ผู้เขียนเคยแชร์ เรื่องเกี่ยวกับการหางาน และทำงานที่ต่างประเทศ และก็ดีใจมากที่มีหลาย ๆ คนส่งข้อความมาขอบคุณที่เรามาแชร์ข้อมูลเหล่านี้ให้ได้อ่านกัน ผู้เขียนขอน้อมรับคำขอบคุณของทุกท่านด้วยความจริงใจ และจะพยายามหาเรื่องราวดี ๆ มาแชร์ให้ได้อ่านกันต่อ ๆ ไป หลายหัวข้อที่ท่านผู้อ่านขอมา บางอย่างผู้เขียนรู้แค่ผิวเผิน ซึ่งก็จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดการส่งสารผิด ๆ ไปสู่ผู้อ่าน เรื่องราวที่แชร์ออกไปส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์ มุมมอง และความคิดของผู้เขียนเอง อย่างเรื่องที่ต้องการแชร์วันนี้ คือ 5 ข้อต้องรู้ ก่อนเซ็นสัญญาเข้าทำงาน ซึ่งผู้เขียนก็มักจะลิสต์รายการเหล่านี้ ไปสอบถามกับนายจ้าง ก่อนเซ็นสัญญาเข้าทำงาน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับตัวเอง และเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดตามมาในอนาคต 1. เงินเดือน หรือค่าจ้าง เงินเดือน หรือค่าจ้าง เป็นสิ่งสำคัญที่เราจำเป็นต้องรู้ก่อนเริ่มทำงาน เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง หลาย ๆ ครั้งที่มีการสัญญากันปากเปล่า หรือนายจ้างบอกให้มาทำงานได้เลย ฝ่ายลูกจ้างก็อยากได้งาน จึงไม่ได้มีการตกลงเรื่องค่าจ้างกันก่อน และหลาย ๆ ครั้งก็นำมาซึ่งปัญหาในภายหลังเช่นการไม่ได้รับค่าจ้าง หรือได้รับเงินค่าจ้าง แต่ไม่ตรงกับที่ใจเราคิด หลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยผู้สมัครงานมักจะระบุชัดเจนเรื่องเงินเดือนที่คาดหวังไปในใบสมัคร และอาจมีการต่อรองเรื่องเงินเดือนตั้งแต่วันที่เข้าไปสัมภาษณ์งาน หากที่ประเทศสวีเดน เค้าไม่นิยมทำกันแบบนั้น ซึ่งตรงนี้เราก็อาจจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านี้ก่อน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะไม่ได้รับโอกาสเข้าสู่รอบถัดไป ถ้าถามว่าแล้วจะเรียกเงินเดือนเท่าไร ? ผู้เขียนคิดว่า คงไม่มีใครให้คำตอบได้ดีที่สุด เพราะแต่ละงานก็มีรายได้ไม่เท่ากัน และถึงแม้จะงานเดียวกัน แต่ละคนก็มีประสบการณ์ หรือความสามารถต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจจะทำให้มีความแตกต่างของค่าจ้างหรือเงินเดือน ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือน เราก็อาจจะสอบถามจากเพื่อน หรือคนรู้จัก หรือถ้าอย่างที่ประเทศสวีเดนเราสามารถเข้าไปดูข้อมูลเรื่องเงินเดือน หรือค่าจ้างจากทางเว็บไซด์ได้โดยตรง ซึ่งผู้เขียนแนบไว้ให้ท้ายบทความนี้2. เวลาทำงาน และการทำงานล่วงเวลา เวลาการทำงานก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะบางหน่วยงานกำหนดให้ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง และส่วนที่เกินมา ก็จะจ่ายให้เป็นค่าล่วงเวลา ( OT ) หากแต่บางหน่วยงานกำหนดให้ทำงานวันละ 10 ชั่วโมงเป็นเวลาทำงานปกติ บางที่ให้ทำงานเป็นกะ โดยไม่มีการจ่ายเงินค่ากะให้ หรืองานบางอย่างจะทำตอนไหนก็ได้ แต่ต้องเสร็จตามกำหนด นายจ้างก็อาจจะจ่ายให้เราเป็นงาน ๆ ไป ตรงนี้เราจำเป็นต้องสอบถามนายจ้างให้กระจ่างก่อนการเซ็นสัญญาเช่นกัน รับได้ก็เซ็น รับไม่ได้ก็มูฟออน หาที่ใหม่ต่อไป 3. วันหยุด และวันลาพักร้อน วันหยุด และวันลาพักร้อน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องของค่าจ้าง เงินเดือน หรือเวลาทำงาน เพราะแต่ละหน่วยงานอาจจะมีวันลาพักร้อนไม่เท่ากัน ผู้สมัครจำเป็นต้องสอบถามให้ชัดเจน ก่อนการเซ็นสัญญาการจ้างงาน โดยทั่วไปในประเทศสวีเดน มีวันลาพักร้อนขั้นต่ำประมาณ 25 วันต่อปี แต่หากเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรใหญ่อาจจะได้วันพักร้อนมากกว่านั้นในประเทศสวีเดนมีหลาย ๆ งานที่มีการจ้างงานเป็นรายชั่วโมง ซึ่งถ้าเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่ใหญ่มักจะมีการจ่ายเงินเพิ่มในส่วนของวันพักร้อน ซึ่งอยู่ที่อัตราประมาณ 12.5% สมมุติถ้าบริษัทจ่ายค่าจ้างให้ชั่วโมงละ 120 โครน บริษัทจะจ่ายเงินค่าพักร้อนให้เพิ่มอีก 12.5% เป็น 120 +12.5% ซึ่งเท่ากับว่าเราจะมีรายรับ 135 โครนต่อหนึ่งชั่วโมง ตรงนี้เราก็จำเป็นต้องสอบถามให้ชัดเจนก่อนการเซ็นสัญญาเช่นกัน เอาให้ชัด เอาให้เคลียร์ จะได้ไม่มีปัญหาขุ่นข้องหมองใจในภายหลัง 4. การจ่ายภาษี และเงินสมทบเพื่อการเกษียณอายุ การจ่ายภาษีเข้ารัฐมักไม่ค่อยมีปัญหาในองค์กรใหญ่ แต่ในหน่วยงานเล็ก ๆ บางครั้งเกิดความผิดพลาดในการจ่ายภาษี ความสำคัญในการจ่ายภาษีในประเทศสวีเดน ก็คือรัฐจะนำเงินส่วนหนึ่งไปจ่ายเข้ากองทุนเพื่อการเกษียณอายุ ซึ่งเป็นเงินที่เราจะได้รับหลังจากเกษียณอายุ หากเราไม่ได้จ่ายส่วนนี้ เราก็จะไม่ได้รับเงินเกษียณจากรัฐบาลในอนาคต อีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเงินเกษียณอายุก็คือ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Tjänstepension) เงินส่วนนี้เป็นเงินที่บริษัทจ่ายเข้าไปเพื่อสมทบกองทุนเกษียณอายุ ซึ่งเป็นเงินส่วนที่สองที่เราจะได้จากนายจ้าง แต่เงินส่วนนี้ไม่ใช่ทุกบริษัทจะจ่ายสมทบให้ลูกจ้าง เพราะฉะนั้นเราก็จำเป็นต้องสอบถามให้ชัดเจนก่อนเซ็นสัญญาว่าบริษัทมีสวัสดิการส่วนนี้ให้มั้ย และแม้จำนวนเงินที่สมทบให้ตรงนี้อาจจะไม่หวือหวา แต่รับประกันเลยว่า ถ้ารวมกันหลาย ๆ ปี ก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยจริง ๆ 5. สวัสดิการการรักษาพยาบาล และสวัสดิการอื่น ๆสำหรับที่ประเทศไทย บางบริษัทจะมีการทำประกันกลุ่มให้ลูกจ้างซึ่งอาจจะรวมทั้งประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ซึ่งเราก็สามารถใช้ประกันเหล่านี้ในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ แต่บางหน่วยงาน อาจจะมีแค่ประกันสังคม เพราะฉะนั้นเราก็จำเป็นต้องถามให้แน่ชัดก่อน จะได้รู้ว่าเรามีสิทธิอะไรบ้าง สำหรับที่ประเทศสวีเดน ผู้เขียนยังไม่เคยเจอว่ามีประกันกลุ่มเหล่านี้ เพราะที่นี่ทุกคนใช้สิทธิการรักษาพยาบาลของรัฐเหมือน ๆ กัน ไม่มีแยกว่า ประกันกลุ่ม หรือ สิทธิข้าราชการ เพราะฉะนั้นก็อาจจะข้ามในส่วนนี้ไปก็ได้ สวัสดิการอื่น ๆ เช่น บริษัทมีที่ให้ออกกำลังกาย หรือมีบัตรยิม มีคูปองอาหาร มีอาหารเช้าให้รับประทาน สวัสดิการการลาคลอด ลาป่วย ซึ่งที่เมืองไทยอาจจะมีความแตกต่างกันในหลาย ๆ หน่วยงาน แต่สำหรับที่ประเทศสวีเดน สวัสดิการลาคลอด ลาป่วย เป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคน ซึ่งผู้เขียนคิดว่าไม่น่าจะมีความแตกต่างในส่วนนี้ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และเป็นแนวทางสำหรับนักศึกษาจบใหม่ หรือสำหรับคนที่กำลังอยากย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ ที่บางครั้งตัวเราเองก็อาจจะมึน ๆ งง ๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตั้งคำถามจากตรงไหน ผู้เขียนคิดว่าการถามให้แน่ชัด ไม่ใช่การเรื่องมาก หากแต่เป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดในอนาคต เพราะฉะนั้นก่อนเซ็นสัญญา ก็หาข้อมูลให้เคลียร์ก่อนตัดสินใจนะครับผม ขอขอบคุณ ภาพจากเว็บ Canvaภาพปก โดย Aymanejed จาก Pixabayภาพที่ 1 โดย Karolina Grabowska จาก Pexels / ภาพที่ 2 โดย JESHOOTS-com จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย Nataliya Vaitkevich จาก Pexels/ ภาพที่ 4 โดย 5132824 จาก Pixabay Nurseonomyเว็บสำหรับหาข้อมูลเงินเดือน Löner för olika yrken i olika län - Lönestatistik.se (lonestatistik.se)บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 4 งาน 4 ธุรกิจ ที่คนไทยชอบทำที่ประเทศสวีเดน | TrueID In-Trend4 วิธีหางานที่สวีเดน | TrueID In-Trendแชร์ประสบการณ์การทำงานที่สวีเดน | TrueID In-Trendอุปสรรคการทำงานที่ต่างประเทศ | TrueID In-Trend เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !