ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือเล่ม "mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา" แล้วพึ่งได้เจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องกรอบความคิดที่มีอยู่ 2 รูปแบบคือ กรอบความคิดแบบตายตัว(Fixed Mindset) และ กรอบความคิดแบบพัฒนา(Growth Mindset) ซึ่ง 2 กรอบแนวคิดนี้ผมคิดว่ามีความสำคัญมาก เกี่ยวกับการที่เราจะสามารถพัฒนาตัวเองในเรื่องนั้นๆได้หรือไม่ และหากเข้าใจเรื่องนี้ได้ในระดับหนึ่งจะสามารถปลดล็อคข้อจำกัดของตัวเอง และสามารถลงมือทำในเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะสามารถทำได้ครับ ก่อนอื่นผมขออธิบาย กรอบความคิดทั้ง 2 รูปแบบนี้ก่อนนะครับ 1. กรอบความคิดแบบตายตัว(Fixed Mindset) : เป็นกรอบแนวคิดที่เชื่อว่า คนเราเกิดมาพร้อมความสามารถที่ตายตัวและมีพรสวรรค์ในเรื่องนั้นๆ โดยไม่สามารถพัฒนาได้หรือต่อให้ใช้ความพยายามแล้วก็ไม่สามารถดีหรือเทียบเท่าคนที่มีพรสวรรค์ได้ กลัวความผิดพลาด มองความผิดพลาดเป็นความล้มเหลวมากกว่าเป็นโอกาสพัฒนาไปข้างหน้า2.กรอบความคิดแบบพัฒนา(Growth Mindset) : เป็นกรอบแนวคิดที่เชื่อว่าเรื่องต่างๆนั้นสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ต่อให้จุดเริ่มต้นที่เริ่มไม่ดีหรือต่อให้ไม่มีพรสวรรค์ก็ตาม โดยเชื่อว่าการพัฒนาให้ดีขึ้นนั้นต้องหมั่นใช้ความมุมานะ พยายาม และวินัยอย่างสม่ำเสมอ นำความผิดพลาดมาแก้ไขและพัฒนาต่อไปกรอบความคิดทั้ง 2 กรอบนี้แต่ละคนจะแตกต่างกันครับด้วยหลายปัจจัย อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ สภาพแวดล้อมต่างๆ แต่ข่าวดีคือคนเราสามารถเปลี่ยนกรอบแนวคิดได้ครับ เมื่อเราพอเข้าใจ Fixed และ Growth Mindset คร่าวๆกันแล้วมาเข้าเรื่อง 3 ข้อสำรวจว่าตัวคุณมี Fixed Mindset หรือ Growth Mindset กันเลยครับ1. ในเรื่องที่จะทำให้ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ เช่นการวาดรูป เล่นดนตรี หรือกีฬา ?ก. ใช่ แทบทุกเรื่องที่จะทำให้สำเร็จนั้นต้องเริ่มต้นด้วยการมีพรสวรรค์ อย่างน้อยก็ต้องมีแววสักหน่อยข. ไม่ใช่ ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์ ทักษะต่างๆนั้นสามารถพัฒนาได้ คำตอบ คนที่ตอบ ก. ตอนนี้คุณใช้ Fixed Mindset ในเรื่องนี้ ข่าวดีคือเราสามารถพัฒนาทักษะต่างๆที่ต้องได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์ อ้างอิงจาก หนังสือเล่ม mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา หน้า101 มีนักวิจัยได้นำผู้คนที่เป็นเลิศในทางสาขาอาชีพต่างๆมา 120 คนมาวิจัยและได้คำตอบว่าพวกเขาส่วนใหญ่ในวัยเด็กไม่ได้โดดเด่นในสายอาชีพที่ตัวเขาทำอยู่คนที่ตอบ ข. ตอนนี้คุณใช้ Growth Mindset หากคุณต้องการเรียนรู้ทักษะอะไรก็ตามให้ประสบผลสำเร็จ คุณสามารถฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะนั้นอย่างสม่ำเสมอได้ทันที 2. คุณเห็นด้วยมั้ยกับประโยคที่ว่า "ถ้าเก่งจริง ทำไมถึงต้องเรียนรู้อีก"ก. เห็นด้วย เพราะถ้าคนที่เก่งจริงนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ ข. ไม่เห็นด้วย คนเราจะเก่งขึ้นได้นั้นต้องเกิดจากการเรียนรู้ คำตอบ คนที่ตอบ ก. ตอนนี้คุณใช้ Fixed Mindset ในเรื่องนี้ อ้างอิงจาก หนังสือเล่ม mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา หน้า 44 เป็นเรื่องของนักศึกษาที่มีคะแนนสอบเข้าอยู่ในเกณฑ์ที่สูงแต่ ไม่มั่นใจในตอนที่เข้าเรียนที่คณะว่าตัวเองเป็นคนเก่งจริงหรือเปล่าเมื่อพบกับผลงานการตีพิมพ์งานวิจัยเป็นจำนวนมากคนที่ตอบ ข. ตอนนี้คุณใช้ Growth Mindset การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด พลังของการเรียนรู้คือ เมื่อพบเจอข้อผิดพลาดเราจะได้เรียนรู้ที่จะไม่พลาดซ้ำรอยและพัฒนาต่อไป3. คุณต้องการให้คู่ชีวิตปฏิบัติตัวกับคุณแบบไหนก. พากันเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผลักดันให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น ข. เทิดทูนคุณในคุณสมบัติที่คุณมี ทำให้คุณมีความรู้สึกว่าตัวคุณสมบูรณ์แบบ คำตอบ คนที่ตอบ ก. ตอนนี้คุณใช้ Growth Mindset คุณพร้อมที่จะออกจากกรอบเดิมๆที่คุณเคยเป็นและพร้อมที่จะพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ที่ให้คุณได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองต่อไปคนที่ตอบ ข. ตอนนี้คุณใช้ Fixed Mindset อ้างอิงจาก หนังสือเล่ม mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา หน้า 36 นี้เป็นเรื่องของการภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆเท่าไหร่นัก ยังอยากซึมซับกับข้อดีๆต่างๆที่เป็นจุดแข็งของตัวเราอยู่ สำหรับบทความนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ผมได้มาจาก หนังสือเล่ม "mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา" ที่ผมกำลังอ่านอยู่แล้วรู้สึกว่าตัวของผมเองนั้นมี Fixed Mindset อยู่ค่อนข้างหลายอย่างเลยทีเดียว ในเล่มผมอ่านแล้วคิดว่าเนื้อหาหลายๆอย่างเปิดแนวคิดผมมาก เลยนำมาจัดทำเป็นคำถามนำมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านลองทำกันครับ และข่าวดีที่ผมได้อ่านเรื่องราวนั้นก็คือ Fixed Mindset นั้นสามารถปรับกันได้ โดยตัวผมนั้นให้สัญญากับตัวเองว่าจะค่อยๆปรับไปทีละเรื่องครับ หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์เช่นกันนะครับ สวัสดีครับอ้างอิงรูปภาพภาพปก ภาพถ่ายโดย Anete Lusina / pexelsภาพที่1 ภาพถ่ายโดย Gerd Altmann / pexelsภาพที่2 ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio / pexelsภาพที่3 ภาพถ่ายโดย Guy Kawasaki / pexelsภาพที่4 ภาพถ่ายโดย Esra Korkmaz / pexelsส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้