หากใครที่ชอบการเดินป่าและกิจกรรมโลดโผน เราขอแนะนำทริปซิปไลน์ในป่าลึกอันเขียวขจีของปากเซ ณ ดินแดนลาวใต้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น 2 in 1 สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยในพงไพร การออกทริปในครั้งนี้ เราเลือกโปรแกรม Tree Top Explorer (3 Days) ของบริษัท Green Discovery Laos เนื่องจากมีรีวิวที่ค่อนข้างดีและเป็นบริษัทที่เน้น Eco-Tourism โดยจะใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน ในวันแรกเราเดินทางจากตัวเมืองปากเซไปยังหมู่บ้านเล็กๆซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทาง โดยไกด์ได้แจกอุปกรณ์ในการเล่นซิปไลน์พร้อมสอนวิธีการใช้ เมื่อเตรียมตัวกันเสร็จเรียบร้อยเราก็ฝากสัมภาระกระเป๋าใบใหญ่ของเราไว้ เหลือเพียงแต่เป้ที่จะใช้สำหรับค้าง 2 คืนเท่านั้น เส้นทางเดินในช่วงแรกของวันเป็นถนนลูกรังดินแดง ก่อนที่ต้นไม้จะเริ่มหนาทึบขึ้น ซึ่งในวันแรกจะเป็นการเดินป่าแบบเบาๆมีการเดินข้ามแม่น้ำและเนินเตี้ยๆสลับไปมา หลังจากพักรับประทานอาหารกลางวัน เราก็ไปถึงซิปไลน์จุดแรกซึ่งเป็นแท่นไม้ที่ทำล้อมรอบต้นไม้ใหญ่และมีสลิงขึงโอบรอบต้นอยู่ด้านบน เราเตรียมตัวเช็คอุปกรณ์และความปลอดภัย โดยทุกคนจะได้รับไม้ที่มีปลายโค้งงุ้มลงมาเหมือนไม้เท้า ขนาดประมาณ 1 ฟุต ซึ่งเราจะต้องใช้ในการเบรคโดยการเอากดส่วนโค้งลงกับสายสลิง หากเบรคไม่ทันเราก็จะชนเข้ากับฐานแท่นไม้ ซึ่งก็เกิดขึ้นกับเราครั้งหนึ่งระหว่างการออกทริปในครั้งนี้ เราเดินป่าพร้อมเล่นซิปไลน์สลับไปมาจนถึงบ่ายแก่ๆก็ต้องมุ่งหน้าไปที่พักใจกลางหุบเขาริมน้ำตก เราเดินกันจนเหนื่อยล้าเนื่องจากอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว แต่เมื่อมาถึงที่พักก็ต้องร้องว้าวออกมา เนื่องจากเราจะพักกันริมน้ำตกใหญ่ที่สวยงามและบ้านพักของเราก็เป็นบ้านต้นไม้ที่น่ารักมากๆ เราได้มีเวลาเล่นน้ำตกคลายร้อนก่อนที่จะถึงเวลาพลบค่ำ แล้วต้องรีบอาบน้ำเนื่องจากว่าตกดึกน้ำจะยิ่งเย็นขึ้นเป็นเท่าตัว ในวันที่ 2 เราเริ่มออกเดินทางกันแต่เช้า เราเดินลัดเลาะไปโดยภูมิประเทศเป็นป่ารกและทุ่งหญ้าบ้างสลับกันไป วันนี้เราก็เดินป่าสลับกับเล่นซิปไลน์ตามเดิม แต่จะได้โหนซิปไลน์ผ่านน้ำตกและเหวลึกกัน โดยซิปไลน์ที่ยาวที่สุดของทริป (400 เมตร) ก็อยู่ในโปรแกรมวันนี้ ซึ่งในทริปทั้งหมด 3 วันเราโหนซิปไลน์ไปร่วม 30 กว่าเส้นซึ่งถือว่าจุใจมากสำหรับคนที่ชอบการผจญภัย ถือว่าป่าแถบนี้ของลาวยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้แต่ละต้นโดยเฉพาะต้นที่ผูกซิปไลน์เอาไว้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้เราสูดอ๊อกซิเจนได้เต็มปอดชดเชยกับการสูด PM 2.5 ในเมืองกรุงมาหลายเดือน ตกตอนบ่าย เราเริ่มเดินกลับที่พักแล้วฝนก็ดันตกลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เราจึงต้องหลบฝนอยู่ครู่ใหญ่และรีบรุดหน้ากลับที่พักให้เร็วที่สุด เมื่อถึงที่พักทุกคนหนาวสั่นและเปียกโชกไปทั้งตัว เรารีบอาบน้ำและไปแอบดูที่ครัวว่าวันนี้พ่อครัว(ไกด์ของเรา)จะทำอะไรให้เรากิน อยากแอบกระซิบว่านอกจากไกด์ของเราจะชำนาญทางมากแล้ว เขายังเป็นพ่อครัวฝีมือใช้ได้เลยทีเดียว อาหารเย็นของเราเป็นอาหารพื้นเมืองแบบลาว มีแกงกะทิไก่ ผัดผัก และของว่างคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เรารีบเข้านอนกันเพราะเหนื่อยจากการเดินป่ามา 2 วันเต็ม ในวันสุดท้าย เราจะไม่ได้เล่นซิปไลน์เยอะเท่าวันก่อนๆแล้ว เนื่องจากต้องเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านที่เราฝากของไว้ ในวันนี้จึงเป็นการเดินป่าเป็นส่วนมากซึ่งมีการปีนหน้าผาแบบง่ายๆสลับกันไป มีทั้งการเดินป่าและด่านต่างๆอารมณ์ประหนึ่งค่ายลูกเสือ เราผ่านทุ่งโล่งและกลับมาที่เส้นทางลูกรังก่อนที่จะถึงหมู่บ้านในช่วงบ่ายเพื่อเก็บของและรอรถที่จะมารับเรากลับเข้าตัวเมืองปากเซ การเดินป่าครั้งนี้เป็นระยะทางทั้งหมด 12 กิโลเมตรซึ่งต้องใช้ความฟิตของร่างกายระดับปานกลาง ด้วยความเขียวชอุ่มของป่าประเทศลาวและซิปไลน์ที่น่าหวาดเสียว เราจึงอยากแนะนำให้คนที่รักการผจญภัยทุกคนต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต *เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน