เชื่อว่าหลายคนคงจะเหนื่อยหน่ายกับการเรียนมาก เพราะไม่ว่าจะพยายามเรียนยังไงก็ไม่เข้าใจ และเรียนไม่รู้เรื่อง ซึ่งสาเหตุก็มาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของผู้เรียน ความพร้อมของผู้สอน ความพร้อมของสื่อและสถานที่ในการเรียน ทุกองค์ประกอบจะเป็นตัวกำหนดว่าผู้เรียนหรือตัวเราจะสามารถเข้าใจกับบทเรียนได้มากน้อยแค่ไหน ตัวผมเองเคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่เมื่อเรียนในห้องเรียนแล้วไม่เคยเข้าใจเนื้อหาที่ครูสอนเลยสักครั้ง บางครั้งก็ตามครูไม่ทัน บางครั้งก็ไม่มีสมาธิ บางครั้งก็คิดถึงแต่อย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเที่ยว หรือเรื่องแฟน หรือแม้แต่บางครั้งก็ไม่เข้าใจคำศัพท์แปลกๆที่ครูพูด ซึ่งปัญหาที่กล่าวมานี้ผมสามารถที่จะแก้ไขมันได้ภายในไม่กี่เดือน และกลับกลายมาเป็นคนที่เรียนเก่งอันดับต้นๆของห้องเรียนได้ ไม่ว่าครูจะสอนอะไรก็ฟังรู้เรื่องและเข้าใจมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ เป็นเพราะผมได้มีการปรับปรุงตัวและพฤติกรรมโดยสามารถสรุปออกมาเป็น 3 เทคนิคให้ผู้ปกครองหรือแม้แต่ตัวน้องๆนักเรียนเองได้อ่านและนำไปปรับประยุกต์ใช้ ซึ่งเทคนิคที่ผมสรุปมานั้นจะมุ่งเน้นที่การปรับที่ผู้เรียน เพราะเชื่อว่าคนที่เข้ามาอ่านบทความคงเป็นผู้เรียนแน่นอน และอีกอย่างคือปัจจัยอื่น เช่น ครู สภาพแวดล้อม เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะเปลี่ยนมันได้ในทันที ผมจึงมุ่งเน้นไปที่ผู้เรียนมากกว่า เพราะที่ผ่านมาผมก็ประสบความสำเร็จได้โดยที่ผมแค่เปลี่ยนที่ตัวผม ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรให้ยุ่งยากเลย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า 3 เทคนิคที่ผมพูดถึงมีอะไรกันบ้าง1.เปิดใจให้การเรียนและจงสนุกกับการเรียน หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนเพราะไม่มีใจให้กับการเรียนเลย อาจเป็นเพราะมีความคิดที่ปิดกั้นตัวเอง เช่น คิดว่าตัวเองเรียนไม่เก่ง คิดว่าเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ คิดว่าเรียนไปก็ไม่มีประโยชน์ คิดว่าถึงเรียนไปก็ได้เงินเดือนน้อย ก่อนอื่นต้องบอกว่าการเรียนไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้เรามีเงินเดือนสูง แต่การเรียนจะเป็นการพัฒนาให้เราเป็นคนที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ คนที่ได้เรียนหนังสือจะมีความคิดความอ่านและทักษะการฟัง คิด อ่าน เขียน ที่ค่อนข้างดี เนื่องจากถูกฝึกฝนผ่านระบบการศึกษา รวมถึงการเรียนจะทำให้เรามีวิจารณญาณที่ดีกว่า กลั่นกรองข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันที่โลกเต็มไปด้วยข้อมูล การศึกษาจะช่วยให้เราคัดกรองข้อมูลได้ดีขึ้น ในอดีตมีคำว่าอย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว แต่สำหรับผมคือนอกจากคำนั้นแล้ว ยังมีคำว่าอย่าลืมติดเครื่องกรองน้ำให้แก้วด้วย คือไม่ควรเอาน้ำโคลน น้ำเลนใส่ไปในแก้ว ซึ่งสำหรับใครหลายคน การศึกษาจะเป็นตัวช่วยกลั่นกรองข้อมูลต่างๆให้เขา และสำหรับใครหลายคนก็เปลี่ยนชีวิตได้เพราะการศึกษา ดังนั้นถ้าเราอยากจะเรียนให้ประสบความสำเร็จก็ขอให้มองข้อดีของการเรียนซึ่งถือเป็นการเปิดใจให้การเรียน แล้วอีกอย่างคือควรตั้งเป้าหมายในการเรียน อย่างตัวผมเองเคยคิดว่าเรียนไปก็เท่านั้น อยากจะหางานทำมากกว่า ทำให้ผมไม่ตั้งใจเรียน และอีกอย่างคือผมมักโดนครูดูถูกว่าเรียนไม่เก่งเป็นประจำ ทำให้ผมมีเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียน แต่หลังจากนั้นผมมองว่าการเรียนคือสิ่งสำคัญ ช่วยให้เราเป็นคนที่มีความคิดที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ทำให้ผมกลับมาทุ่มเทให้กับการเรียนอีกครั้ง ดังนั้นจะสำเร็จได้จะต้องรักเรียนและเปิดใจให้การเรียนเสียก่อน 2.ทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งก่อนและหลังเรียน ข้อนี้คือสิ่งที่ใครหลายคนละเลยและไม่ได้ทำมันเลยสักนิด เรียนในห้องเสร็จก็เสร็จเลย ไม่ได้กลับไปทบทวนอะไรหลังจากเรียน ไม่ได้ขวนขวายความรู้เพิ่มเติม รวมถึงไม่เคยดูเนื้อหาคร่าวๆก่อนเรียนเลย หลายคนคงเคยได้ยินว่าทำไมครูถึงบอกว่าให้ไปดูเนื้อหามาก่อน และครูจะมาสอนในวันพรุ่งนี้ การดูเนื้อหามาก่อนจะช่วยให้เราเข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ผมเชื่อว่าใครหลายคนก็คงเปิดหนังสือดูแล้วแต่ไม่เข้าใจ แถมตำรายังเขียนยืดยาวเข้าใจยากอีกต่างหาก ผมเลยมีเทคนิคแนะนำว่าลองเอาเนื้อหาที่เราจะเรียนในวันถัดไปไปค้นหาใน YouTube และหาวิดีโอสรุปเพื่อจะดูเนื้อหาคร่าวๆ เพราะถ้าเราอ่านในหนังสือไม่มีทางเข้าใจแน่นอน และเมื่อเรียนเสร็จก็ควรจะทบทวนเนื้อหาโดยมีหนังสือสรุปมาอ่านคู่กันไป จะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้น และหากไม่เข้าใจเนื้อหาตรงไหนก็สามารถค้นหาคำตอบได้ใน Google รวมถึงค้นหาวิดีโอที่ครูท่านอื่นสอนใน YouTube ก็จะช่วยให้เรามีความรู้จากหลากหลายแหล่งมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสะดวกและง่ายมากๆ ผมใช้วิธีนี้ในการทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งก่อนเรียนและหลังเรียนมาโดยตลอด ทำให้ผมตามเนื้อหาของครูได้ง่ายมากขึ้น ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ3.พยายามนำเนื้อหามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าหากเราเรียนจนเข้าใจแต่ไม่ได้นำมาปรับใช้ วันหนึ่งมันก็จะลืม และต้องไปทบทวนใหม่อยู่ดี แต่ถ้าเราอยากให้ความรู้นั้นมันตกตะกอนอยู่ในสมองของเรา เราควรจะนำไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นผมเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องของไหล เมื่อผมเห็นเขื่อนหรือเครื่องบินผมก็จะพูดกับคนอื่นว่านั่นมันใช้หลักการฟิสิกส์ข้อไหน และมันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร หรือเมื่อผมเรียนวิชาเคมีเรื่องเคมีอินทรีย์ เมื่อผมเห็นสารอะไรผมก็จะพูดชื่อสารนั้นๆและบอกว่ามันเป็นสารประเภทไหน เช่น เห็นแอลกอฮอล์ล้างมือ ผมก็จะบอกว่านั่นมันคือ Ethyl alcohol มีหมู่ฟังก์ชัน Hydroxyl นี่คือตัวอย่างการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ความรู้นั้นวนเวียนอยู่รอบตัวเราเสมอ ช่วยให้เราจำเนื้อหาได้อย่างตกผลึก ซึ่งผมใช้วิธีมาโดยตลอด แต่ก็ขอให้อย่าลืมว่าคนที่เราจะพูดด้วยควรเป็นคนสนิทและพร้อมรับฟังเรา เพราะไม่เช่นนั้นอาจฟังดูน่ารำคานได้และนี่ก็คือ 3 เทคนิคที่ผมได้ใช้ในการพัฒนาการเรียนของผมให้กลายเป็นคนเรียนเก่งและเรียนรู้เรื่อง ฟังเข้าใจที่ครูสอนมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าเป็นการมุ่งเน้นปรับเปลี่ยนที่ผู้เรียน อย่าลืมลองนำไปประยุกต์ใช้กันดูนะครับภาพปกทำเองจากเว็บไซต์ canva.comภาพที่ 1 โดย libellule789 จาก Pixabayภาพที่ 2 โดย White77 จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย picjumbo_com จาก Pixabayภาพที่ 4 โดย lil_foot_ จาก Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !