทานอาหารพื้นบ้าน เมนูอาหารในวันนี้คือ หมูทอดแสนอร่อย ผักสดนานาชนิด น้ำพริกปลาดุก แกงหยวกกล้วยไก่ แกงหมูสามชั้นใส่ข้าวคั่ว อาหารรสชาติแปลกใหม่แต่ก็อร่อย แถมได้ลองชิมน้ำพริกกระเหรี่ยงโดยวัตถุดิบเป็นปลาร้ากับหมูป่า อร่อยเช่นกัน อาหารเสริฟ์มาในกระบอกไม้ไผ่ กินพร้อมข้าวไร่ที่ห่อในใบตอง ได้บรรยากาศสุดๆ ชาวบ้านยังแสดงการทำขนมพื้นบ้านอย่าง “ข้าวยืด” ทำกินกันในช่วงที่มีงานเทศกาลและงานสำคัญของชาวกระเหรี่ยง เอาข้าวเหนียวนึ่งสุกและงาดำมาตำในครกไม้ขนาดใหญ่ โรยเกลือให้มีรสชาติเค็มๆหน่อย เอามาตำให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว วัตถุดิบดูพื้นๆ แต่ได้ลองกินกับนมข้นเท่านั่นแหละ อร่อยมาก ไร่สีฟ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์มาก ชาวบ้านก็น่ารักและยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดี ใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ ลองแวะไปที่ไร่สีฟ้าได้นะคะ : ) ที่ตั้ง : หมู่ 4 บ้านอีมาดอีทราย ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ติดต่อ : 081 295 4866 Facebook : ไร่สีฟ้าสตรอเบอรี่ผักเมืองหนาว_ต.แก่นมะกรูด 2 ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีบ้านสะนำ ชุมชนชาวลาวครั่งที่อำเภอบ้านไร่ อพยพมาจากหลวงพระบางตั้งแต่อดีตในสมัยสงครามกับพม่า ชาวบ้านสาธิตการทำอาหารพื้นบ้าน อย่างแจ่ว 100 สำรับ ตำให้เราดูกัน มีแจ่วน้ำข้าว แจ่วผีโพร่ง และแจ่วมะเขือด้าน รสชาติแปลกใหม่ดี กินกับผักสดและข้าวสวยร้อนๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชุมชนพื้นบ้านของชาวลาวครั่ง ส่วนใหญ่ทำเกษตรไร่อ้อย ดินปลูกผลไม้ได้หลายอย่าง ปลูกมะปราง เงาะ ลำใย ทุเรียน ยังได้เรียนรู้การละเล่นพื้นบ้านของชาวลาวครั่งจากของเล่นพื้นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ มีเครื่องเล่นโบราณที่น่าสนใจหลายอ่าง เช่น จรวดไม้ไผ่ ที่ตั้ง : บ้านสะนำ ต.บ้านไร่ อ. บ้านไร่ จ. อุทัยธานี ติดต่อ : 064 895 0439 3 ต้นไม้ยักษ์ ต่อกันที่อีกหนึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน สามารถเช่าจักรยานปั่นชมธรรมชาติโดยรอบได้ มีตลาดที่ชาวบ้านเอาขนมโบราณและสินค้าทำมือมาขายด้วย บรรยากาศโดยรอบดีทีเดียว เห็นเด็กกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนาน พอเดินผ่านตลาดก็พบกับป่าหมากนับร้อยนับพันต้น เดินไปอีกหน่อยจะเจอไฮไลท์ประจำหมู่บ้านนั่นก็คือต้นไม้ยักษ์อายุกว่า 400-500 ปี สูง 70 เมตร ต้นไม้ยักษ์นี้คือต้นเชียง ใหญ่ขนาด 40 คนโอบที่ถูกรายล้อมด้วยต้นหมาก ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายลาวทุกหมู่บ้านในพื้นที่ ถัดจากต้นเชียง พอเดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอต้นไม้ยักษ์อีกต้นหนึ่งแต่มีขนาดที่เล็กกว่าต้นแรก แต่ต้นนี้มีลวดลายเปลือกไม้ที่สวยงาม 4 ตลาดซาวไฮ่ ตลาดแห่งนี้ตั้งในอำเภอบ้านไร่ ขายสินค้าพื้นเมืองหลายอย่าง ทั้งผักและผลไม้ สินค้าเกษตรที่ชาวบ้านผลิตและแปรรูป อาหารพื้นบ้านต่างๆ รวมถึงผ้าทอพื้นเมืองของชาวลาวครั่งที่สวยงามมากๆ 5 ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง อ.บ้านไร่ ลาวเวียงลาวครั่งได้ทอผ้าโบราณอันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น มีทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม ย้อมสีด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ ลวดลายเป็นเอกลักษณ์ แต่ละลายของผ้ามีที่มาเเตกต่างกันไปอย่างลายหางเเมงปล่อง หรือลายพญานาคล้มเพชรเป็นลายโบราณที่สืบทอดกันมานาน ที่นี่ยังสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ศึกษาดูงานสำหรับเด็กและเยาวชน ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลาน ผ้าทอที่นี่ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ของกำนัล รวมไปประกอบพิธีงานแต่งงานด้วย ชุดเครื่องนอนก่อนวิวาห์ของที่นี่ได้รับรางวัลอันดับ 1 จากยูเนสโกด้วย และเป็นสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อของอุทัยธานี ที่ตั้ง : 32 ม.2 ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ติดต่อ : 05 653 9157 6 หุบป่าตาด อ.ลานสัก แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand หุบป่าตาดต้องเดินผ่านถ้ำ บริเวณปากทางเข้าถ้ำถ้าใครตาดีๆ จะพบซากฟอสซิลของหอยโบราณด้วยนะ ส่วนภายในถ้ำนี้ค่อนข้างมืดมาก ควรพกไฟฉายหรือเปิดแฟลชนำทางเวลาเดินด้วย เมื่อผ่านถ้ำไปแล้วก็จะเห็นผืนป่าอยู่โดยรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ป่าดึกดำบรรพ์ที่อาจจะมีโดโนเสาร์โผล่มาเมื่อไรก็ได้ สองข้างทางมีต้นตาดน้อยใหญ่หลายต้น มีซากหินถ้ำที่พังลงมา ในอดีตพื้นที่แห่งนี้เป็นถ้ำที่มีหลังคาขนาดใหญ่ แต่ตัวถ้ำได้พังทลายลงมาจนกลายเป็นป่าดิบชื้นขนาดใหญ่ แถมยังมีสัตว์ที่หาได้ยากอย่างกิ้งกือสีชมพูและเลียงผา ไฮไลท์ของหุบป่าตาดเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ที่หลงเหลืออยู่เพียงแค่เพดานถ้ำและเศษหินขนาดใหญ่มากมายบนพื้น บนเพดานถ้ำยังสามารถเห็หินงอกหินย้อยได้ด้วย บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วบยต้นไม้หลากหลาย ในจุดนี้ถือเป็นจึดที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก เหมือนหลุดไปใน Jurassic World จริงๆ ที่ตั้ง : ตำบล ทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัด อุทัยธานี ติดต่อ : 056 989 128 เวลาเปิด - ปิด : 8.00 - 17.00 น. 7 บ้านท่าโพ อ.หนองขาหย่าง เป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่ง ปรากฎในเสภาขุนขาขุนแผน เส้นทางเดินทัพค้าขาย 2522 ชุมชนที่นี่สืบสานเพลงพื้นบ้านท่าโพและสอดเเทรกคุณธรรมตามรอยพระบาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 สมัยก่อนร้องเพลงพื้นบ้านเพราะเป็นพื้นฐานชีวิตในสมัยก่อน เช่น เพลงเกี่ยวข้าว เพลงบวชนาค เพลงชักเย่อ เป็นเพลงวิถีชีวิตของผู้คน ดนตรีใช้กรับ ฉิ่ง รัมนา ดูชาวบ้านแสดงก็เพลินดีเหมือนกัน บางทีคุณปู่มาร่วมรำเเละร้องเพลงด้วย ท่านแข็งแรงจริงๆ! ลองมาชมวิถีชีวิต กิจกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น การละเล่นพื้นบ้าน รับประทานอาหารพื้นถิ่น บอกเลยว่าขนมหวานที่นี้อร่อยมากกก ใครสนใจลองมาพักโฮมสเตย์ได้นะ จะได้ลองทำอาหารพื้นบ้านด้วย ที่ตั้ง : บ้านท่าโพ หมู่ 4 ตำบลท่าโพ อำเภอหนองขาอย่าง จังหวัดอุทัยธานี ติดต่อ : 090 683 1601 8 วัดอุโปสถาราม หรือวัดโบสถ์ วัดแห่งนี่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีเรื่องราวยาวนาน เที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์เเละวิหารที่เก่าแก่ เจดีย์หกเหลี่ยมที่เห็นได้ชัด 9 แม่น้ำสะแกกรัง ล่องเรือชมชีวิตในเรือนแพที่สงบและมีเสน่ห์ตามลำน้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอุทัยธานีมานาน ชาวเรือนแพส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง เลี้ยงปลาในกระชัง ทั้งปลาสวาย ปลาดแรด ปลาทับทิมและปลาเทโพ อย่าลืมลิ้มลองปลาแรดด้วยละ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ จุดขึ้นเรือล่องแม่น้ำต้องมาขึ้นที่ท่าเรือตรงข้ามกับวัดอุโปสถารามหรือวัดโบสถ์ เรือหางยาวจุได้ 10-12 คน ค่าเช่าภายในเทศบาล 250 บาท หากไปถึงวัดท่าซุงราคา 800 บาท ติดต่อ : 089 859 9394 เราได้แวะแพของป้าแต๋ว มีสินค้าพื้นบ้านขึ้นชื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะปลาแม่น้ำย่างอย่างปลาช่อนและปลาเนื้ออ่อน บรรยากาศล่องเรือเเม่น้ำสะแกกังยามเย็นบรรยากาศดีจริงๆ นั่งเรือห่างยาวให้ลมพัดผ่านไป พร้อมชมวิถีชีวิตของชาวเรือนเเพ บางก็โบกมือให้นักท่องเที่ยวเวลาเรือเเล่นผ่าน 10 ตรอกโรงยา ถนนคนเดินแห่งนี้เปิดทุกวันเสาร์อาทิตย์ 16.00-21.00 เป็นชุมชนเก่าแก่ ที่สามารถสะท้อนเรื่องราวและบรรยากาศของเมืองอุทัยธานีได้เป็นอย่างดี บ้านไม้เก่าแก่ถูกปรับปรุงเป็นร้านค้า ร้านอาหารและร้านกาแฟ สมัยก่อนถนนเส้นนี้จะมีโรงฝิ่นที่เปิดให้มาสูบฝิ่นกันได้อย่างถูกกฎหมาย ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว เปิดเป็นถนนคนเดินขายสินค้าและอาหารแทน เดินในถนนคนเดินก็สะดุดตากับบ้านนกเขา เป็นบ้านที่สะสมภาพเก่าและสิ่งของที่ส่วนใหญ่ทุกคนเคยใช้กันในอดีต นำสิ่งของมาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชมและให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ ในตรอกโรงยาแห่งนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์โรงฝิ่น จำลองวิถีชีวิตของชาวบ้านสมัยโบราณที่มาหาความสุขจากการเสพฝิ่น ที่นี่จะมีน้องๆอาสาสมัครมาบอกเล่าเรื่องราวให้ความรู้ด้วย ใครสนใจก็อย่าลืมมานะคะ 11 ตลาดสดริมน้ำสะแกกรัง ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ พ่อค้าแม่ค้านำผักพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่นเเละปลาแม่น้ำ ปลาแรดถือว่าเป็นปลาขึ้นชื่อเพราะมีเนื้อหวานนุ่ม ลองมาเดินดูตลาดเช้าๆก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ เวลาประมาณ 7.00 จะเห็นชาวบ้านรวมถึงนักท่องเที่ยวใส่บาตรเช้าทางน้ำ เป็นวิถีชีวิตที่ดูมีเสน่ห์ของชาวอุทัยธานี 12 บ้านยาหอม โรงงานผลิตยาหอมทับทิมของหมอวิรัติอยู่บนถนนท่าช้าง หนึ่งในของดีเมืองอุทัย สรรพคุณคือ แก้ลม จุกเสียด หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ คลื่นเหียนอาเจียน หมอวิรัติ เป็นลูกหลานชาวจีนเกิดในชุมชนอุทัยธานี ถูกส่งไปเรียนวิชาการแพทย์ที่ประเทศจีน ใช้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาตรวจรักษาคนไข้ หมอวิรัติรักษาคนไข้แบบนี้มานานหลายปี จนคิดค้นและเขียนตำราการปรุงยาหอม 13 บ้านจงรัก เป็นร้านกาแฟกึ่งพิพิธภัณฑ์อยู่ในอำเภอเมือง ตรงข้ามโรงเรียนอุทัยวิทยาลัย สไตล์การแต่งร้านแบบโบราณโดยนำของสะสมตั้งแต่บรรพบุรุษ รุ่นปู่ย่าตายาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 มาใช้ตกแต่ง ชั้นสองของร้านจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของสะสม ข้าวของเครื่องใช้แบบโบราณ แบ่งเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน ห้องครัว และห้องนอน บรรยากาศถึงแม้ไม่ได้ติดแอร์แต่เย็นสบาย สามารถนั่งโพสถ่ายรูปได้ บ้านจงรักมีเครื่องดื่มเเละขนมหวานหลากชนิดให้ลองกัน ราคาไม่เเพงด้วย เเถมยังได้เดินชมพิพิธภัณฑ์เเละมีหลายมุมให้ถ่ายรูป ใครมาอุทัยธานีก็อย่าลืมเเวะมาที่นี่กันนะคะ ที่ตั้ง : 221/3 ถนนศรีอุทัย อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี วันเวลาเปิด : 7.00 – 17.00 น พิพิธภัณฑ์เปิดให้ชมเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ภาพปกและภาพประกอบ : ผู้เขียน (นามปากกา sabrina)