สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องราวการท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคยนะคะ โดยเราก็ยังอยู่กันที่ประเทศเซอร์เบียเหมือนเดิม โดยครั้งที่แล้วเราพูดถึงเมือง 'นอวี ซาด' (Novi Sad) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวของเซอร์เบีย ซึ่งผู้เขียนได้อาศัยอยู่เป็นเวลานานถึง 2 เดือน ! แต่คราวนี้เรามาพูดถึงเมืองหลวงของเซอร์เบียกันบ้างดีกว่าค่ะ โดยการเดินทางในครั้งนี้ ผู้เขียนออกเดินทางจากเมือง นอวี ซาด โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง 'เบลเกรด' โดยสวัสดิภาพค่ะ เบลเกรด (Belgrade) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเซอร์เบีย และยังเป็นเมืองที่ตั้งของสนามบินเพียงแห่งเดียวในการเดินทางเข้าสู่เซอร์เบียอีกด้วย ! แน่นอนว่าเมืองที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนและมีความเจริญก้าวหน้าแบบนี้ ย่อมเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษาและการท่องเที่ยวของประเทศ หากจะพูดให้เห็นภาพชัดๆ ผู้เขียนก็คงจะบอกว่า เบลเกรด ก็เหมือนกับ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยเรานั่นเองค่ะ วันแรกในเบลเกรด พอเราเดินทางมาถึงที่พักซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเบลเกรดแล้ว ผู้เขียนก็ได้ทำความรู้จักกับเจ้าของบ้าน (คุณยายซอนญ่า) คุณยายชาวเซอร์เบีย ผู้เขียนไม่ได้พักที่โรงแรม เพราะเรามีคนรู้จักเลยตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ค่ะ ซึ่งบ้านของคุณยายซอนญ่านั้นเก่าแก่แต่น่าอยู่มาก ๆ เลยค่ะ เพราะเป็นบ้านที่สร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ท่านเล่าให้ฟังว่าพวกทหารชั้นนายพลเคยอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ! นั่นล่ะคะ นอกจากเราจะได้พักอยู่ในบ้านของคุณยายฟรี ๆ แล้ว ยังได้บรรยากาศสมจริงอย่างกับอยู่ในหนังช่วงสงครามเลย หลังจากทำความคุ้นเคยกับคุณยายเสร็จแล้ว เราก็ขอตัวไปเดินเล่นชมเมืองเลยค่ะ ซึ่งอันดับแรกเราต้องเติมท้องให้อิ่มก่อน สำคัญมาก ๆ นะคะ โดยในเบลเกรดนั้นมีร้านอาหารมากมายให้เราเลือกทานได้ตามใจชอบ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจีน อาหารเวียดนาม แต่อาหารไทยเราก็มีนะคะ ผู้เขียนเดินหาร้านอาหารไทยตามโลเคชั่นนานมาก ๆ เลยค่ะ แต่พอไปถึงร้านแล้วเขากลับไม่เปิดให้บริการ เราเลยต้องเดินกลับไปที่ร้านอาหารจีน โดยเขาจะทำเป็นเหมือนร้าน Fast food ซึ่งเราสามารถสั่งออร์เดอร์ จ่ายตังค์ แล้วรอรับอาหารมารับประทานได้เลย โชคดีที่ทางร้านมีอาหารไทยด้วย นั่นก็คือเมนูต้มยำกุ้ง ผู้เขียนก็ไม่รีรอ สั่งมาทานเลยค่ะ รสชาติของอาหารก็โอเคในระดับนึง ถือว่าทานแก้หิวได้ ส่วนราคาก็ประมาณ 150 บาทค่ะ แต่กุ้งเขาใช้เป็นกุ้งแช่แข็งนะคะ เพราะภูมิประเทศของเซอร์เบียคือไม่มีทะเลเลย อาหาร Sea food เลยต้องใช้แบบแช่แข็งเท่านั้น ขอแนะนำให้เลือกทานเป็นเมนู เนื้อ หมูหรือไก่ จะอิ่มอร่อยและคุ้มค่ากว่าค่ะ เนื่องจากตอนที่เดินทางมาถึงเบลเกรดก็เป็นเวลาเกือบบ่ายแล้ว วันแรกของเราก็จบไปด้วยการเดินหาร้านอาหารและไปนั่งจิบชาชิล ๆ ที่คาเฟ่ ดูรถวิ่งไปมาบนถนน แล้วกลับไปพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ วันที่สองในเบลเกรด เช้าวันที่สองเราตื่นแต่เช้าเลยค่ะ แต่คุณยายซอนญ่าที่ตื่นก่อนท่านต้มกาแฟไว้ให้เราด้วย (ดูแลเหมือนแขก VIP) พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เราก็ไปนั่งจิบกาแฟที่ม้านั่งข้างบ้าน เสร็จแล้วก็วนลูบไปที่การเดินเล่นหาอะไรรับประทานในละแวกนั้น รอเวลาเจ้าถิ่นพาไปเที่ยวค่ะ โดยแพลนในวันนี้คือการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประจำชาติเซอร์เบียและไปเที่ยวโบสถ์ในตอนเย็นค่ะ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งรวมความรู้ ประวัติศาสตร์ การก่อตั้งเมืองของเซอร์เบียเอาไว้นะคะ ตรงนี้ก็จะมีข้อมูลต่าง ๆ ให้เราอ่านตามป้ายได้เลย เพราะข้อมูลเยอะมากจริง ๆ ค่ะ เสร็จจากการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในตอนเช้าแล้วเราก็กลับไปพักผ่อน และออกไปที่โบสถ์ในตอนเย็นค่ะ เห็นเขาบอกว่าโบสถ์แห่งนี้เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เสียดายที่เราไปดึกหน่อย เขาหมดเวลาเข้าชมไปแล้ว อดดูภาพสวย ๆ ข้างในเลยค่ะ แต่มองจากข้างนอกก็ยังเป็นสถานที่ที่สวยงามและตระการตาอยู่ดี หลังจากพลาดการเข้าชมโบสถ์ เราก็ได้รับการปลอบใจโดยการไปทานอาหารญี่ปุ่นค่ะ แต่ตรงนี้เราไม่ได้เก็บภาพมาฝากเลยเพราะไปกับผู้ใหญ่หลายคนค่ะ เสร็จแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน รอเที่ยววันสุดท้ายกัน วันสุดท้ายในเบลเกรด และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง ซึ่งแพลนในวันนี้คือการไปสวนสนุกและสวนสัตว์ค่ะ โดยตอนแรกเราตั้งใจจะไปสวนสัตว์ก่อนสัก 2 ชั่วโมง เสร็จแล้วก็ออกมาเล่นเครื่องเล่นในส่วนของสวนสนุก แล้วเดินทางกลับเมือง นอวี ซาด แต่สุดท้ายก็ได้ตัดแพลนไปสวนสัตว์ทิ้งเพราะคนเข้าชมเยอะมาก ๆ คิดว่าถ้าเรายืนกรานจะเข้าไปข้างในคงต้องรอคิวอย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่ะ เพราะฉะนั้นวันสุดท้ายจึงจบอยู่ที่สวนสนุกและกลับไปทานอาหารจีนที่เราทานกันในวันแรก แน่นอนว่าก่อนกลับเมือง นอวี ซาด เราก็ไม่ลืมกลับไปบอกลาคุณยายซอนญ่าผู้ใจดีของเรานะคะ กอดลาท่านเสร็จแล้วเราก็เก็บของกลับเมือง นอวี ซาด กันเลยค่ะ หลังจากการไปเที่ยวทั้ง 3 วันที่ผ่านมาในเมืองหลวงอย่าง 'เบลเกรด' นั้น ผู้เขียนมีความเห็นว่าการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะประเทศไหน ย่อมมีค่าใช้จ่ายมากกว่าการอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ อย่างแน่นอนค่ะ และการจัดการวางแผนนั้นสำคัญด้วยเช่นกัน เห็นได้ชัดเลยว่าเราพลาดอะไรหลายอย่างในทริปนี้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็น ได้สัมผัสกับสิ่งที่ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากเพื่อน ๆ อยากมาเที่ยวที่ เบลเกรด ก็ลองมากันได้นะคะ เมืองใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวเยอะ ร้านอาหารเอเชียเยอะด้วยค่ะ รับรองว่ามาแล้วคุ้มค่าแน่นอน ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน ติดตามได้ที่ IG : mygmuii