สวัสดีครับ ผู้เขียนขอเล่าเรื่องการประยุกต์ใช้ Forms ของ Google มาใช้เป็นแบบทดสอบ เพื่อใช้สอบเก็บคะแนนของนักเรียน หรือสอบวัดผลประจำวิชา ซึ่งการสอบออนไลน์ด้วย Forms นั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักนี้ ซึ่งผู้เขียนเองก็ใช้ในหลายวิชาการใช้ Forms มาสร้างแบบทดสอบนั้น คุณครูสามารถสร้างได้ง่าย และนักเรียนก็ทำข้อสอบได้ง่าย เพียงแต่มีลิงค์ โปรแกรมบราวเซอร์ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น เมื่อผลการทำแบบทดสอบถูกส่งเข้า Sheet และคุณครูนำไปประมวลผลเป็นคะแนนรวม ก็จะใช้ประกอบการตัดเกรดได้ง่าย การประยุกต์ใช้ฟังก์ชันกับข้อมูลคำตอบของคุณครู จะถูกอ้างอิงเพื่อใช้ตรวจคำตอบอัตโนมัติ ด้วยฟังก์ชัน if และหาคะแนนรวมด้วยฟังก์ชัน sum เพื่อให้เข้าใจเทคนิคที่จะใช้ จึงขออธิบายข้อมูลที่ปรากฎในภาพที่ 2 ดังนี้- ข้อมูลในแถวที่ 1 คือ คำอธิบายแต่ละคอลัมน์- คอลัมน์ D ถึง F คือ คำถามในแบบทดสอบ- คำตอบของคุณครูในแถวที่ 2 ถูกอ้างอิงในการตรวจนับจำนวนข้อที่ตอบถูก- ตั้งแต่แถวที่ 2 เป็นต้นไป คือ คำตอบที่ส่งเข้ามาผ่านฟอร์ม มีเวลาและชื่อสกุล เรามาทำความเข้าใจข้อมูลใน Sheet จากตัวอย่างในภาพที่ 2 กันก่อน พบว่า ข้อมูลชุดนี้มีการตอบแบบทดสอบเข้ามาจำนวน 4 คน คือ ครูเป็นคนแรกที่ทำแบบทดสอบ แล้วนักเรียน 3 คนก็เข้ามาทำ ซึ่งคำตอบของครูในแถวที่ 2 ถือว่าเป็นเฉลย ที่จะถูกใช้อ้างอิงในการตรวจคำตอบของนักเรียน ข้อสอบหรือคำตอบของแต่ละข้ออยู่ในแต่ละคอลัมน์ โดยเริ่มต้นข้อแรกอยู่ในคอลัมน์ D ข้อที่ 2 อยู่ในคอลัมน์ E และข้อที่ 3 อยู่ในคอลัมน์ Fเทคนิคที่ 1 การตรวจว่านักเรียนตอบถูกหรือผิด เขียนฟังก์ชันอ้างอิงในเซลต่าง ๆ เริ่มจากตำแหน่งปัจจุบันอยู่ที่เซล H2 เมื่อต้องการตรวจว่าคำตอบใน D2 นั้นถูกหรือไม่ จึงเขียนฟังก์ชันว่า =if(D2=D$2,1,0) โดยสัญลักษณ์ $ นำหน้าเลข 2 มีหน้าที่ยึดให้เลขแถวไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้การคัดลอกเซลนี้ไปยังแถว หรือคอลัมน์อื่น เลข 2 นี้ก็จะไม่เปลี่ยนไป เพราะแถวที่ 2 คือ คำตอบของคุณครูที่จะถูกใช้อ้างอิงว่าถ้าตอบเหมือนก็จะได้ 1 คะแนน ตอบไม่เหมือนก็จะได้ 0 คะแนน ดังนั้นเซล I2 จะเขียนฟังก์ชัน =if(E2=E$2,1,0) และเซล J2 จะเขียนฟังก์ชัน =if(F2=F$2,1,0) ซึ่งแถวที่ 2 จะมีผลการตรวจเป็น 1 ทั้งหมด เพราะตรวจคำตอบของคุณครู จึงต้องได้คะแนนเต็มอย่างแน่นอน เมื่อนำฟังก์ชัน if ที่เขียนขึ้นไปใช้ตรวจคำตอบของนักเรียน ด้วยการคัดลอก เริ่มจากเลือก H2:J2 จากนั้นใช้ Mouse ลากทั้ง 3 เซลลงมา เพื่อคัดลอก (Copy) ไปวาง (Paste) ใน H3:J5 หลังคัดลอกเสร็จแล้ว สามารถตรวจสอบความถูกต้องของฟังก์ชัน พบว่า ผลการคัดลอกฟังก์ชันไปวางในเซล J5 จะพบฟังก์ชันเขียนว่า =if(F5=F$2,1,0) แล้วสรุปได้ว่า ผลในตารางตรวจคำตอบจาก H3:J5 พบว่า คำตอบของนักเรียนทั้ง 3 คน ถูกตรวจให้คะแนนเรียบร้อย พบว่า บางช่องเป็น 0 และบางช่องเป็น 1 เทียบได้ว่า 0 คือ ตอบผิด และ 1 คือ ตอบถูกเทคนิคที่ 2 นับจำนวนข้อที่ตอบถูก ข้อมูลของนักเรียนคนแรกอยู่ในแถวที่ 3 มีผลการตรวจอยู่ใน H3 ถึง J3 แล้ว หากต้องการนับคะแนนของนักเรียนคนแรกนี้ เริ่มต้นจากย้ายเคอเซอร์ไปอยู่เซล G3 เขียนฟังก์ชันว่า =sum(H3:J3) จะพบผลรวมคะแนนเป็น 1 เพราะนักเรียนคนแรก ตอบถูกข้อแรกข้อเดียว เมื่อต้องการตรวจนับคะแนนของคุณครูก็ย้ายเคอเซอร์ไปอยู่ที่เซล G2 แล้วเขียนว่า =sum(H2:J2) ต่อจากนี้ก็ต้องเขียนฟังก์ชันนับคะแนนของนักเรียนอีก 2 คน จะเขียนฟังก์ชันทีละคน หรือคัดลอกเซลจาก G3 ลงมาที่ G4:G5 ก็ทำได้ทั้งคู่ ถ้าผู้อ่านมีโอกาสเลือกที่จะหาผลรวมคะแนนของนักเรียนคนต่อไปจะเลือกวิธีไหนระหว่างลากวาง กับคัดลอก สำหรับผู้เขียนแล้ว คิดว่าลากลงด้วยเมาส์จาก G3 ลงไปถึง G5 ก็จะง่ายกว่า ถ้านำทั้ง 2 เทคนิคนี้ไปใช้แล้ว มีความคิดเห็นอย่างไร นำมาแบ่งปัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้นะครับ ขอย้ำว่ามีประโยชน์อย่างมากในช่วงสอนออนไลน์ที่ครูและนักเรียนยังกลับไปพบกันที่โรงเรียนไม่ได้ภาพปกจาก : Google sheetภาพแอปพลิเคชัน : Google form และ Google sheetภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน ขอขอบคุณแอพพลิเคชัน G Suite