3 ทักษะการเงินขั้นพื้นฐานที่ทุกๆคนจะต้องรู้...แต่ในระบบการศึกษากลับไม่เคยสอน ความมั่งคั่ง..ไม่ใช่เรื่องของคนที่เกิดมารวย แต่ความรู้และความฉลาดทางการเงินต่างหากคือกุญแจสำคัญ ที่ทำให้คนคนหนึ่งนั้นสามารถรวยขึ้นมาได้คุณคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเหล่าบรรดาลูกมหาเศรษฐีทั้งหลายที่เกิดมาก็อยู่บนกองเงินกองทอง และสุดท้ายกลับกลายเป็นคนถังแตก!!! และธุรกิจของครอบครัวมันจะล่มจมด้วยมือของคนรุ่นลูกรุ่นหลานนี่แหละ แล้วคุณก็คงเคยได้ยินข่าวหลายต่อหลายครั้งเช่นกันว่า คนบางคนเกิดมาโคตรจะยากจนเลย พ่อก็จน แม่ก็จน เผลอๆเกิดมาชีวิตก็ติดลบแล้ว แต่กลับกลายเป็นมหาเศรษฐีขึ้นมาได้ จะเห็นได้ว่าคนที่เกิดมารวยหรือจนนั้น ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จทางการเงินหรือมีความมั่งคั่งทางการเงินเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเป็นความรู้ ความเข้าใจ และความฉลาดทางการเงินต่างหาก ที่จะตัดสินว่าคนคนนั้นจะรวยหรือจน และนี่ก็คือ 3 ทักษะการเงินพื้นฐานที่ต้องรู้ทักษะที่ 1 ทักษะการหาเงิน เมื่อไม่มีเงินสิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ก่อนเลยก็คือการหาเงินโดยการที่คุณจะสามารถหาเงินหรือทำงานได้เก่งขึ้นนั้นนอกจากงานประจำแล้ว คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และพัฒนาทักษะเกี่ยวกับการขาย และการตลาด ซึ่งสามารถค้นคว้าหาจากแหล่งเรียนรู้และศึกษาได้แบบฟรีๆในโลกอินเทอร์เน็ต การขายนั้นจะทำให้คุณสามารถทำเงินได้ และในส่วนการทำการตลาดนั้นจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น มีคอนเน็คชั่นมากขึ้น นั่นก็จะยิ่งทำให้คุณนั้นมีโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน และนี่ก็คือทักษะแรกที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าหากคุณหาเงินได้ไม่เยอะ ต่อไปก็ไม่ต้องพูดถึงกันเลย เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าคุณยังไม่สามารถสร้างรายได้ได้มากพอทักษะที่ 2 การเก็บรักษาเงิน ถ้าคุณพยายามในข้อที่ 1 มาได้แล้ว ในช่วงแรกๆที่คุณสามารถทำเงินได้เยอะๆสิ่งที่จะตามมาเลยก็คือ คุณจะเริ่มใช้จ่ายมากขึ้น หนักขึ้น ใช้แบบไม่ลืมหูลืมตา ใช้เงินแบบที่ว่ากลัวมันจะไม่งอกขึ้นมาใหม่ ใช้เงินชนิดที่เรียกว่ากลัวโลกจะแตกซะก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ใช้มัน และแล้วก็เพิ่งนึกได้เมื่อเงินในกระเป๋าของคุณหมดแล้ว ว่า...อ้าว!!! ซวยละ เงินหมดแล้ว แต่โลกมันยังไม่แตกซะนี่....เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์นั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่สามารถหาเงินได้เยอะขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะเยอะขึ้นตามไปโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นซื้อรถใหม่ บ้านใหม่ โทรศัพท์ใหม่ เสื้อผ้าใหม่ สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะทำงานได้เดือนละหลายหมื่น หลายแสน หรือไม่ก็ตั้งหลายล้าน มันก็จะหมดอยู่ดี ดังนั้นในข้อที่ 2 นี้จะช่วยให้คุณใช้เงินอย่างมีสติมากยิ่งขึ้น หาเงินได้มากเท่าไหร่คุณก็จำเป็นที่จะต้องคิดเรื่องของการเก็บรักษาเงินที่คุณอุตส่าห์หามาได้อย่างยากลำบาก และเหนื่อยแสนสาหัส ซึ่งหากว่าคุณไม่มีเวลาที่จะดูแลเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ ในส่วนนี้ก็มักจะมีผู้คนที่คอยมาช่วยเหลือคุณอยู่แล้ว เช่น นักวางแผนทางการเงิน นักบัญชี นักวางแผนเรื่องภาษี นักลงทุนเป็นต้น เพราะหน้าที่หลักของเจ้าของธุรกิจเวลาส่วนใหญ่นั้นหมดไปกับการหาเงินเข้าบริษัท ดังนั้นการที่มีผู้คนเหล่านี้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการเก็บรักษาเงินเอาไว้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเหล่านี้เริ่มเห็นตัวเลขทางการเงินผิดปกติ พวกเขาก็จะสามารถแจ้งเราเกี่ยวกับแนวโน้มทางการเงินได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้เราสามารถตระหนัก และเตรียมแผนรองรับได้ก่อนที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิด หรือดีกว่านั้นเลยก็คือ สามารถป้องกันไม่ให้วิกฤตทางการเงินมันเกิดขึ้นมาด้วยซ้ำไป ทักษะที่ 3 การทําเงินให้งอกเงย และแล้วก็มาถึงทักษะที่ 3 ที่จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคุณยังทำในข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ได้ไม่ดีพอ นั่นก็คือ คุณไม่สามารถหาเงินได้มากพอหรือถ้าหาเงินได้มากพอแต่ดันเก็บเงินไม่ได้ คุณก็จะไม่เหลือเงินไปต่อยอดเช่นเดียวกัน โดยด้านนอกได้บอกเอาไว้ว่าการเก็บรักษาเงินนั้นแตกต่างอย่างมากกับคำว่า ออมเงิน หรือเก็บเงินเอาไว้กับตัว และการเก็บรักษาเงินนั้นจุดประสงค์หลักของมันก็คือการได้เงินก้อนนี้ไปลงทุนให้มันงอกเงยหรือจะเรียกในขั้นตอนนี้ว่าการใช้เงินต่อเงินก็ได้ หากให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นก็คือการใช้เงินก้อนนี้ไปซื้อห่านที่สามารถออกไข่เป็นทองคำได้ แล้วเราจึงค่อยเก็บไข่ทองคำนั้นไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ วิธีการทําเงินให้งอกเงยนั้นอย่างเช่น คุณนำเงินที่เก็บรักษาไว้ได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยคุณอาจจะซื้อมันได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดเช่นซื้อสินทรัพย์ที่ถูกธนาคารยึดเป็นเวลานาน มักจะได้ในราคาที่ต่ำ หรือไม่ก็ซื้อในช่วงหลังเกิดวิกฤตทางการเงิน ซื้อในช่วงลดราคากระหน่ำซัมเมอร์เซล หรือจะซื้อบ้านเก่าแล้วเอามา Renovate เพื่อขายต่อกินส่วนต่างกำไรหรือไม่ก็ซื้อเพื่อปล่อยให้เช่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่า การลงทุนในแต่ละรูปแบบนั้นคุณจะเป็นที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง เพราะบางคนก็อาจจะถนัดการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บางคนก็ลงทุนในหุ้น บางคนก็ถนัดลงทุนในธุรกิจ startup เป็นต้น และนี่ก็คือ 3 ทักษะการเงินพื้นฐานที่คุณจำเป็นต้องรู้ หากคุณต้องการเป็นคนที่มีความมั่งคั่ง มีความมั่นคงในด้านการเงิน ถ้าในโรงเรียนไม่ได้มีหลักสูตรนี้สอนคุณ คุณก็จำเป็นที่จะต้องหาแหล่งศึกษาเกี่ยวกับการเงินใหม่ๆในปัจจุบันมีความรู้อยู่เยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เว็บไซต์ หรือวีดีโอบน YouTube ที่หลายๆคลิปนั้นก็มีความรู้ดีๆให้ศึกษากันฟรีๆ แต่ถ้าต้องการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอาจจะต้องลงทุนไปเข้าคอร์สเรียนเพิ่มในงานสัมมนา Workshop หรือจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาวางแผนการเงินให้กับคุณ แต่เชื่อเถอะครับว่า ถ้าคุณรู้จักตัวคุณ ไม่มีใครจัดการเรื่องเงินได้ดีไปกว่าตัวคุณเองอย่างแน่นอนขอให้ทุกท่านโชคดี และมีความมั่งคั่งกันทุกๆคนครับขอบคุณรูปภาพจาก pexels.com : รูปหน้าปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3