เรียกได้ว่าเป็นกระแสยอดฮิตกันอย่างล้นหลามสำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่อง " The Crowned Clown " หรือในชื่อไทย " สลับร่าง ล้างบัลลังก์ " หลังจากได้เปิดตัวกลับมาฉายอีกครั้งบน Netflixเรื่องราวสุดพลิกพันเมื่อ " สามัญชน " กลับได้รับบทบาทให้สวมรอยเป็น " พระราชาจำเป็น " ผู้กุมชะตาฟ้าของแผ่นดินโชซ็อน โดยไฮไลท์ที่ดีงามของเรื่องคือความแปลกใหม่ และการแสดงเป็นสองตัวละครของ " ยอจินกู " พระเอกรูปหล่อมาดน่ารักที่ครองใจสาวๆ ไปเต็มเปา ส่วนตัวผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังชอบผลงานของพ่อหนุ่มคนนี้ไม่น้อยเลย เป็นนักแสดงอีกคนที่เข้าถึงบทบาทเก่งจนมีผลงานดีๆ ออกมาให้เราได้รับชมอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยเล่นเด็กๆ โดยเนื้อหาในบทความนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านย้อนกลับไปชมผลงานเก่าๆ ของพ่อหนุ่มยอจินกูกันครับ ว่าเขาเคยฝากฝีมือการแสดงอะไรเอาไว้ให้พวกเราดูบ้าง จากความหลงไหลส่วนตัวที่ Wannatalk ชื่นชอบเป็นพิเศษ เรื่องที่ 1 : The royal gamblur (เดิมพันบัลลังก์เดือด)แนวละคร : ย้อนยุค , อิงประวัติศาสตร์ออกฉาย : 28 มีนาคม 2016จำนวนตอน : 24 ( ตอนละ 60 นาที)นำแสดงโดย : ชังกึนซ็อก , ยอจินกู , ช็อนกวังรย็อลเรื่องนี้อ้างอิงจากรัชสมัยของพระเจ้ายองโจ องค์มหากษัตริย์ลำดับที่ 21 แห่งโชซ็อน เป็นเรื่องราวของ 2 องค์ชาย "แพค แทกิล (ชังกึนซ็อก)" และ "องค์ชายยอนอิง (ยอจินกู)" ในตอนแรกลืมตาดูโลกมียศศักดิ์เดียวกันแต่กลับมีเส้นทางชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งถูกทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตรอดไปวันๆ ในฐานะสามัญชน ส่วนอีกคนอยู่ในฐานะองค์ชายผู้คาบช้อนเงินช้อนท้องมาเกิดเรื่องนี้เคยมีพากย์ไทยทางช่องสามเมื่อปี 2018 ( ส่วนตัวผมดูเวอร์ชันนี้แหละครับ ) หลายคนอาจบอกว่าเรื่องนี้จืดชืด ไม่สนุก แต่ส่วนตัวผมว่าเรื่องนี้ค่อนข้างครบรส ชะตากรรมของสองพี่น้องที่ต้องพบเจอกันในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แถมชนชั้นยังแตกต่างกันราวฟ้ากับเหวแต่ก็สามารถร่วมมือกันทำเรื่องยิ่งใหญ่ให้บ้านเมืองได้โดยตัวเรื่องจะเน้นหนักไปที่การต่อสู้ การฝึกฝนวิชากับอาจารย์ในป่าลึก ( คอแอคชั่นต้องคุ้นเคยกลิ่นอายเดิมๆ ) และการเดิมพันรูปแบบต่างๆ (โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของซีรีส์) ส่วนฉากพระนางค่อนข้างน้อยไปนิด จึงอาจทำให้สาวๆ หลายคนไม่ค่อยฟินกันสักเท่าไหรอีกหนึ่งจุดที่ผมชื่นชอบคือเพลงประกอบที่เพราะมากๆ และการต่อสู้ทางด้านอารมณ์ระหว่างยอจินกูกับคุณอาช็อนกวังรย็อล (คนรับบทหมอโฮจุน) ที่แสดงเก่งทั้งคู่เลย จังหวะฟาดฟันกันค่อนข้างฟินสำหรับผม ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็แสดงดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะรุ่นใหญ่ทั้งหลาย แนะนำให้ลองกลับไปหาชมดูครับ Wannatalk Rate : 9/10Song Rate : 8/10☛ สามารถรับชมได้ทาง : Viu 2. Orange Marmalade (เขี้ยวรักสีส้ม)แนวละคร : โรแมนติก , แฟนตาซี , วัยรุ่น , ย้อนยุคนิดๆออกฉาย : 15 พฤษภาคม 2015จำนวนตอน : 24 ( ตอนละ 60 นาที)นำแสดงโดย : ยอจินกู , คิม ซอลฮยอน AOAหลุดออกมาจากยุคโชซ็อนมาเปลี่ยนแนวเป็นหนังรักวัยรุ่นยุคใหม่กันบ้าง จะเป็นอย่างไรหากโลกของเรามีแวมไพร์อาศัยอยู่ (แวมไพร์น่ารัก) จึงเกิดการแบ่งชนชั้นของสองเผ่าพันธ์ุที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เรื่องย่อคือนางเองของเรา " แพคมารี (แสดงโดยคิมซอลฮยอน จาก AOA )" เธอคือแวมไพร์สาวที่ย้ายโรงเรียนบ่อยมากๆ แต่การย้ายโรงเรียนในครั้งนี้เธอได้พบกับ " แจมิน (แสดงโดย ยอจินกู) " โดยพี่แกเป็นผู้ชายที่เกลียดแวมไพร์เข้าเส้น แต่ทั้งสองกลับรักกัน จึงเกิดเป็นความรักที่แสนเจ็บปวดที่ไม่อาจหลีกหนีได้เรื่องนี้ดัดแปลงมาจาก " Line Webtoon " จัดเต็มไปด้วยฉากฟินสำหรับสาวๆ ( แต่สำหรับผมโครตเครียดเลย อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ 555 ) โดยเรื่องจะเน้นหนักไปที่ชีวิตรักวัยเรียนกับความสัมพันธ์ด้านดนตรีที่คอยขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด เพลงประกอบเพราะมากๆ ฟังได้ทุกเพลงไม่มีเบื่อเลย ผมรับประกันว่าหลังดูจบคุณต้องเปิด Google ค้นหาเพลงมาฟังแน่นอนอีกประเด็นที่ผมอยากบอกคือ ผมชอบยอจินกูมากๆ จากเหตุผลที่กล่าวไปตอนต้น แต่พอมาดูเรื่องนี้ผมกลับอิจฉาพ่อหนุ่มมคนนี้จริงๆ เพราะนางเอกน่ารักมากๆ หลายคนอาจบอกว่าเธอแสดงแข็ง แต่ส่วนตัวผมมองว่าเป็นบทบาทในฐานะแวมไพร์ไร้เพื่อน บุคลิกจึงต้องนิ่งเฉยตลอดเวลา ส่วนยอจินกูก็แสดงดีมากเช่นกันตามาตรฐานเดิมของพี่แก Wannatalk Rate : 10/10 (ให้นางเอกล้วนๆ )Song Rate : 10/10 (เพลงเพราะทุกเพลงเลยจริงๆ นะ)เรทคะแนนผมไม่ได้ลำเอียงเลยนะ อิอิ☛ สามารถรับชมได้ทาง : Viu 3. The Long Way Home (2015) หนุ่มนักเด้าเอาแรงแนวละคร : สงคราม , ดรามา ,ตลกออกฉาย : 28 มีนาคม 2016จำนวนตอน : 111 นาที (ภาพยนตร์จบในตัว)นำแสดงโดย : โซล คยองกู , ยอจินกูลองจิตนาการดูครับว่าความเกลียดชังของสองประเทศแดนโสมป่าอย่าง " เกาหลีใต้ & เกาหลีเหนือ " ในยามสงครามถ้าเดินมาเจอหน้ากันคงปะทะกันยับแบบไม่มีทักทาย แต่ผมขอให้ลืมภาพนั้นไปก่อน เพราะในหนังเรื่องนี้ทุกอย่างจะแตกต่างไป ตัวหนังพยายามนำเสนอเรื่องราวมิตรภาพในช่วงสงครามเกาหลีระหว่าง " ทหารเกาหลีใต้ (โซล คยองกู) " และ " ทหารเกาหลีเหนือ (ยอจินกู)" ทั้งสองคือทหารชั้นผู้น้อยที่ต้องเข้าร่วมสงครามนองเลือดด้วยเหตุจำเป็น การเจอกันจึงกลับกลายเป็นมิตรภาพในฝันที่ทั้งคู่ต่างต้องช่วยเหลือกันและกันเพื่อเอาชีวิตรอดไปเจอคนที่รัก โดยนอกเหนือจากความซึ้งกินใจแล้ว ยังมีการสอดแทรกมุกตลกเข้าไปมากมาย ถือเป็นอีกเรื่องที่สามารถดูได้เพลินๆ สบายสมองไม่ต้องคิดอะไรมากส่วนตัวผมมองว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีจุดบกพร่องเยอะพอควร แต่สิ่งดีงามคือการแสดงของสองตัวเอกที่เข้าถึงบทได้อย่างแนบเนียน หากดูไปเรื่อยๆ จะสามารถทำให้คุณอมยิ้มได้แบบไม่ทันรู้ตัวอีกประเด็นสุดแปลกคือผมไม่รู้ว่าชื่อเรื่องภาษาไทยใครเป็นคนตั้ง "หนุ่มนักเด้าเอาแรง" มันช่างดูแปลกตาชวนให้ผมกดเข้ามาดูเสียจริง ด้วยความหวังจะเจอหนังแนวเรท แต่สุดท้ายกลับไม่ใช่แบบที่คิดเลยแต่อย่างใด ลองเข้าไปดูตัวหนังก่อนแล้วคุณอาจจะรู้ที่มาของชื่อเรื่องก็เป็นได้Wannatalk Rate : 6/10 ☛ สามารถดูรายละเอียดได้ทาง : Lotte Entertainment เป็นอย่างไรกันบ้างกับ " 3 ผลงานของพ่อหนุ่มยอจินกูที่ควรกลับไปดู " ส่วนตัวอยากเห็นพี่แกลองรับบทแอ็คชันหนักๆ ปีนตึกวิ่งไล่ผู้ร้ายไสตล์เฮีย "อีซึงกี" จากซีรีส์ชุด " เจาะแผนลับเครือข่ายนรก (Vagabond) " ที่ใส่เต็มกันทั้งเรื่องบ่อยๆ คงจะดีไม่น้อยโดยนอกจากผลงานที่ผมหยิบยกมาแล้วข้างต้นนั้น ผลงานของพี่แกยังมีอีกมากมาย ผมก็แอบเล็งเอาไว้อยู่หลายเรื่องเหมือนกันเช่น Hotel Del Luna , Beyond Evil , Circle ทั้งสามเรื่องได้ยินชื่อมานานแต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูสักที สงสัยช่วงวันหยุดนี้คงต้องขังตัวเองอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าหากใครชื่นชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษ หรืออยากจะแนะนำเรื่องไหนให้พวกเรา Wannatalk ไปลองหามาดูก็สามารถแบ่งปันกันได้ที่ช่องคอมเมนต์เลยครับเครดิต1. ภาพหน้าปก Wannatalk , tvn2. ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ภาพที่ 1 จาก tvnภาพที่ 2 จาก sbsภาพที่ 3 จาก kbsภาพที่ 4 จาก Lotte Entertainment📣 อัปเดตศิลปินดาราไอดอลหรือต้าวความรักไหนที่มาแรง💕 แวะมาแชร์กับกับคอมมูนิตี้ TrueID Entertainment ได้เล้ย😆✨อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!