เดินป่า เดินเขา หรือจะสู้เดินกับเรา :D ทริปนี้พามาหาภูเขาที่สูงสุดที่สุดของไทย 3 อันดับ นั่นก็คือ ดอยอินทนนท์ ดอยผ้าห่มปก และดอยหลวงเชียงดาว ทั้งหมดตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ค่าเริ่มกันที่ ดอยอินทนนท์ ดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยระดับความสูง 2,565 เมตร ช่วงเทศกาลนี่รถติดหนึบเลยแหละ แนะนำให้มาเช้ามืด รอดูพระอาทิตย์ขึ้น และไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ "กิ่วแม่ปาน" การเดินเส้นนี้จะมีค่าไกด์ท้องถิ่นเดินนำ 200 บาท โดยคิดเป็นกลุ่มนะคะ ไปคนเดียวก็ไปสะกิดขอรวมกลุ่มกับคนข้างหน้าแล้วหารค่าไกด์กันได้ โดยไกด์จะเดินนำและคอยดูแลเราไปตลอดเส้นทางประมาณ 3 ก.ม. ด้วยความสูงอากาศเบาบางกว่าปกติก็ทำให้เหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน หากร่างกายไม่พร้อมจริงๆ ไม่แนะนำให้เดิน ส่วนตัวเราไม่สบายตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง แต่พอไปถึงแล้วคิดว่าไหวก็หน้ามืดเอาได้เหมือนกัน เดินผ่านป่าดิบไปเรื่อยๆ เดินขึ้นลงสลับกัน แต่เดินออกไปเจอทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์ สบายตา แล้วเดินตามแนวสันเขาไปเรื่อย ๆ ไปจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เจอหมอกแบบนี้ ประทับจิตตตต ถ้าไม่มาคือเสียดายมากนะ ไปต่อกันที่ ดอยผ้าห่มปก ความสูง 2,285 เมตร สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยกันค่ะวันนี้เราเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ไปจากเมืองเชียงใหม่ เลาะไปเรื่อย ๆ ประมาณเกือบ 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ก็ถึงอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก คืนนี้เรานอนที่นี่ ลานกางเต็นท์กิ่วลม ถือเป็นลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในไทยค่ะ สามารถนำเต็นท์มาเองก็ได้ หรือเช่าของอุทยานก็ได้ เริ่มเย็นอากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ นั่งเล่นเอื่อยเฉื่อยไป รอดูพระอาทิตย์ตก พักผ่อนจากการเดินทางที่ผ่านมา โชคดีที่ฟ้าเปิดให้เห็นเจ้าพระอาทิตย์ไข่แดงแบบนี้ ก่อนจะไปกินข้าวกัน ที่นี่มีอาหารตามสั่ง และสั่งหมูกระทะได้นะคะ แต่อาจจะต้องเป็นเวลาเพราะเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเอง ที่สำคัญใครหนาวอาบน้ำไม่ไหว ที่นี่มีห้องอาบน้ำน้ำอุ่นให้บริการ 50 บาท ส่วนถ้าอยากชาร์จแบตโทรศัพท์ต้องรอเปิดไฟให้ใช้ช่วง 6 โมงเย็นตรงจุดร้านตามสั่งสามารถขอชาร์จได้ค่ะเข้านอนไวมากตั้งแต่ 2 ทุ่ม เพราะเราจะตื่นตี 4 กัน เพื่อเดินขึ้นไปยอดดอยผ้าห่มปก ระยะทางไปกลับประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นทางป่าโบราณ ค่อนข้างชันสลับกับทางราบ แต่หลังๆ เริ่มไม่ยากแล้ว ถ้าจะเดินช่วงเช้ามืด คือมืดมากจริง ๆ ต้องมีไกด์นำ ค่าไกด์ 350 บาท/กลุ่ม เหมือนเดิมค่ะ ไปคนเดียวก็ไปสะกิดเต็นท์ข้าง ๆ หาเพื่อนใหม่หารค่าไกด์ไปด้วยกัน ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงยอด ออกเดินประมาณ 04:30 น. ขึ้นไปถึงยอด ประมาณ 6 โมงเข้า ฟ้าปิดหมอกฟุ้งอยู่นานเลย อดได้เจอทะเลหมอกที่นี่ มีเปิดแว้บ ๆ นาที 2 นาที เรารอจนทุกกรุ๊ปลงไปหมด เริ่มถอดใจ กะว่าสัก 08:30 น. ฟ้ายังไม่เปิดคงจะเดินลงแล้ว และ 08:30 น. พอดี ก็ได้เห็นวิวทิวเขาสวย ๆ สมใจแล้วก็เดินลงไปเก็บเต็นท์เตรียมเดินทางต่อกันค่ะ สถานีต่อไป ดอยหลวงเชียงดาว ความสูง 2,175 เมตร อันดับ 3 ของประเทศไทย สำหรับที่นี่เราไม่ได้ขึ้นไปข้างบน แต่จะขอชมอยู่ด้านหลังของดอยหลวงเชียงดาว ในบ้านนาเลาใหม่หมู่บ้านเล็กๆ ของชาวไทยภูเขาเผ่าลีซู ที่วิวปังมาก เห็นดอยหลวงเชียงดาวแบบเต็มตามาก ๆ ขึ้นมาบนนี้ก็สูงได้เกือบครึ่งของดอยหลวงเชียงดาวแล้วนะ ที่พักทั้งหมดเป็นโฮมสเตย์มีหลายเจ้าอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ และเต็นท์ที่กางให้แล้วบนแคร่ เราได้ที่พักที่ ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ เป็นเต็นท์เดี่ยว และมีห้องน้ำส่วนตัว (คือห้องน้ำอยู่ด้านบนขึ้นไปเรียงกันแต่แยกเต็นท์ละห้องน้ำ ไม่ต้องใช้รวมกันค่ะ :D) ไม่มีไฟ ไม่มีน้ำอุ่นนะคะ แต่มีไฟทางเปิดตอน 6 โมงเย็น ราคาคนละ 600 บาท รวมอาหารเย็น และอาหารเช้าแล้วค่ะ ส่วนสัญญาณโทรศัพท์ต้องไปตรงจุดด้านบน บางจุดจะมี ตรงไหนคนยืนกดโทรศัพท์กันตรงนั้นแหละค่ะ มีสัญญาณแต่ก็แค่พอใช้ได้นะเราชอบที่นี่นะ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันสวยมากเลย โดยเฉพาะตอนเช้าวิวสวยมากจริง ๆ เราดันมาป่วยที่นี่กลางคืนนอนปวดท้องบิดไปมา ๆ ทรมานมาก แต่ตื่นเช้ามาเจอวิวอลังการแบบนี้สมใจที่อยากมาที่นี่มาตั้งนานแล้ว ขนาดโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ แบตหมดตั้งแต่หัวค่ำยังไม่เบื่อเลย ได้ใช้เวลากับคนข้าง ๆ ได้คุยกัน นั่งกินขนม ดีกว่าเล่นโทรศัพท์เยอะ ถ้ามีโอกาสและสังขารไหวค่อยขึ้นไปพิชิตยอดกับเค้าบ้าง อยากขึ้นไปมองอีกมุมลงมา แต่ยอมรับเลยว่ามุมที่อยู่ตอนนี้ก็สวยมากยิ้มแก้มแตกเลย :D สำหรับเราทริปนี้เป็นอีกทริปที่สนุกมาก ไม่สะดวกอะไรเลยแต่ไม่มีเบื่อ มีแต่ร่างกายที่อาจจะไม่พร้อมบ้าง แต่ขอให้ได้เที่ยวเถอะ 55 5 ใครมีแพลนไปเชียงใหม่ ต้องไม่พลาดน๊า 3 วันเก็บครบ 3 ดอย 3 อันดับที่สูงที่สุดในไทย ประทับใจแน่นอน หมายเหตุ : รูปทั้งหมดเป็นของเจ้าของบทความเอง และบุคคุลในภาพเป็นเจ้าของบทความเอง🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “ท่องเที่ยว”