อื่นๆ
21 กันยายน 2564 แด่คนดื้อ คนบ้า และยานอวกาศ

21 กันยายน 2564 อาจจะเป็นแค่วันธรรมดาของใครหลายคน แต่หากนับย้อนหลังไป 20ปี พ.ศ.2546 มันเป็นวันที่ยานอวกาศที่ดื้อรั้นและดันทุรังลำหนึ่งของมนุษยขาติได้พลีชีพ
มันคือ...ยานกาลิเลโอ
ภาพใบหน้าของ กาลิเลโอ กาลิเลอิ
ใช่แล้วครับชื่อเดียวกับนักวิทยาศาสตร์นามอุโฆษผู้นั้น "กาลิเลโอ กาลิเลอิ" ชายผู้ค้นพบดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์บริวาร ได้แก่ ไอโอ ยูโรปา แกนิมีด คัลลิสโต และมีความคิดสุดอินดี้แหกกรอบว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล จนร้อนไปถึงศาสนจักร ไม่ว่าจะงัดไม้นวมหรือไม้แข็งยังไง แต่กาลิเลโอก็ยังมั่นคงในความคิดตัวเองจวบจนวาระสุดท้าย เขาจึงกลายเป็นที่ยอมรับในเวลาต่อมาแม้แต่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และ สตีเฟน ฮอว์คิง นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลัง ยังนับถือเขาว่าเป็น บิดาแห่งวงการวิทยาศาสตร์ยุคใหม่
รูปร่างหน้าตาของยานกาลิเลโอ
Advertisement
Advertisement
ส่วนเจ้ายานกาลิเลโอลำนี้ ก็ตื้อด้านสมชื่อเจ้าของ แบกความหวังและความฝันชาวโลกเป็นเดิมพัน ใช้เวลาเดินทางอย่างทุลักทุเลถึง 6 ปี นับรวมเป็นล้านๆกิโลเมตรเพื่อไปเก็บภาพดาวพฤหัส แต่ว่าการไปครั้งนี้กลับไม่เป็นตามคาดด้วยว่าเชื้อเพลิงไม่พอ เข้าตำราที่ว่า กลับตัวไม่ได้(ขายขี้หน้าเขาแย่)มีแต่ต้องไปให้ถึง จึงใช่วิธีเดินทางไปกลับระหว่างดาวศุกร์และโลกอยู่หลายรอบ เพื่อรอจังหวะ
โอกาสเพียงครั้งเดียวจากการดึงกันไปมาของแรงดึงดูดระหว่างดาวทั้งสองแล้วดีดตัวเป็นแรงเหวี่ยงส่งพุ่งไปยังเป้าหมาย กระนั้นวิบากกรรมยังไม่จบสิ้น เมื่อไปถึงดาวพฤหัสแล้ว แต่เสาอากาศเจ้ากรรมดันไม่กางออกอย่างตั้งใจที่จะถ่ายภาพส่งกลับไปโลก ซึ่งถ้าทำไม่สำเร็จที่ทุ่มเทมาทั้งหมดก็สูญเปล่า แต่นับว่าบุญยังหนุนเมื่อทางนาซ่าได้คาดการณ์เผื่อสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้จึงได้ทำเสาอากาศสำรองกันเหนียวมาอีกอัน แม้จะเล็กและดูด้วยกว่าอันใหญ่แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ภาพอะไรกลับไป
Advertisement
Advertisement
แต่ถ้าคิดว่าเส้นทางของเจ้ายานกาลิเลโอต่อจากนี้จะโรยด้วยกลีบกุหลาบแล้วละก็ผิดถนัด เพราะยิ่งเข้าใกล้ดาวพฤหัสมากเท่าไรสนามแม่เหล็กก็ยิ่งแรงขึ้นทุกที เรียกได้ว่าเป็นเครื่องทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ระดับดาวเคราะห์เลยทีเดียว ยิ่งใกล้เข้าไปยานก็เหมือนจะดับ เหมือนขับรถยนต์เข้าไปในพายุ ไม่มีทางหวนกลับ
ดาวพฤหัสบดีและดวงจันทร์บริวารคัลลิสโต
ทางเดียวคือเดิมพัน เหมือนที่กาลิเลโอเดิมพันความเชื่อของตัวเองด้วยชีวิต เจ้ายานกาลิเลโอจึงตัดสินใจดับเครื่องชนดาวยักษ์แดงให้มันรู้แล้วรู้รอดไป "ฟังดูเป็นความคิดที่ช่างบ้าบอนะ" เหมือนที่ใครบางคนพูดเอาไว้
คนที่เสี่ยงที่สุดคือคนที่ไม่กล้าเสี่ยงอะไรเลย
มีอยู่อย่างเดียวคือวัดใจและก็ยังนับว่าโชตดีที่การเสี่ยงครั้งนี้มันคุ้มค่า ทำให้เราได้ค้นพบอะไรใหม่ที่ไม่เคยรู้จากดาวพฤหัสเป็นการพัฒนาความคิดและวิทยาศาสตร์แบบก้าวกระโดด ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของชาวโลก ที่ได้เห็นภาพดาวพฤหัสในมุมมองใหม่ เช่น การค้นพบมหาสมุทรขนาดใหญ่บนดวงจันทร์ยูโรปา ภาพและข้อมูลมหาศาลมากกว่าล้านกิกะไบต์ทำให้องค์ความรู้กว้างไกล และเสริมความคิดจากรากฐานของกาลิเลโอ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
Advertisement
Advertisement
ภาพวาดเมื่อมองจากดวงจันทร์บริวารเห็นดาวพฤหัสบดี
ลองคิดดูถ้าวันนั้น ยานไม่ตัดสินใจพุ่งชน เหมือนกันถ้ากาลิเลโอไม่มั่นใจในความเชื่อตัวเอง ตอนนี้เรายังอาจหลบอยู่ในถ้ำแล้วเอาหินมาทุบกันเพื่อก่อกองไฟอยู่ก็เป็นได้ เรื่องทั้งหมดนี้กำลังบอกอะไรกับเรา ในชีวิตเราอาจมีโอกาสทำในบางสิ่งแค่เพียงครั้งเดียว ต้องใช้ความมุ่งมั่น อันแรงกล้า เราอาจเป็นคนบ้า คนดื้อ คนโง่ในสายตาคนอื่น แต่ก็ต้องลองออกจากพื้นที่ปลอดภัยทางความคิดของตัวเอง เพื่อค้นพบเรื่องราว งาน ผู้คน และความคิดใหม่ๆ กล้าที่จะเสี่ยงไปกับความเชื่อตัวเอง ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ สำเร็จหรือล้มเหลว
ดั่งเช่น คนดื้อ คนบ้า และยานอวกาศ ชื่อ "กาลิเลโอ" ที่ถูกจารึกไปนานเท่านาน
เครดิต
- ภาพที่1 จาก Pixabay.com โดย Gordon Johnson
- ภาพที่2 จาก Pixabay.com โดย Dvid Mark
- ภาพที่3 จาก Pixabay.com โดย ID 8385
- ภาพที่4 จาก Pixabay.com โดย AlexAntropov86
- ภาพปกจาก Pixabay.com โดย Geralt , Freepik.com โดย Jemastock , Freepik.com โดย Freepik
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น
