เมื่อวันที่ 17 - 18 มกราคม 2567 จังหวัดอุดรธานีจัดงานเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 131 ปีแห่งการก่อตั้งเมือง...กิจกรรมใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีคือ พิธีอัญเชิญศาสตราวุธ พิธีบวงสรวง และการรำบวงสรวง เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณของ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (ที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ "กรมหลวงประจักษ์ฯ") ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ที่บริเวณอนุสาวรีย์ของท่านค่ะ...และคืนวันที่ 18 มกราคม ก็จะเป็นช่วงเวลาที่มีผู้คนมากมายไปสักการะท่านที่อนุสาวรีย์...แต่ปีนี้พิเศษตรงที่เขาขอความร่วมมือให้งดจุดธูป เพื่อลดการก่อควัน...ทีนี้จะพาไปดูบรรยากาศการสักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ เวอร์ชันไม่จุดธูปค่ะ18 มกราคม วันรำลึกถึงคุณูปการของกรมหลวงประจักษ์ฯ ผู้ก่อตั้งเมืองอุดรฯเมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2436 นับได้ 131 ปีแล้ว กรมหลวงประจักษ์ฯ ซึ่งเป็นข้าหลวงใหญ่สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ร.5) ปกครองหัวเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขงในสมัยนั้น ยกทัพมาตั้งมั่นที่ตำแหน่งที่ตั้งเมืองอุดรธานีในปัจจุบัน เพื่อเป็นศูนย์บัญชาการปกครอง...หัวเมืองหลักอันเป็นชัยภูมิสำคัญในวันนั้น จึงได้กลายเป็นจังหวัดใหญ่ในวันนี้...ชาวอุดรฯ จึงถือเอาวันที่ 18 มกราคม เป็นวันระลึกถึงการกำเนิดขึ้นของเมือง และระลึกถึงคุณูปการของกรมหลวงประจักษ์ฯ นั่นเองค่ะ...จริง ๆ แล้ว ก็มีสถานที่อื่น ๆ ในเมืองอุดรฯ ที่เป็นสถานที่สักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ แต่สถานที่ที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการสักการะท่านในวันที่คล้ายวันก่อตั้งเมืองก็คือ อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ ที่เป็นเสมือนประตูสู่เมืองอุดรฯ ค่ะ18 มกราคม ผู้คนมากมายหลั่งไหลเช็กอินอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯปกติแล้ว ภาพที่คนเห็นจนชินตาทุก ๆ วัน ตลอดทั้งปีก็คือ อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ มีผู้คนมาสักการะ ขอพร แก้บน และเสี่ยงเซียมซี อยู่เสมอ...แต่สำหรับวันที่ 18 มกราคม ผู้คนจะมากเป็นพิเศษค่ะ...แต่ละปีที่ผู้เขียนและครอบครัวไปสักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ ที่อนุสาวรีย์ของท่าน ไม่เคยที่จะไม่เจอคนรู้จัก แม้เมืองอุดรฯ เป็นเมืองใหญ่ มีประชากรมาก...แสดงให้เห็นว่า อนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ฯ เป็นพิกัด - จุดศูนย์กลางที่ผู้คนเช็กอินกันหนาแน่นในวันที่ 18 มกราคม นี้ค่ะผู้สักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ ต่างยินดีให้ความร่วมมือไม่จุดธูป ลดการก่อควันตั้งแต่เย็นจนถึงดึกของวันที่ 18 ก็จะมีผู้คนหลั่งไหลไปสักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ ที่อนุสาวรีย์ของท่านกันไม่ขาดสาย สังเกตได้จากภูเขาพวงมาลัย - ดอกไม้รอบอนุสาวรีย์ค่ะ...พวงมาลัย - ดอกไม้ และธูป ก็มีร้านขายอยู่ใกล้ ๆ กับอนุสาวรีย์ ซึ่งเขาเปิดตั้งแต่เช้าถึงดึกของทุกวันค่ะ...สิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่สำหรับปีนี้ก็คือ เราจะเห็นแต่ธูปที่มัดไว้กับพวงมาลัย - ดอกไม้ แต่ไม่มีการจุดธูป...ซึ่งผู้เขียนก็ชอบนะคะ ทำให้ไม่แสบจมูกแสบตา และมองเห็นได้ชัดเจน...แล้วทุกคนที่ไปสักการะ ก็ดูพร้อมให้ความร่วมมือ ต่างทำตามนโยบายงดจุดธูปด้วยความยินดีค่ะพาส่องเครื่องสักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ เวอร์ชันงดจุดธูปสำหรับเครื่องสักการะที่มีขาย นอกจากดอกไม้และธูปแล้ว ที่ร้านก็ยังมีชุดหมากพลูและขวดน้ำมัน (เพียงแต่ปีนี้ไม่มีตะเกียงให้เติมน้ำมันค่ะ)...ส่วนเครื่องสักการะอื่น เช่น ขนม ผลไม้ น้ำ ก็เป็นแต่ละคน/ครอบครัวจัดสรรกันมาเองตามสะดวกค่ะ...ผู้เขียนเห็นว่ามีบางครอบครัวนำกระถางธูปมาเอง อันนี้เขาน่าจะให้สมาชิกครอบครัวอธิษฐานจิตมาจากที่บ้านแล้ว ซึ่งก็นับว่าเป็นวิธีการที่น่าสนใจนะคะ...ของครอบครัวผู้เขียน ก็จัดหาผลไม้ใส่กระเช้าและพวงมาลัยไปเองสำหรับการนี้ค่ะความประทับใจของผู้เขียนภาพหลายครอบครัวที่ไปสักการะกรมหลวงประจักษ์ฯ กันทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย พ่อแม่ จนถึงลูกหลาน นับเป็นภาพที่น่าชื่นใจค่ะภาพรถราที่ขับขี่ผ่านอนุสาวรีย์ ซึ่งมีลักษณะเป็นวงเวียน - จุดเชื่อมเส้นทางการจราจรหลัก ต่างใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและแสดงน้ำใจหยุดให้คนเดินข้ามไปยัง/กลับจากวงเวียน นับเป็นภาพที่น่าขอบคุณค่ะแม้มีเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวคอยบอก/ขอความร่วมมือเรื่องการงดจุดธูป ในขณะที่มีผู้คนมากมายหลั่งไหลสักการะ บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนล้วนให้ความร่วมมือ นับเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมค่ะมรรษยวรินทร์ภาพประกอบทุกภาพ โดย มรรษยวรินทร์พิกัด อนุสาวรีย์พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม อำเภอเมืองอุดรธานีส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้