3 ทฤษฎี "เก็บเงิน"ได้อยู่หมัด

wilamint

04 ก.ย. 2021|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก wilamint

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

ทฤษฎีการเก็บเงินในวันนี้ ขอเสนอด้วยทฤษฎี 3 ทฤษฎี ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมสำหรับคุณผู้อ่านทุกท่านที่กำลังหาวิธีเก็บเงินให้อยู่หมัน ไม่รอช้าไปเริ่มกันที่

ทฤษฎีที่ 1 : ได้ - เก็บ = จ่าย

คือ การนำรายได้ ลบกับ เงินที่ต้องการเก็บ ซึ่งจะมีหลักการคือ เก็บ 10%, 15%, 20% หรืออาจจะมาก อย่างเช่น ได้เงินเดือน 10,0000 บาท ต้องการเก็บเงิน 10% จำนวนเงินที่เก็บคือ 1,000 บาท และเงินที่เราสามารถจ่ายได้คือ 9,000 บาท ซึ่งในเงินที่สามารถใช้จ่าย จะต้องมีเงินที่จ่ายแบบประจำ และจ่ายแบบแปรผัน รายจ่ายแบบจำเป็น เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ เป็นต้น เงินที่จ่ายแบบแปรผันซึ่งก็จะมี จ่ายแบบจำเป็นต้องจ่าย (need) เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร เป็นต้น และ จ่ายแบบต้องการ (want) เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ซึ่ง need และ want ของแต่ละคนนั้นอาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ความจำเป็น ความต้องการ ในขณะนั้น จากทฤษฎีนี้ เป็นทฤษฎีที่ทำให้เราสามารถมีเงินเก็บได้ในทุก ๆ เดือนเลยค่ะ

ทฤษฎีที่ 2 : รับ - จ่าย = เก็บ

คือ การนำรายได้ ลบกับ รายจ่ายที่จำเป็น เมื่อเหลือจึงนำมาเก็บ หลักการคือ เมื่อเราได้รับเงินเดือนมา สิ่งแรกที่เราต้องจัดการคือ รายจ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าภาษี ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งการที่เราจ่ายในส่วนที่เป็นรายจ่ายจำเป็นได้แล้วเราจะสามารถเห็นเงินส่วนหนึ่งที่เหลือและเราสามารถเงิบได้ ซึ่งอาจจะมีวิธีเก็บต่าง ๆ เช่น เก็บสะสมเหรียญ เก็บเงินรายวัน สะสมแบงค์ 50 หรือ การเก็บตามปฏิทิน เป็นต้น จากทฤษฎีนี้จะทำให้เราสามารถจัดการกับยอดเงินที่จำเป็นต้องจ่ายได้ดี เช่น การเคลียร์ยอดผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เป็นต้น

และ ทฤษฎีที่ 3 : แบบผสม

คือ การเก็บแบบผสมระหว่าง ทฤษฎีที่ 1 กับ ทฤษฎีที่ 2 หลักการคือ การเก็บเงินก่อนอย่างน้อย 10% หรืออาจจะน้อยกว่าประมาณ 8%-9% ของรายได้ แล้วจึงนำเงินที่เหลือจากการเก็บไปใช้จ่ายรายจ่ายที่จำเป็นก่อนแล้วจึงใช้จ่ายตามความต้องการ เมื่อเราใช้จ่ายแล้วและยังคงมีเงินที่เหลือเราจึงนำไปเก็บอีกรอบหนึ่ง จากทฤษฎีนี้จะช่วยให้เราลดความกังวลไปได้ว่าเราจะเหลือเงินเก็บหรือไม่และหากเรามีเงินเหลือจากเงินเก็บและเงินจ่ายเราก็สามารถนำมาเก็บได้อีกทบหนึ่ง

เป็นไงกันบ้างคะกับ 3 ทฤษฎีการเก็บเงินให้ได้อย่างอยู่หมัด ผู้เขียนหวังเป็นอย่างมากเลยว่าจะสามารถช่วยเป็นไอเดียเล็กๆน้อยๆให้กับท่านผู้อ่าน

เก็บมัน