รวม 3 เหตุผลในการเลือกคณะและสาขาที่เรียน ฉบับ2566 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับทุก ๆ คนที่กำลังเลือกคณะและสาขาในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งผู้ที่กำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและเกิดคำถามกับตัวเองว่าคณะที่เคยใช่สาขาที่เคยชอบยังเป็นอยู่แบบเดิมหรือเปล่า มาลองอ่านกันเลยครับ เป็นสิ่งที่เราต้องอยู่ด้วยตลอด 4-12 ปี ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอกครับ ต้องอยู่ด้วย 4-12 ปี เนื่องจากระยะเวลาในการศึกษาในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 4-6 ปี แตกต่างกันไปตามคณะและสาขา แต่หากมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ต้องพักการเรียนไม่ว่าจะเป็นเหตุผลด้านสุขภาพ ด้านการเงิน หรือด้านใด ๆ ก็ตาม ระยะเวลาจะถูกยืดเป็น2เท่า คือ 8-12 ปี ดังนั้น ระยะเวลาในการศึกษาจึงเป็น 4-12 ปี แล้วลองคิดภาพตามนะครับว่าถ้าน้องต้องใช้ชีวิตในการศึกษากับคณะหรือสาขาที่ตนเองไม่ชอบเป็นเวลา 4-12 ปี จะทรมานขนาดไหน และหากสมมติว่ามีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี2(สมมติว่าเรียน4ปี ตอนนี้ก็กำลังเข้าสู่ระยะครึ่งทาง) แล้วเกิดรู้สึกว่าสิ่งที่เรียนอยู่มันไม่ใช่ แน่นอนว่าทุกคนยังคงมีโอกาสในการเปลี่ยนใจอยู่ เพราะความเป็นจริงการเริ่มศึกษาในชั้นปีที่2นั้นก็เปรียบได้กับระยะ1ใน4ของการศึกษาเท่านั้น ยังไม่ถือว่าครึ่งทางอย่างแท้จริง และในชั้นปีที่1ที่ผ่านมา ส่วนมากก็มักจะศึกษาในรายวิชาพื้นฐานและวิชาทางเลือกเท่านั้น เมื่อเริ่มเข้าปี2จะเริ่มรู้สึกได้ถึงความเป็นวิชาชีพมากยิ่งขึ้น ทำให้เริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้? แต่หากลองไปจนถึงปี2เทอม2หรือขึ้นชั้นปีที่3แล้ว จะถูกเหตุผลที่ว่ามาถึงครึ่งทางแล้วผูกมัดอย่างแท้จริง ทำให้การตัดสินใจเป็นไปได้ยากขึ้นไปอีก เป็นสิ่งที่เราต้องอยู่ด้วยตลอดจนถึงอายุ 60 สมมติเราจบการศึกษาไปแล้วทำงานตรงสายอาชีพที่ได้ร่ำเรียนมา แต่กลับเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบและเราจำเป็นต้องอยู่ในบริบทนั้นไปจนถึงอายุ 60(สมมติเป็นอายุที่เกษียณอายุการทำงานโดยทั่วไป) อาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่เมื่ออยู่ไปแล้วอาจจะชินชาไปเอง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องใหญ่ที่แท้จริง แต่นี่ก็เป็นเพียงการสมมติให้เห็นภาพถึงการต้องอยู่กับสิ่งที่เราได้เลือกไปแล้ว ในความเป็นจริงอาจไม่แย่อย่างที่ผู้เขียนบรรยายไป เพราะมีคนจำนวนมากที่ทำงานในสายงานที่ไม่ตรงกับสาขาจบการศึกษามา และบางคนอาจเรียนในสิ่งที่ตนเองไม่ชื่นชอบแต่สิ่งที่เรียนสามารถนำมาผนวกใช้กับงานที่ตนเองวางแผนว่าจะทำในอนาคต เช่น การสืบทอดธุรกิจของทางบ้านหรือการเปิดธุรกิจส่วนตัวของตนเอง เป็นสิ่งที่เราสามารถเลือกได้ในตอนนี้ ไม่ว่าบทความนี้จะถูกเผยแพร่หลังจากการรับสมัครในรอบที่2, 3, 4หรือผู้อ่านได้อ่านบทความนี้ในปีถัด ๆ ไปก็ตาม แต่ถ้าหากผู้อ่านได้ผ่านการสมัครสอบรอบต่าง ๆ มาเท่าใดและหากยังไม่ได้ในคณะหรือสาขาที่สนใจจริง ๆ ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านลองประเมินความสามารถของตนเองก่อนว่าหากพยายามมากกว่านี้อีกสัก10-20% หรืออาจจะ50-90%ก็ตาม จะสามารถไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการได้หรือไม่ หากได้นั้นก็คุ้มค่าในการพยายามอีกสักครั้ง เพราะมีหลายคนที่คิดว่าหากเป็นสาขาอื่นที่ใกล้เคียงกันก็คงจะได้อยู่ ได้อยู่ที่หมายถึงไม่ได้จริง ๆ เพราะอาชีพที่เราเห็นว่าใกล้เคียงกัน การเรียนและบริบทในการทำงานก็อาจแตกต่างกันได้ บางคนอาจได้รับความกดดันและความคาดหวังไม่ว่าจากตนเอง ครอบครัวหรือคนรอบข้าง แน่นอนว่าในความพยายามของเราทุก ๆ ครั้งนั้นเราทำเต็มที่แล้วอย่างแน่นอน ถ้าหากตัวเรายอมรับได้ว่าเราไปไม่ถึงจุดนั้นจริง ๆ ก็สามารถเลือกสาขาหรือคณะที่ชื่นชอบรองลงมาได้ เพราะเราทุกคนก็ต่างจัดอันดับความชอบไว้ในใจของตนเองอยู่แล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 3 เหตุผลในการเลือกคณะและสาขาที่เรียน ฉบับ2566 ที่ผู้เขียนลองยกตัวอย่างมาบางส่วนเพื่อให้เห็นภาพคร่าว ๆ เพียงเท่านั้นครับ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนอารมณ์จากการอ่านหนังสือมาสำรวจความรู้สึกของตนเองกันนะครับบทความที่เกี่ยวข้อง"เรียงความ" รอบ "พอร์ต" ความประทับใจแรกสร้างได้จากปลายนิ้ว5 คำถามยอดฮิตที่มักพบในการสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยและทริคในการตอบคำถามขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพหน้าปก จาก Hermann / pixabayภาพประกอบที่1 จาก JESHOOTS-com / pixabayภาพประกอบที่2 จาก sasint / pixabayภาพประกอบที่3 จาก qimono / pixabayภาพประกอบที่4 จาก Pexels / pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !