สวัสดีครับนักอ่านทุก ๆ ท่าน คำว่า "เกม" นั้น แน่นอนว่าถ้าเราได้ยินคำนี้แล้ว เราต้องนึกถึง "การเล่นเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย เล่นง่าย ๆ คลายเครียด" แต่ก็มีบางเกมนะครับที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความท้าทายให้กับผู้เล่นที่ต้องการความยาก ต้องการฝึกฝน และต้องการเล่นเกมเพื่อทำสถิติแข่งกับคนอื่นหรือแข่งกับตัวเอง ซึ่งการจะเล่นเกมประเภทนี้ให้ผ่านได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าจะผ่านแต่ละด่านได้ ผู้เล่นต้องถึงขั้น "ปาดเหงื่อกัน 100 กว่ารอบ" และในปัจจุบันก็มีเกมแนวนี้วางจำหน่ายออกมาค่อนข้างเยอะนะครับ วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงกันในหัวข้อ "3 อันดับ เกมเล่นยากมาก ถ้าคุณไม่แน่พอ อย่าได้เล่นเด็ดขาด!!" กันนะครับ ถ้าพร้อมเเล้ว ไปติดตามกันได้เลยครับ1. Bloodborneเป็นเกมแนว "Action RPG" ที่ขึ้นชื่อว่า "กว่าจะเล่นจบได้นั้น ผู้เล่นปาจอยเกมทิ้งไปนับครั้งไม่ถ้วน" เพราะตัวเกมมันเล่นยากมากและต้องอาศัยความชำนาญและทักษะที่เยอะมากเลยทีเดียว ปีศาจในเกมแต่ละตัวนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะเดินเข้าไปแล้วก็ปะทะกับมันแบบซึ่ง ๆ หน้าได้ แต่ต้องอาศัยจังหวะการกลิ้ง การโยกย้ายให้ถูกจังหวะเพื่อที่จะเข้าไปจัดการปีศาจได้ และสิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ ก่อนที่เราจะได้เจอกับปีศาจแต่ละตัวนั้น ระหว่างที่เราเดินทาง เราจะต้องเจอกับพวกลูกน้องของมันที่ออกมาให้เราสู้แบบบ่อยครั้งและถี่มาก ขึ้นชื่อว่า พวกลูกน้อง ผู้เล่นก็อย่าชะล่าใจหรือประมาทเป็นอันขาด เพราะถ้าผู้เล่นไม่ระวังตัวแล้วปล่อยให้มันเข้ามาโจมตีแบบระยะประชิดได้ละก็ ผู้เล่นจะได้เข้าใจคำว่า "เละเป็นโจ๊ก" โดยทันที เผลอ ๆ ผู้เล่นจะเละยิ่งกว่าโจ๊กซะอีก และสิ่งหนึ่งที่ทางผู้พัฒนาตั้งใจออกแบบมาเพื่อเป็นการแกล้งผู้เล่นทางอ้อม นั่นก็คือ "การวางจุด checkpoint แต่ละจุดน้อย ๆ" สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าผู้เล่นไม่ระวังตัวและเผลอตายระหว่างการต่อสู้ จะทำให้ผู้เล่นกลับไปเกิดที่จุด checkpoint ซึ่งห่างจากจุดที่เราตายเยอะมาก จะเรียกระยะทางว่าเป็น "กิโลเมตร" เลยก็ได้ ในส่วนนี้ทำให้ผู้เล่นหมดอารมณ์เล่นและปาจอยใส่กำแพงจนทะลุมาแล้ว ข้อดีอย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือ "สามารถฟื้นฟูเลือดระหว่างที่ต่อสู้กับปีศาจได้" แต่ไม่ได้ฟื้นฟูง่ายขนาดนั้น เพราะเราต้องฟันศัตรูให้เลือดไหลและเลือดต้องกระเด็นมาโดนตัวเราให้ได้ ถึงจะฟื้นฟูเลือดได้ และเกมนี้มีระบบการเล่นแบบ Multi-player ใส่มาให้ด้วย แต่เงื่อนไขในการเชิญเพื่อน ๆ มาร่วมสู้กับเราได้นั้น ค่อนข้างยุ่งยากเลยทีเดียว เพราะตัวเราต้องไปช่วยผู้เล่นคนอื่น ๆ มาก่อนถึงจะเรียกเพื่อนมาช่วยสู้ได้ในส่วนของอาวุธนั้น จะมีให้เราเลือกใช้หลากหลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็น ปืน, ไม้เท้า, ขวาน และดาบ และแต่ละอาวุธยังเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อีกด้วย และอาวุธทุกชิ้นสามารถใส่อัญมณีเพิ่มเข้าไปเพื่อให้อาวุธมีศักยภาพที่สูงขึ้น แต่ผู้เล่นต้องทำการซ่อมแซมอาวุธบ่อย ๆ ไม่เช่นนั้น อาวุธจะเสื่อมสภาพและค่าพลังต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลง 2. Dark Soulsเกมแนว "Action RPG" เช่นเดียวกันกับเกม Bloodborne ครับ ไม่ได้เหมือนแค่แนวนะครับ ความยากและความท้าทายก็ไม่ต่างกันเลยครับ โดยเมื่อเริ่มเกมมา ผู้เล่นจะได้เลือกสร้างตัวละครได้ตามใจชอบและจะมีสายอาชีพต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้เลือก ซึ่งแต่ละสายอาชีพก็จะมีความสามารถและจุดเด่นแตกต่างกัน จึงทำให้รูปแบบการเล่นในเกมนี้มีความหลากหลายมากขึ้นในด้านของศัตรู ต้องขอบอกก่อนเลยว่า "ไม่มีตัวไหนฆ่าได้ง่าย ๆ สักตัว" ซึ่งแต่ละตัวกว่าเราจะผ่านมันไปได้นั้น ต้องผ่านการตายมาแล้วอย่างน้อย 10 ครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเกมแนวนี้ เพราะผู้เล่นจะต้องใช้เวลาศึกษาและเรียนรู้รูปแบบกระบวนท่าต่าง ๆ ที่ศัตรูใช้ในการต่อสู้ จึงจะผ่านมันไปได้ แต่ถ้าผู้เล่นผ่านมันมาได้ ผู้เล่นจะรู้สึกภูมิใจอย่างมากแน่นอน เอกลักษณ์ของเกมนี้ที่ช่วยดึงดูดให้ผู้เล่นอยากเล่น ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเกมที่ยาก นั่นก็คือ "กราฟิกและการออกแบบงานศิลป์" ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้เล่นได้เข้าถึงบรรยากาศความน่าสะพรึงกลัวภายในเกมได้อย่างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ปราสาทโบราณยักษ์ที่ผุกร่อน ดินแดนแห่งเทพ และคุกร้าง เป็นต้น 3. cuphead เชื่อว่าผู้เล่นหลาย ๆ คน แค่ได้เห็นกราฟิกเกมและฉากต่าง ๆ ภายในเกม ก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่า "มันเป็นเกมที่เล่นยากจริง" เพราะด้วยตัวละครที่ออกแบบมาได้คล้ายคลึงกับตัวการ์ตูนของ Walt Disney มีความน่ารักสดใสคล้าย ๆ เจ้าตัว "Mickey Mouse" มันจะกลายเป็นเกมเล่นยากได้อย่างไรกัน? แต่เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับว่า "อย่าตัดสินเจ้าเกมนี้จากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอันขาด" เพราะถ้าหากคุณได้มาลองเล่นแล้ว ความยากของเกม Bloodborne และ Dark souls ที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้น ยังไม่ถึงครึ่งของความยากของเจ้าเกมนี้เลยครับ เพราะรูปแบบการโจมตีของศัตรูในเกมนี้นั้น ต่อให้เราจะคาดการณ์รูปแบบของมันได้ถูกต้อง แต่ก็ใช่ว่าเราจะสามารถหลบหลีกการโจมตีมันได้ เนื่องจากการโจมตีของศัตรูนั้นมีความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนบางทีก็ทำให้ผู้เล่นต้องเวียนหัวและมองการเคลื่อนที่ของตัวละครไม่ทันเลยครับ และกว่าเราจะผ่านแต่ละด่านไปได้นั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10-15 นาทีอย่างแน่นอน จนผู้เล่นหลายคนทนไม่ไหวและต้องลบเจ้าเกมนี้ไปในที่สุดครับ เป็นไงกันบ้างครับเพื่อน ๆ สำหรับ "3 เกมเล่นยาก" ที่เราได้คัดมาบอกต่อเพื่อน ๆ โดยเฉพาะ ยากสมคำร่ำลือใช่ไหมครับ ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการความท้าทายและไม่ชอบเล่นเกมที่ง่าย ๆ สามารถเอารายชื่อเกมที่เราได้แนะนำไปนั้น ไปลองซื้อและลองโหลดมาเล่นกันได้นะครับ รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่กับเกมที่ท้าทายมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ สำหรับใครที่เล่นแล้วไม่ผ่านด่านสักที ก็ไม่ต้องเครียดนะครับ เพราะมันเป็นแค่เกม มันสร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกแบบท้าทายเท่านั้น ถ้าเล่นไม่ผ่าน เราก็ฝึกและจับจังหวะแนวทางไปเรื่อย ๆ สักวันเราก็จะผ่านมันไปได้ครับขอบคุณมากครับที่เข้ามาอ่านบทความของเรา ขอให้มีความสุขทุก ๆ ท่านนะครับ เจอกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ:)ขอขอบคุณภาพหน้าปก : Bloodborne / Cuphead / Dark soulsเครดิตภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5เรียบเรียงเนื้อหาบทความ : ผู้เขียน