หลายครั้งที่รู้สึกหมดหวัง ท้อแท้ และแม้แต่คนข้างๆหรือครอบครัว เพื่อนสนิท ก็ต่างไม่สนใจในการกระทำหรือคำพูดของฉันเลยแม้แต่น้อย ในหลายๆครั้งพอมีคนเข้ามาให้คำปรึกษาและปลอบใจ ฉันก็มักจะพูดออกไปเสมอว่า "เธอไม่เจอแบบฉัน จะไปเข้าใจอะไร" และสุดท้ายก็มานั่งกลุ้มใจเหมือนเดิมว่า คนอื่นไม่เข้าใจ เหลือแค่ตัวเอง มิหนำซ้ำยังมองว่า "ทำไมโลกไม่เข้าใจฉัน ทำไมคนอื่นๆถึงไม่เข้าใจฉันบ้าง" และเธอ...กำลังเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?คำถามคือ...เธอกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่ เช่น รู้สึกไม่มีใครรัก ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นว่าดี และยังรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเธอเลย เธออยากจะมีใครสักคนที่เข้าใจในสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ อยากให้เขาคนนั้นฟังทุกอย่างที่เธออธิบาย นั่งมองดูเธอร้องไห้อย่างเข้าใจ และอยู่ข้างๆเธอโดยที่เธอไม่ต้องร้องขอ รวมถึงในอีกหลายๆเรื่อง ที่เขาคนนั้นเข้าใจเธอ...ในวันที่เธอรู้สึกว่าโลกไม่เข้าใจ ฉันจึงอยากจะเขียนบทความนี้เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่า...เธอกำลังเข้าใจผิด แท้จริงแล้ว ไม่ใช่ว่าโลกไม่เข้าใจ แต่เธอต่างหากที่ "ไม่เข้าใจตัวเอง" ที่พูดแบบนี้ ฉันอยากให้เธอลองเปิดใจในสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดต่อไปนี้ดูก่อน และเธอค่อยตัดสินฉัน แบบนี้ฉันก็ไม่ว่าอะไร ให้นึกซะว่าฉันเป็นเครื่องมือปลอบใจ หากว่าเธออ่านมันจบ ฉันเป็นผู้ป่วยทางจิตคนหนึ่ง ที่ก่อนหน้าเคยมีความคิดว่าโลกใจร้ายกับฉันมาก ที่ให้ฉันเกิดมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น ชีวิตลำบาก โดนรังแกมาตั้งแต่เด็กๆ และซ้ำยังเมื่อโตขึ้นความร่าเริงของฉันก็ลดลงทั้งที่ก่อนหน้าเป็นคนที่ร่าเริงและสดใสมาก เป็นเด็กที่กล้าแสดงออกในทุกๆเรื่อง แต่น่าเสียดายที่ความน่ารักสดใสของฉันมันหมดไปในวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น สิ่งที่กำลังจะบอกต่อไปนี้คือ เธอไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก และโลกไม่ได้ใจร้ายหรือไม่เข้าใจเธออย่างที่เธอคิด เพียงแต่เธอยังไม่เปิดรับอะไรที่มันแตกต่างจากความคิดของเธอเพียงเท่านั้นเอง "ใช่สิ.เธอก็พูดได้หนิ เธอไม่ได้มาเจอแบบฉัน ไม่เป็นแบบฉัน!" เธอก็จะย้อนกลับมาใช้คำๆนี้กับฉันใช่ไหมล่ะ...และฉันอยากจะบอกเธอว่า เธอก็ไม่เจอแบบฉันเช่นกัน เพียงแต่ฉันเปิดใจรับสิ่งใหม่ เปิดมุมมองใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามายังไงล่ะ วิธีที่จะดึงตัวเองออกจากความโศกเศร้าของฉันที่จะมอบให้เธอนั่นก็คือ...1.เลือกหนังสือที่ชอบมา 1 เล่ม แต่ต้องเป็นหนังสือที่เธอคิดว่าจะทำให้เธอสบายใจได้เมื่ออยู่กับมัน...ใช่! แค่ฟังดูก็น่าเบื่อแล้วใช่ไหมล่ะ เพราะฉันไม่ชอบอ่านหนังสือเลยแม้สักนิดเดียวและฉันคิดว่าเธอก็คงจะเป็นแบบนั้น แต่จะให้ฉันมาอ่านหนังสือเพื่อระบายความโศกเศร้าในใจเนี่ยนะ? ฉันทำไม่ได้หรอก2.ความกล้าหาญของเธอในการเลือกหนังสือและหยิบมัน ฟังดูตลกสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่าน ฉันเองก็เช่นกัน แค่หยิบหนังสือทำไมต้องคิดอะไรมากมายขนาดนั้น แต่ฉันกำลังจะบอกเธอว่า หนังสือทุกเล่มใช่ว่าเราจะอ่านมันจบ ถึงจะจบเธอจะเข้าใจมันได้มากน้อยแค่ไหนกัน มันอยู่ที่ทัศนคติความชอบของเธอในการเลือกหยิบมันขึ้นมาอ่านนี่แหละ 3.ความกล้าหาญต่อมาคือ เปิดใจอ่านมัน ใช่! สั้นๆเลยคือ เธอต้องอ่านแม้ว่าจะไม่ชอบ เพราะนี่เป็นการเปิดใจรับสิ่งที่แตกต่างไปจากตัวของเธออีกหนึ่งอย่าง ช่วงแรกๆเธออาจจะไม่ชอบตัวหนังสือที่เยอะแยะมากมาย แต่เชื่อเถอะถ้าเธออ่านมันด้วยใจอ่านอย่างเข้าใจมันก็จะเข้าใจเธอตอบ และในที่สุดเธออาจจะค้นพบตัวเอง ค้นพบความสุข เข้าใจตัวเธอเอง จากหนังสือเล่มนั้นก็ได้ ส่วนตัวฉันเองก็เป็นเช่นนั้น ในวันที่ฉันรู้สึก โดดเดี่ยว ไม่มีใคร ฉันเดินเข้าไปที่ร้านหนังสือเพื่อเลือกซื้อโดยที่ก่อนหน้านี้ไม่มีความคิดว่าจะซื้อหนังสือเลยแม้แต่เล่มเดียว และไปเจออยู่เล่ม 1 ที่ฉันอ่านแค่หน้าปกก็รู้สึกว่ามันคงเป็นเพื่อนที่ดีให้กับฉันได้ในยามนี้ แล้วก็ใช่จริงๆ เมื่อเปิดอ่านมันไปเรื่อยๆฉันจึงได้เข้าใจว่าแท้จริงแล้วฉันนี่แหละที่ไม่เข้าใจตัวเองไม่ใช่โลกหรอกหรือคนรอบข้างหรอก เพราะหากเข้าใจตัวเองได้อย่าว่าแต่ใครๆเลยทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เธอจะเข้าใจมันและมันจะเข้าใจเธอ ย้ำว่า....เข้าใจตัวเองไม่ใช่เข้าข้างตัวเอง และหากว่าเธอทำมันได้เธอจะเก่งขึ้นทันทีแม้ว่ามันจะเพิ่มความกล้าที่จะหลุดกรอบนอกความคิดของเธอเพียงน้อยนิดก็ตาม พัฒนาตัวเองแค่วันละ 0.01% ยังดีกว่านั่งโทษทุกสิ่งทุกอย่างข้างกายและคิดว่า...โลกไม่เข้าใจ ฉันจะไม่บอกให้เธอต้องทำให้ได้ แต่ฉันอยากให้เธอลองทำ เธอมีความเก่งโดยที่ยังไม่รู้ตัว อย่าปิดกั้นตัวเองเลยนะเขียนโดย: GeschenK.ภาพปกโดย: GeschenK.(ผู้เขียน)ภาพประกอบ ภาพที่1-4 โดย: GeschenK.(ผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !