4 Steps ออกแบบตู้หนังสือด้วยตัวเอง หลังจากกักตัวอยู่นานจากการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 วันนี้ผมก็จะมาแชร์เทคนิคการออกแบบตู้หนังสือด้วยตัวเอง เอาไว้เก็บหนังสือที่เราชอบอ่าน หนังสือที่สะสมมาหลายปี ขั้นตอนก็ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น จะมีอะไรบ้างมาติดตามกันเลยครับ Step 1 เลือกวัสดุที่ชอบ การที่เราจะออกแบบตู้หนังสือให้กับห้องของเรานั้น ทุกคนก็คงอยากจะให้มีความเป็นตัวเรา เข้ากันได้กับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน หรือสไตล์ของเรากันใช่มั้ยครับ ส่วนตัวผมนั้นอยากจะให้มันดูดิบ ๆ แต่ก็มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลาผมจะเลือกวัสดุเป็นโลหะในการนำมาออกแบบเป็นตู้หนังสือครับ อยากให้มันคล้ายกับตู้หนังสือตามห้องสมุดในโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย เพราะว่าหนังสือส่วนมากของผมก็สะสมมาจากสมัยเรียนครับ สำหรับวัสดุที่ผมจะเลือกมาเป็นโครงสร้างรับน้ำหนักให้กับตู้นั้น อยากจะได้เป็นวัสดุโลหะที่ไม่เกิดสนิมเพื่อจะได้เช็ดทำความสะอาดได้ น้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรง และ สามารถถอดประกอบเป็นรูปแบบอื่น ๆ ได้เผื่อวันไหนเราเบื่อก็เอาวัสดุไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ครับ วัสดุที่ผมเลือกใช้เป็นโครงสร้างก็จะเป็น อลูมีเนียมโปรไฟล์ครับ หน้าตาก็จะประมาณรูปนี้ครับ ** สำหรับอลูมีเนี่ยมโปรไฟล์ในแต่ละพื้นที่อาจมีหน้าตัดที่แตกต่างกันแล้วแต่ผู้ผลิตนะครับ ลองสอบถามจากผู้ขายได้ เมื่อเลือกวัสดุทำโครงแล้วเราก็มาเลือกวัสดุที่จะใช้เป็นพื้นของตู้กันนะครับ ผมอยากได้เป็นแผ่นโลหะที่ไม่เป็นสนิม ได้เป็นสแตนเลสครับ Step 2 ร่างโครงอย่างง่าย หลังจากที่เราเลือกวัสดุกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มร่างโครงตู้กันเลยครับ โดยหนังสือที่ผมมีส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดประมาณ ใหญ่กว่า A4 นิดหน่อยครับ ผมก็จะเผื่อส่วนสูงอยู่ที่ประมาณ ชั้นละ 40 ซ.ม. เพื่อเหลือพื้นที่ให้หนังสือเล่มใหญ่ ๆ บางเล่มครับ ความกว้างของแต่ละล็อกก็จะให้อยู่ที่ 60 ซ.ม. ครับ ( อันนี้แอบก็อปมาจากตู้ที่บ้าน ) ส่วนความลึกหรือ ความหนาของตู้ผมจะให้เป็น 40 ซ.ม. เผื่อให้หนังสือที่ออกแบบเป็นแนวนอนครับ เมื่อเราได้ขนาดคร่าว ๆ ของแต่ละช้นแล้วก็มาออกแบบตู้กันต่อครับ ผมจะให้ตู้ของผมสูงประมาณ 2 เมตรครับ ( 5 ชั้น ) และ กว้างสัก 3 ล็อก เพราะมีหนังสือค่อนข้างเยอะ ก็จะได้ออกมาแบบในรูปข้างล่างครับ Step 3 ตู้ต้องไม่หักนะ ในความเป็นจริงนั้นวัสดุที่ผมเอามาทำตู้รับน้ำหนักได้สบาย ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นวัสดุอื่นก็อาจจะมีปัญหาได้ ถึงมันจะไม่หักแต่ก็อาจจะโก่งงอได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะไปลงรายละอียดเรื่องขนาดต่าง ๆ เรามาคำนวนน้ำหนักกันก่อน ว่าตู้ของเราแข็งแรงเพียงพอมั้ย ไม่ใช่ออกแบบมาอย่างดีแล้วดันใช้งานได้ไม่เต็มที่ ขั้นตอนก็ตามนี้เลยครับ คำนวนน้ำหนักของหนังสือวิธีง่าย ๆ ได้ผลชัวร์สำหรับการคำนวนน้ำหนักคือ ให้หาว่าน้ำหนักที่มากที่สุดนั้นเป็นเท่าไหร่ ในกรณีของผมเป็นหนังสือ ผมก็จะเลือกน้ำหนักที่เกิดจากการเอากระดาษวางให้ได้มากที่สุดเป็นน้ำหนักที่เกิดขึ้น โดยเลือกเอากระดาษ 80 แกรม มาคำนวนว่าวางให้เต็มพื้นที่จะได้เท่าไหร่ แล้วผลที่ออกมาก็ได้น้ำหนักในแต่ละชั้นครับ เมื่อเราได้น้ำหนักโดยประมาณมาแล้วก็มาเลือก ขนาดอลูมีเนียมโปรไฟล์ครับ โดยอลูมีเนียมโปรไฟล์ที่ผมเลือกขนาดหน้าตัด 40 x 40 ม.ม. รับน้ำหนัก ได้ 70 ก.ก. / ชิ้น จึงเพียงพอครับ ** ตรงนี้ให้ขอข้อมูลจากทางร้านนะครับเพราะแต่ละที่ผลิตไม่เหมือนกันครับ ส่วนแผ่นพื้นตู้นั้นก็เลือกเป็นแผ่นสแตนเลส ที่กว้าง 120 ซ.ม. ยาว 240 ซ.ม. ความหนา 0.5 ม.ม. ให้ทางร้านตัดตามแบบให้พอดีกับชั้นหนังสือครับ ** การคำนวนนี้เป็นวิธีแบบหยาบ ๆ นะครับ ถ้าจะเอาให้ถูกต้องกว่านี้ไว้คราวหน้ามีโอกาสก็จะมาแชร์กันครับ โปรดติดตามตอนต่อไป ^^ Step 4 สุดท้ายร่างแบบเลย ตอนนี้โครงสร้างประมาณ 90 เปอร์เซ็นก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็มาเลือกอุปกรณ์อีกนิดหน่อยก็จะเสร็จแล้วครับ อุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบ แล้วก็ร่างแบบ พร้อมทั้งสรุปรายการวัสดุได้เลย ถ้าใครไม่มีโปรแกรมก็ไม่เป็นไรนะครับสามารถร่างแบบง่าย ๆ ลงในกระดาษก็ได้นะครับ เสร็จแล้วสำหรับการร่างแบบตู้หนังสือของเรา ก็ไม่ได้ยากอะไรใช่มั้ยครับ ถ้าหากว่าเราใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำตามวิธีที่ผมแนะนำ ก็น่าจะเป็นไกด์สำหรับการออกแบบได้ระดับนึงนะครับ สำหรับขั้นตอนการจัดซื้ออุปกรณ์ และการประกอบนั้นโปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ ภาพประกอบโดยผู้เขียน