ยุคที่ของแพง เงินเฟ้อพุ่ง ทำให้คนที่ไม่ได้เป็นอภิมหาเศรษฐีอย่างเรา ๆ ได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อของแพงขึ้น เราก็ต้องจ่ายเงินซื้อสินค้า และบริการมากขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่รายได้ของเรากลับเท่าเดิม หรือถ้าจะเพิ่มก็เล็กน้อย หรือบางคนซ้ำร้ายกว่านั้น ตกงาน ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายก็เข้ามาไม่ขาดสาย วันนี้ผู้เขียนจึงอยากมาแชร์ 15 เทคนิครัดเข็มขัด ในยุคของแพง เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้หลาย ๆ คนที่กำลังหาทางรัดเข็มขัดอยู่ แต่สำหรับใครที่การเงินสดใส ไม่มีปัญหา จะอ่านแค่ประดับความรู้ หรือ จะข้ามไปอ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ไม่ว่ากัน1.ทบทวน และทำบัญชีรายรับ รายจ่าย ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน แล้วแต่ความสะดวก แต่ให้เน้นทำอย่างสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญคือ รายได้ ต้องมากกว่ารายจ่าย จะใช้แอพ แฮปปี้ มันนี่ช่วย หรือเขียนใส่สมุดก็แล้วแต่ความสะดวก 2.ประหยัดไฟ โดยไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้าจำนวนละมาก ๆ หรือแยกเสื้อผ้าบางเบามาซักมือก็ได้ 3.ลดการใช้รถ เปลี่ยนเป็นเดินให้มากขึ้น เพื่อเป็นการประหยัดน้ำมัน แถมได้ออกกำลังกายไปในตัว อันนี้คิดง่าย ๆ ถ้ารถคุณใช้น้ำมัน 1 ลิตรต่อระยะการขับ 10 กิโลเมตร ถ้าคุณขับรถไปทำงานไป -กลับ 20 กิโลเมตร วันหนึ่งคุณต้องเสียค่าน้ำมันในการใช้รถ 2 ลิตร ถ้าน้ำมันลิตรละ 50 บาท คุณต้องจ่ายเฉพาะค่าน้ำมัน 100 บาทต่อวัน หนึ่งเดือนคุณต้องจ่ายค่าน้ำมัน 3000 บาท ในกรณีที่เส้นทางระหว่างบ้าน และที่ทำงานไม่มีรถโดยสารสาธารณผ่าน จะบอกให้เดินไปทำงานวันละ 20 กิโลเมตร มันก็เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือการเดินทางร่วมกันกับเพื่อน บางวันไปรถเรา บางวันก็ไปรถเพื่อน ถ้าหนึ่งเดือนคุณไปกับเพื่อน 5 วัน และเพื่อนไปกับคุณ 5 วัน คุณและเพื่อนก็ประหยัดได้เดือนละ 500 บาท ทั้งปีคุณสามารถมีเงินเก็บจากค่าน้ำมันรถ 6000 บาท เงินจำนวนนี้คุณสามารถเอาไปลงทุนซื้อหุ้น กองทุน เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้ตัวคุณเอง 4.ไม่ซื้ออาหาร หรืออาหารสดมาแช่ในตู้เย็นเกินความจำเป็น เพราะการที่เราซื้อมาแล้วปล่อยให้เน่าเสีย เท่ากับเราเอาเงินไปทิ้ง แถมยังเป็นการเพิ่มขยะให้โลกเราด้วย เพราะฉะนั้นซื้อมาแค่พอกิน อย่าซื้อมาทิ้ง สมัยก่อนผู้เขียนก็ติดนิสัยนี้คือเวลาหิว เห็นอะไรก็อยากซื้อไปหมด มีส้มตำ ก็ต้องมีไก่ย่าง มีไก่อย่างแล้ว ก็ต้องมีคอหมูย่าง สุดท้ายได้มา 5 อย่างรวมลูกชิ้น และผลไม้ กินได้อย่างละ 3- 5 คำแล้วก็อิ่ม แล้วก็เอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นเผื่อกินทีหลัง เช้ามาก็ไปทำงาน แล้วก็ซื้ออาหารกลับมาใหม่ จนครั้งหนึ่งคุณพ่อผู้เขียนเตือนว่า "ใช้เงินแบบนี้ จะจนไปตลอดนะลูก" ผู้เขียนต้องขอบคุณคำพูดของพ่อวันนั้น ที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป 5. ลดการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นลง โดยเฉพาะผู้หญิงมักจะชอบซื้อเสื้อผ้ามารอผอม หรือบางคนชอบซื้อรองเท้า กระเป๋า แบบเดียวกันทีละ 4-5 สี แต่เมื่อซื้อมาแล้วก็เก็บลืมในตู้เสื้อผ้า นิสัยพวกนี้ ต้อง ลด ละ เลิก!!6. ลดการท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่าง ๆ เปลี่ยนมาชื่นชมบรรยากาศรอบตัว เช่น สนามหญ้าหน้าบ้าน ท้องฟ้า สวนสาธารณข้างบ้าน7. ลดปริมาณการถือบัตร ATM เพราะบัตรพวกนี้มีค่าธรรมเนียมรายปี ยิ่งคุณมีบัตรมากเท่าไร ก็ยิ่งไปบั่นทอนเงินในกระเป๋าคุณมากเท่านั้น8. ใช้บัตรเครดิตแค่หนึ่งใบ เพื่อสะดวกต่อการควบคุมรายจ่าย และไม่เสี่ยงที่จะใช้จ่ายเกินตัว9. ลดการปาร์ตี้ สังสรรค์ ถ้าคุณชอบสังสรรค์ทุกสัปดาห์ ก็เปลี่ยนเป็นสังสรรค์ทุกเดือนแทน สำหรับผู้เขียนเปลี่ยนเป็นการทานอาหารนอกบ้านเดือนละครั้ง แทนการทานอาหารนอกบ้านสัปดาห์ละครั้ง10. สำหรับนักเรียน นักศึกษา เปลี่ยนจากการซื้อหนังสือมือหนึ่งทั้งหมด เป็นซื้อหนังสือมือสองแทน หรือแชร์ค่าหนังสือกับเพื่อน หรือไม่ก็ยืมจากห้องสมุด สำหรับผู้เขียนเองชอบไปยืมห้องสมุดมาอ่าน แต่จะซื้อหนังสือเล่มที่อยากได้จริง ๆ มาเก็บไว้ บางเล่มที่ซื้อมาแล้ว แต่ไม่อยากเก็บ ก็เอาไปขายเป็นหนังสือมือสอง11. ปลูกผักสวนครัวใส่กระถาง หรือปลูกไว้ในบริเวณบ้าน เช่นตะไคร้ กะเพราะ ซึ่งเป็นของที่จำเป็นสำหรับครัวไทย12. เปลี่ยนเป็นกิน หรือใช้สินค้าทดแทน เช่นถ้ามะนาวแพง ก็เปลี่ยนไปกินมะขามเปียก หรือมะม่วงแทน บางคนอาจจะอยากแย้งว่าบางอย่างมันก็ใช้แทนกันไม่ได้ ก็จริงอยู่ที่ส้มตำ หรือยำเราก็จำเป็นต้องใช้มะนาว แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวทุกวัน เราอาจจะลดเหลืออาทิตย์ละ 1-2 วัน ผู้เขียนเองชอบกินมะเขือเปราะกับน้ำพริกปลาทูมาก ๆ แต่เมื่อย้ายมาอยู่ต่างประเทศเจอมะเขือเปราะ 6 ลูกร้อย (ผู้เขียนเคยเขียนในบทความเรื่อง เปรียบเทียบราคาสินค้าในไทย & ในสวีเดน กับมะเขือเปราะ 6 ลูกร้อย)เข้าไป ก็ต้องถอยมาเพาะถั่วงอกกินเอง ถามว่าแทนกันได้มั้ย ? ก็แทนกันไม่ได้ แต่ถามว่าอิ่มมั้ย ก็อิ่มเหมือนกัน13. สำหรับคนที่ดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่ ลด หรือเลิกดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่ เพราะสิ่งเหล่านี้ นอกจากบั่นทอนเงินในกระเป๋าแล้ว ยังทำลายสุขภาพอีกด้วย ถ้าใครไม่รู้จะเริ่มตรงไหน แนะนำให้ไปพบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เค้าแนะนำคุณได้แน่นอน14. ลดการกินหรู อยู่สบาย เช่นลดการกินกาแฟแก้วละร้อยกว่าบาท เปลี่ยนเป็นกาแฟแก้วละ 40-50 บาท แค่นี้คุณก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เกินครึ่งไปแล้ว15. ขายของเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว เช่น ใครมีเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอามาขาย หรือยกให้เพื่อน หรือญาติพี่น้องก็ได้เช่นกันเทคนิคการรัดเข็มขัดเหล่านี้ หลาย ๆ ข้อ ผู้เขียนทำมาก่อนยุคสินค้าแพง และทำจนติดเป็นนิสัยหลายสิบปี สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมีโอกาสมากกว่าใคร แต่แท้จริงแล้ว วิธีคิด หรือ mind set คือสิ่งที่สำคัญในการเปลี่ยนชีวิต และคุณก็ทำได้เช่นกัน สำหรับใครที่มีปัญหาในการลงมือทำอะไรใหม่ ๆ แนะนำให้เริ่มไปทีละ 1-2 ข้อ หากคุณใช้ 15 เทคนิคในการรัดเข็มขัดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเงินเก็บ คุณสามารถมาว่าผู้เขียนได้เลย แล้วพบกันใหม่ในบทความเรื่องต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ภาพปก และภาพทั้งหมด โดยผู้เขียนบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เปรียบเทียบราคาสินค้าในไทย & ในสวีเดน กับมะเขือเปราะ 6 ลูกร้อย (trueid.net)ปรับตัวสู่สังคมไร้เงินสด เลี่ยงปัญหาหนี้สินกองโต | TrueID In-Trendสินค้าไทยในสวีเดน ถูกหรือแพง ??? (trueid.net)บัตรเครดิต 5 สิทธิประโยชน์ ดี ดี ที่ไม่ควรพลาด | TrueID In-Trendเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !