" กำลังลดน้ำหนัก " เป็นประโยคฮิตติดปากในยุคนี้ไปแล้ว ปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจรักษาสุขภาพ รักษารูปร่างด้วยวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารคลีน ออกกำลังกายด้วยการวิ่ง หรือการเข้าฟิตเนส ท่านผู้อ่านเคยแปลกใจไหมว่า ยิ่งอยู่ในโปรแกรมไดเอท (Diet) เท่าไหร่ ก็ไม่เคยผอมได้ในระยะยาว และก็กลับมาอ้วนอีก เพราะเราอาจลดน้ำหนักผิดวิธีด้วยประสบการณ์ที่ผู้เขียนลองผิดลองถูกจากการลดความอ้วนมาตั้งแต่วัยรุ่น ผู้เขียนจึงเริ่มศึกษาหาวิธีการใหม่ ๆ ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ผู้เขียนค้นพบ คือ ทานอาหารตามปกติ ๒ มื้อ แต่ลดปริมาณของอาหารแต่ละมื้อลงครึ่งหนึ่ง และมื้อเย็นจะทานแต่ผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด เช่น กล้วย ฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว สับปะรด หากเกิดความหิวขึ้นภายในสองชั่วโมงก็ทานได้อีกอย่างไม่จำกัด และห้ามทานจุกจิกระหว่างมื้อ จิบน้ำอุ่น ๆ ตลอดทั้งวัน งดน้ำหวาน น้ำอัดลมเด็ดขาด ส่วนหลังมื้อเที่ยงทานแต่ผลไม้อย่างเดียว ผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำนี้ทานได้ตลอดเวลาเมื่อหิวอาหาร หลังจากนั้นออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ ๔ ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า ๑ชั่วโมง ภายใน ๑ เดือน ผู้เขียนลดน้ำหนักได้ ๔ กิโลกรัม และยังส่งผลให้ร่างกายกระชับทุกสัดส่วนเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้นอย่างปลอดภัยในทางทฤษฎีการลดน้ำหนัก อ้วน หรือ ผอม สามารถวัดได้จากค่าต่าง ๆ เช่น ดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) ซึ่งทางยุโรปกับเอเซียจะมีค่ามาตราฐานต่างกัน แต่ในทางปฏิบัติจะพบว่าความพึงพอใจในรูปร่างและน้ำหนักนั้น เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล มาดู ๔ ขั้นตอนลดน้ำหนัก ลดความอ้วน จากผู้เขียนกันเลยขั้นตอนที่ ๑ Diary Diet (ไดอารี่อาหาร) ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านทุกท่านทำ Diary Diet คือ จดบันทึกทุกอย่างที่ทานในแต่ละวัน พอครบสัปดาห์เราจะเห็นได้ว่า อาหารที่ทานส่วนมากจะเป็นอาหารที่ทานตามใจปากทั้งนั้น และแคลอรี่สูงมีความจำเป็นต่อร่างกายน้อย แล้วการทำ Diary Diet เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เราต้องกินเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าพอดี ให้สมมุติว่าร่างกายของเราข้างหนึ่งคือ รับเข้า ข้างหนึ่ง คือ เอาออก ร่างกายของเราจะต้องสมดุลทั้ง ๒ ข้าง ถ้าเราต้องการจะลดน้ำหนัก ก็คือควรจะลดการรับเข้า เพื่อให้ร่างกายดึงพลังงานที่กักเก็บไว้ในรูปของไขมันเอาออกมาใช้ การทำ Diary Diet ก็คือ การควบคุมอาหาร ไม่ใช่การอดอาหารขั้นตอนที่ ๒ ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร เราจะทานอาหารตามปกติได้แค่ ๒ มื้อ และจะต้องลดปริมาณอาหารในการทานแต่มื้อลงครึ่งหนึ่ง เช่น ปกติเคยทานข้าวมื้อละ ๒ ทัพพี ก็ลดลงเหลือเพียง ๑ ทัพพี เว้นการทานจุกจิกระหว่างมื้ออาหาร และงดดื่มน้ำหวาน ขนมหวาน น้ำอัดลม ถ้าท่านผู้อ่านเป็นคนชอบดื่มกาแฟลองลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม หรือเปลี่ยนเป็นชนิดที่ให้พลังงานน้อยก็ช่วยได้นะขั้นตอนที่ ๓ ออกกำลังกายลดความอ้วน การออกกำลังกาย คือ กิจกรรมที่ดึงพลังงานส่วนเกินออกมาใช้ ในสภาวะที่หัวใจมีอัตราการเต้น ๑๓๐-๑๕๐ ครั้งต่อนาที (ขึ้นอยู่กับเพศและวัย) เป็นเวลา ๔๕-๖๐ นาที วิธีออกกำลังกายของผู้เขียนคือ เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ กระโดดเชือก แต่เรามักจะเกิดความขยาดเมื่อนึกถึงว่าเราต้องเหนื่อย ผู้เขียนจึงใช้วิธีหลอกสมองตัวเอง โดยการบอกกับตนเองว่าเราจะแค่ไปเดินเล่นเท่านั้น เพื่อให้ตัดสินใจหยิบรองเท้ากีฬามาใส่ แต่เมื่อเราเดินไปได้สักระยะ พอได้วอร์มร่างกาย ได้ยืดเส้นยืดสายสักหน่อย เราก็จะเริ่มวิ่งเหยาะๆได้ สุดท้ายเราก็จะได้ออกกำลังกายในวันนั้นTips คือ ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่าน เลือกวิธีออกกำลังกายที่ชอบและสนุก ซึ่งเราจะต้องลองหาให้พบ เพราะเราจะต้องชอบกิจกรรมอะไรสักอย่างที่เป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย จะได้ไม่เบื่อซะก่อน และหากทำติดต่อกันจนเป็นนิสัย ไม่ใช่แค่ลดความอ้วน แต่สุขภาพภายในจะดีขึ้นอีกด้วย กายแข็งแรง รูปร่างกระชับได้สัดส่วน จิตใจแจ่มใสเบิกบาน แล้วจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในทุกๆด้าน เมื่อเราเกิดความพึงพอใจกับผลที่เกิดขึ้น เราก็จะสนุกและมีความสุขในการออกกำลังกาย และอาจเป็นผู้ชอบออกกำลังกายเป็นนิสัยไปเลยก็ได้ขั้นตอนที่ ๔ อย่ารีบ ค่อยเป็นค่อยไป ตามธรรมชาติถ้าน้ำหนักของเราลดลง ผิวหนังจะค่อย ๆ หดตัวลง ทำให้ผิวหย่อน ดังนั้นในแต่ละวันควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวหนังกระชับเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่ละขั้นตอนไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ เมื่อเราตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนักแล้ว อย่าเพิ่งใจร้อนต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะเห็นผลช้าก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ เพราะการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือนถึงจะเริ่มเห็นผล แต่เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดให้ผลยั่งยืน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราจะมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง โปรดจำไว้ว่า ไม่ว่าเรื่องใดๆ จะเป็นการลดน้ำหนัก การออกกำลังกายเพื่อให้ได้สัดส่วนร่างกายตามที่เราปราถนา หรือแม้แต่การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและทุกๆอย่างที่จะมีผลต่อชีวิตนั้น จะต้องเป็นการปฏิบัติที่มีความต่อเนื่องสม่ำเสมอและอาศัยเวลาพอสมควร ไม่ว่าการลดหรือการจะเพิ่มน้ำหนัก เราไม่อาจเร่งทำให้เห็นผลได้ภายในสองสามวันอย่างแน่นอนผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ท่านผู้อ่านทุก ๆ ท่าน ที่กำลังจะเริ่มลดน้ำหนัก หรือกำลังลดน้ำหนักกันอยู่ ขอให้มีสุขภาพดี ผิวพรรณผ่องใส หัวใจเบิกบานนะครับ12 เทคนิค ลดน้ำหนักเร่งด่วน ใน 2 อาทิตย์ ไม่อันตราย ไม่โยโย่!เขียนโดย พระยมอมยิ้มภาพปก ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพประกอบที่ 1 ภาพถ่ายโดย Jess Bailey Designs จาก Pexels ภาพประกอบที่ 2 ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพประกอบที่ 3 ภาพถ่ายโดยผู้เขียนภาพประกอบที่ 4 ภาพถ่ายโดยผู้เขียนขอบคุณที่อ่านบทความของพระยมอมยิ้มครับFacebook : Ajarn.JarunCorrect Youtube : youtubeเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !