รู้หรือไม??! โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศ ติดชาร์ตแทบทุกๆปี คือ โรคออฟฟิศซินโดรม โรคที่ทุกคนมองข้ามและไม่ได้ให้ความสนใจ แต่โรคนี้คือภัยเงียบที่คอยกวนใจเหล่าชาวออฟฟิศทั้งหลาย เมื่อได้เป็นแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก และส่วนใหญ่มักรักษาอาการต่างๆของออฟฟิศซินโดรมด้วยการทานยาแก้ปวด แต่เราสามารถทำให้หายขาดได้ ด้วยการรักษาแบบวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ทำให้ไตพัง ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันค่ะ.. โรค " ออฟฟิศซินโดรม " คืออะไร?โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการที่มักพบในวัยทำงาน และส่วนมากมักพบในพนักงานออฟฟิศ จึงเป็นที่มาของชื่อโรคนี้ พนักงานออฟฟิศส่วนมากมักเป็นโรคนี้ เกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอตลอดทั้งวัน การนั่งนานๆ นั่งอยู่ในท่าเดิม หรือการพิมพ์เอกสารอยู่ตลอดทั้งวัน จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเหล่านั้นเกร็งและเกิดการอักเสบได้ อาการออฟฟิศซินโดรมส่วนใหญ่ที่เราเป็นมักจะมีอาการปวดบริเวณหลัง รวมถึงช่วงคอ บ่า ไหล่ เนื่องจากเราพิมพ์เอกสารทั้งวัน นั่งเป็นชั่วโมงๆ เพราะเราจะไม่ค่อยมีเวลาลุกไปไหนหรือลุกอีกทีก็ตอนเข้าห้องน้ำและทานข้าว อาการอื่นๆที่พบก็มักมีตาล้าพร่ามัว เพราะจ้องหน้าจอคอมตลอดเวลา หนักสุดก็เป็นไมเกรนร่วมด้วย พอมีอาการปวดเราก้จะทานยาแก้ปวด เช่น พารา หรือ ถ้าปวดหนักมากๆจะทานเป็น Ibuprofen แต่ทานติอต่อกันหลายวันไม่ดี เพราะผลข้างเคียงเยอะมาก เราคิดว่าหากปล่อยทิ้งไว้นานๆอาการเหล่านี้อาจกลายเป็นโรคเรื้อรังได้ เราจึงลองหาวิธีต่างๆที่จะช่วยให้หายขาดแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องไตพัง แล้วเราก็รู้สึกว่าทำแล้วเวิร์คจริงๆ เราจึงอยากมาแชร์ 4 วิธีที่จะช่วยให้ทุกคนหายจาก โรคออฟฟิศซินโดรม กันค่า... 1.ปรับท่านั่งทำงานและโต๊ะทำงานให้เหมาะกับสรีระการปรับท่านั่งระหว่างทำงานและโต๊ะทำงานให้เหมาะกับสรีระ คือ การนั่งทำงานแบบที่เรานั่งแล้วไม่รู้สึกเมื่อย เช่น นั่งหลังตรง บวกกับใช้เก้าอี้ที่มีที่พิงหลังเพื่อช่วยในการซัพพอร์ตหลัง การวางคีย์บอร์ดไม่ควรอยู่สูงจนเกินไป ควรอยู่ในระดับเหนือเอวมาเล็กน้อย หากอยู่ในระดับที่สูง อาจจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อมือถูกกดทับตลอดจนทำให้อักเสบได้ในที่สุด ในส่วนของหน้าจอ เราก็จะปรับให้อยู่ในระดับสายตาพอดี ไม่สูงมากหรือต่ำจนเกินไป เพราะหากวางไว้ไม่พอเหมาะ อาจทำให้ปวดคอและลามไปถึงช่วงไหล่ได้ วิธีนี้เราว่าเวิคเลย เราลองทำแล้วรู้สึกว่านั่งทำงานสบายขึ้น ไม่ปวดไหล่กับคอบ่อยๆเหมือนแต่ก่อน 2.ลุกยืดเหยียดร่างกาย วิธีนี้จะยากสำหรับคนที่งานเยอะสักหน่อย เพราะไม่ค่อยมีเวลาลุกไปไหนเลย แต่ถ้าหากอยากได้สุขภาพที่ดีในระยะยาว เราควรแบ่งเวลาสักแปปเพื่อลุกมายืดเหยียดร่างกาย อาจจะสักทุกๆ1 ชั่วโมง ลุกมายืดสัก 5 นาที ส่วนตัวเราชอบลุกไปเข้าห้องน้ำ หรือบางทีก็ลุกไปหยิบเอกสารบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไม่นั่งอยู่กับที่นานจนเกินไป หรือบางทีเราก็ลองยืดเส้นช่วงคอ บ่า ไหล่ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดไปด้วย 3.ปรับสภาพแวดล้อมที่ทำงานให้น่าอยู่ปรับบรรยากาศที่ทำงานให้น่าอยู่ นั่งทำงานแล้วรู้สึกสบาย ปลอดโปร่ง นั่งในที่ที่ไม่แออัดหรือคับแคบ ส่วนตัวเราจะชอบนั่งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และมีแสงไฟสว่างมากพอ ช่วยให้เราไม่ปวดตาเมื่อต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ เราว่าสภาพแวดล้อมการทำงานก็มีผลทำให้สภาพจิตใจในการทำงานและช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้นะทุกคน 4.การออกกำลังกายการออกกำลังกายเป็นวิธีที่สุดเบสิค แต่ทุกคนไม่ค่อยให้เวลากับสิ่งนี้ เพราะบางคนก็ไม่มีเวลา ยุ่งมาก เลิกงานกลับถึงห้องก็นอนเลย เราก็เป็นบ่อย ใช้ชีวิตวนลูป กลับจากที่ทำงานก็มานอนเล่น ดูมือถือ ไม่เคยออกกำลังกายเลย จนมาตระหนักได้ว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คงต้องทำงานหาเงินมาเพื่อรักษาตัวในอนาคตแน่เลย เราลองให้เวลากับตัวเองในช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน ด้วยการออกกำลังกายเบาๆ ยืดเส้นยืดสาย สัก 20-30 นาที นอกจากจะช่วยป้องกันการเป็นออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังช่วยให้มีร่างกายแข็งแรงสุขภาพดีอีกด้วยจบไปแล้วกับ 4 วิธีรักษาออฟฟิศซินโดรม โดยวิธีธรรมชาติ ง่ายแสนง่าย ที่ใครๆก็ทำได้ ไม่เสียเวลาที่ได้ลองทำแน่นอนค่ะ เพราะทุกวิธีที่เราแนะนำมาทั้งหมด เราลองทำแล้วเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนทำให้อาการออฟฟิศซินโดรมที่เราเป็นมานานดีขึ้น ไม่ต้องทนปวด ทนเมื่อย และไม่ต้องทานยาเวลาปวดอีกต่อไปปป ต้องลองทำกันน้าทุกคน... เราก็ขอลาไปด้วยข้อคิดและคติที่ว่า " วัยรุ่นที่ไม่เป็นโรค คือลาภอันประเสิรฐ " เครดิตรูปภาพปกและภาพประกอบ ตกแต่งด้วย canvaเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !