เท่าที่ทราบกันว่าปัจจุบันนี้การสูบบุหรี่เป็นเหมือนเทรนบางอย่างที่ขอใช้คำว่าระบาดในกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนอย่างมาก บางคนอายุไม่ถึง 15 ปีก็เริ่มที่จะริลองบุหรี่ จากวันละมวน เป็นวันละครึ่งซอง จนไปถึงวันละ 1-3 โดยไม่รู้เลยว่านั้นจะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ปัญหาที่ตามมาอย่างแรกเลยคือโรคภัยอันตรายต่างเช่น โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคถุงลมโป่งพองและโรคอื่นๆอีกตามมา นอกจากโรคที่กล่าวมาแล้ว ยังเกิดปัญหาทางอ้อมอย่างเช่น สูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ สังคมรอบข้างรังเกียจจาดควันบุหรี่ และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม ปัจจัยการติดบุหรี่มีหลายปัจจัยเช่นสูบตามเพื่อนความเชื่อผิดๆคิดว่าการสูบบุหรี่จะบรรเทาความเครียดได้สูบเพื่อความเท่สูบเพื่อประชดชีวิตสูบเพราะอยากลอง แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการอยากจะเลิก บางคนกลับตัวเลิกได้ไวตอนอายุน้อยๆก็ถือว่ายังคิดได้ แต่บางคนต้องเลิกเพราะโรคๆต่างๆ ตอนช่วงอายุมากๆ บางคนเลิกได้บ้าง เลิกไม่ได้บ้าง สารพัดวิธีที่พอจะทำได้ แบบต่างกันไปเฉพาะบุคคล สาเหตุที่เลิกบุหรี่ไม่สำเร็จ บางทีก็เกิดจากการมีความความคิดที่ผิด โดยบทความนี้เราจะมาบอกกันว่า ความคิดผิดๆเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่ มีอะไรบ้าง ไปกันเลย1. ค่อยๆลดจำนวนลง เป็นวิธีแรกๆที่คนที่กำลังจะเลิกบุหรี่คิดไว้ คือค่อยๆ ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบลงทุกๆวัน จนวันสุดท้ายแล้วจะเลิกบุหรี่ได้เอง บอกตรงๆเลยว่าวิธีนี้ล้มเหลวที่ปลายทางมาแล้วหลายๆคน การที่เราลดจำนวนบุหรี่ให้น้อยลงเรื่อยๆ ระยะเวลาก็จะเยอะขึ้น ความอยากบุหรี่จะเข้ามาเรื่อยๆกว่าจะถึงวันสุดท้าย เกิดอาการย้ำคิดย้ำทำทุกๆวัน ส่วนใหญ่ก็จะทนความอยากไม่ไหวและล้มเหลวในที่สุด วิธีที่ดีที่สุดและอาจจะดูโหดไปสักหน่อยคือการ"หักดิบ"เพราะยิ่งเราห่างบุหรี่ไวขึ้นเท่าไหร่ ความอยากบุหรี่ก็จะน้อยลงเร็วขึ้น ไม่เชื่อลองดูสิ คิดดูนะบนโลกนี้มีคนอยุ่ 2 กลุ่ม คือคนสูบบุหรี่กับคนไม่สูบบุหรี่ ถึงแม้เราจะสูบวันละซอง กับสูบวันละมวน สุดท้ายเราก็คือคนสูบบุหรี่อยุ่ดีฉะนั้นถ้าเราอยากเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ เราก็ไม่ควรสูบเลยสักมวน จริงไหม?2. วัดใจตัวเอง หลายๆคนก็ยังเชื่อในวิธีนี้ในการวัดใจตัวเอง เช่น การเอาบุหรี่มาวางไว้หัวเตียง ไว้ในกระเป๋า ไว้ในที่ๆตัวเองเคยหยิบมาสูบบ่อยๆ หรือเลือกที่จะไม่หลีกเลี่ยงการอยู่กับกลุ่มคนที่สูบบุหรี่ เพื่อทดสอบจิตใจตัวเอง วิธีนี้จะได้ผลจริงๆก็ต่อเมื่อเราเลิกบุหรี่ไปสักระยะหนึ่งแล้ว แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งเลิก หรือบางคนจิตอ่อนจิตแข็งไม่เท่ากัน สุดท้ายจะแพ้ภัยตัวเอง ยิ่งเวลาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ แอลกอฮอล์จะทำให้เราไม่มีสติ สุดท้ายเราจะลืมความตั้งใจเรา และเกิดความมักง่าย ว่าไม่เป็นไรหรอกแค่มวนเดียว สรุปคือเราก็จะกลับไปสู่จุดเริ่มต้น หรือเลิกบุหรี่ไม่ได้นั้นเอง ทางที่ดีที่สุดในตอนเริ่มก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดไว้ก่อน เอาทุกอย่างที่เกี่ยวกับบุหรี่ไปไว้ไกลหูไกลตาซะ เช่น บุหรี่ ซองบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า ไฟแช็ก และพยายามปฏิเสธการสังสรรค์ไปก่อนสักพัก ให้เลิกบุหรี่สำเร็จ จนกว่าไม่มีความอยากหลงเหลืออยุ่แล้ว เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยที่จะไม่มีอะไรมาทำให้คุณวอกแวก หรือหวนกลับมาสู่วงจรบุหรี่อีก3. สูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน วิธียอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนี้ คือการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อที่จะทำให้ตัวเองไม่ไปสูบบุหรี่ ถามว่ามันได้ผลไหมก็ค่อนข้างได้ผล ในเชิงเหตุผลที่ว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะเกิดอันตรายน้อยกว่า หรือทำให้เกิดโรคต่างๆที่นำไปสู่การเสียชีวิตน้อยกว่า แต่เราอย่าลืมไปว่าการเลิกบุหรี่ ประโยชน์ไม่ได้มีแค่เหตุผลที่กล่าวมาเพียงเหตุผลเดียว มันคือเรื่องสังคม การเงิน พฤติกรรม และอีกมากมาย จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าหรืออะไรก็ช่าง พฤติกรรมต่างก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม เปลี่ยนแค่สิ่งที่คุณถือเท่านั้น เรายังทำสิ่งเดิมๆเหมือนที่ครั้งที่เรายังสูบบุหรี่อยู่ สังคมก็ยังคงไม่ชอบควันของเราเวลาเราสูบในที่สาธารนะเหมือนเดิม เรายังเสียเงินให้กับบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนเดิม แล้วเราจะหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ทำไมกัน ทางที่ดีเราไม่ควรจะเสพติดของแบบนี้เลยจะเป็นการดีซะกว่าระยะยาวเราไม่รู้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง ควรหากิจกรรมต่างทำสิ่งหรือที่เราชอบ เพื่อใช้ทดแทน การอยากสูบบุหรี่จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด และยั่งยืนมากกว่า4. ใช้ตัวช่วยในการเลิกบุหรี่ วิธีนี้ก็นิยมสำหรับคนที่อยากลดอาการอยากบุหรี่โดยใช้ตัวช่วยต่างๆ เริ่มแต่ของที่หาได้รอบตัวอย่าง มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยว จนถึงขึ้นยอมเสียเงินเพื่อซื้อลูกอม หมากฝรั่ง ที่ผสมสารนิโคติน เพื่อทดแทนอาการอยากสูบบุหรี่ วิธีนี้ใช้ได้ผลในระยะสั้นๆมากกว่า เหมือนการเอาสารนิโคตินมาทดแทนกัน เราอย่าคิดว่าที่เราติดบุหรี่เกิดจากสารนิโคติน แต่จริงๆแล้วเราเสพติดพฤติกรรมมากกว่าเสพติดการใช้นิ้วคีบ การเอาอะไรปาก ความรู้สึกกระแทกคอ สูบบุหรี่ตอนเข้าห้องน้ำ ตอนทำงาน ตอนหลังกินข้าว ตอนปาตี้สังสรรค์ เหล่านี้คือการเสพติดพฤติกรรมทั้งสิ้น ต่อให้สิ่งที่เราสูบไม่มีสารนิโคตินก็ตาม ฉะนั้นต้องแก้จากพฤติกรรมของตัวเอง เลิกบุหรี่คือการเปลี่ยนไลฟ์สไตน์ เปลี่ยนสิ่งที่เคยทำจนเคยชินต่างๆที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ ลองสังเกตคนที่เขาไม่สูบบุหรี่ดูสิ เขามีพฤติกรรมอย่างไร ลองค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตดู แล้วจะรู้เลยว่าจริงๆแล้วไม่ต้องสูบบุหรี่ก็สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความคิดผิดๆที่เกิดขึ้นกับคนที่จะเลิกบุหรี่ มันอาจเป็นเพียงปัจจัยส่วนหนึ่งของคนเลิกบุหรี่ไม่ได้เท่านั้น ปัจจัยหลักเลยถ้าเราอยากจะเลิกบุหรี่แบบไม่มีวันหวนกลับไปก็คือ "จิตใจ" และ "กำลังใจ" นั้นเอง ถ้าเรามีเป้าหมาย มีความมุ่งมั้น และมีกำลังใจ เห็นข้อดีข้อเสียของสิ่งนั้นๆ เชื่อว่าทุกๆคนจะประสบความสำเร็จในเป้าหมายของตัวเองอย่างแน่นอนขอบคุณ รูปภาพหน้าปก จาก : pixabay และ canvaขอบคุณ รูปภาพที่1/รูปภาพที่2/รูปภาพที่3/รูปภาพที่4/รูปภาพที่5 จาก : pixabay