สำหรับสาวๆ ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก นอกจากการตั้งหน้าตั้งตาออกกำลังกายลดน้ำหนักแล้ว รู้ไหมเอ่ยว่าในเรื่องของการกินอาหารลดน้ำหนักนั้นก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการกินอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นทั้งแหล่งสารอาหาร แหล่งของพลังงานอันเต็มเปี่ยม แถมยังมีบทบาทส่งเสริมให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างได้ผลดีอีกด้วย แต่หากสาวๆ กินอาหารเช้าในแบบผิดๆ ย่อมเป็นการทำลายรูปร่างให้พังลงได้อย่างแน่นอน ว่าแต่การกินอาหารมื้อเช้าแบบผิดๆ นั้นจะเป็นอย่างไร มีอะไรบ้างที่เราควรรู้ไว้ สาวๆ รีบตามมาดูกันเลยจ้า ภาพถ่ายโดย Markus Spiske temporausch.com จาก Pexels 1.งดอาหารเช้าเพื่อควบคุมแคลอรี เพราะอาหารมื้อเช้าเป็นแหล่งของพลังงานและสารอาหารที่ร่างกายควรได้รับตลอดวัน แต่สาวๆ ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก โดยลดในวิธีควบคุมแคลอรี บางคนเลยงดกินอาหารเช้าไปเลยก็มี แต่วิธีนี้บอกเลยว่ามันเป็นการทำลายระบบเผาผลาญของคุณให้พังลงอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งทาง Imperial College แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ได้ทำการศึกษาพบว่า การอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้มีแนวโน้มรู้สึกอยากกินแต่อาหารที่มีแคลอรีสูงมากเพิ่มยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หลายคนตบะแตกและหันมากินแต่อาหารที่มีแคลอรีสูง แถมยังกินอาหารในปริมาณที่มากกว่าปกติในมื้อต่อๆ ไปโดยไม่ทันรู้ตัวอีกด้วย หากยังคงปล่อยให้เป็นเช่นนี้ ไม่เพียงแค่น้ำหนักตัวจะมีโอกาสพุ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำลายระบบเผาผลาญให้พังลงไปด้วย หากไม่อยากให้แผนการลดน้ำหนักพังลงอย่างน่าเสีย หันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลดน้ำหนักเสียใหม่ด้วยการกินอาหารเช้าเป็นประจำจะดีกว่านะจ๊ะ ภาพถ่ายโดย Buenosia Carol จาก Pexels 2.กินอาหารเช้าไม่ตรงเวลา อยากผอมต้องจำให้ขึ้นใจ ว่าการกินอาหารเช้า ใช่เพียงสักแต่จะกินให้มันเสร็จๆ ไปเท่านั้นนะ แต่เรื่องเวลาก็สำคัญมากเหมือนกัน เพราะช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการกินอาหารมื้อเช้ามากที่สุด ก็คือ ประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากเราตื่นนอนแล้วนั่นเอง แต่สำหรับหลายคนมักปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปยาวนาน 2-3 ชั่วโมงหรือบางคนก็กินข้าวเช้ารวบมื้อเที่ยงไปเลยก็มี โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องการกินอาหารลดน้ำหนักอย่างได้ผล คุณยิ่งไม่ควรละเลยในข้อนี้เด็ดขาด เพราะหากปล่อยให้เวลาล่วงหายไปนานเกินกว่า 1 ชั่วโมงเท่าไร ร่างกายก็จะยิ่งรู้สึกหิวและต้องการกินอาหารในปริมาณเยอะขึ้น อีกทั้งยังรู้สึกอยากกินแต่อาหารแคลอรีสูงเพื่อทดแทนความรู้สึกหิวโหยตลอดทั้งวันอีกด้วย นอกจากนี้ ในมื้อเที่ยงก็จะต้องพลอยยกไปกินในช่วงบ่ายๆ แทนที่จะได้กินตรงเวลาดังเดิม แถมบ่ายๆ ยังตบท้ายด้วยขนมจุบจิบต่างๆ อีก ดังนั้น หากไม่อยากให้แผนการลดน้ำหนักเป็นอันล้มเลิก เพราะพฤติกรรมการกินอาหารเช้าแบบผิดๆ จากนี้ไปต้องหันมากินอาหารเช้าทันทีหลังตื่นนอนภายใน 1 ชั่วโมงจะดีที่สุดจ้า ภาพถ่ายโดย Ash จาก Pexels 3.อาหารเช้านะเหรอ กินอะไรก็ได้ จริงอยู่ที่เราบอกว่าการกินอาหารเช้าจะเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก แต่อย่าลืมนะคะว่าการเลือกกินอาหารก็มีความสำคัญเช่นกัน ไม่ใช่พอบอกให้กินอาหารเช้า แล้วสาวๆ จะหยิบอาหารอะไรเข้าปากก็ได้ตามใจฉันทุกอย่าง แบบนั้นก็เสี่ยงทำรูปร่างพังเหมือนเดิมอยู่ดี! และด้วยเพราะสังคมในปัจจุบัน การใช้ชีวิตของคนเรามักมาพร้อมช่วงเวลาที่ต้องเร่งรีบ เลยทำให้ไม่สะดวกตระเตรียมอาหารหรือใส่ใจเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์เท่าใดนัก หลายคนเลยเลือกซื้ออาหารที่สั่งกินง่าย ได้เร็ว จนทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารอย่างที่ควรเป็น แต่กลับได้รับประมาณแป้ง ไขมัน น้ำตาลและโซเดียมเข้ามาเพิ่มจนทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างน่าตกใจด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น เมื่อรู้แบบนี้แล้ว จากนี้ไปลองหาเวลาให้ตัวเองมากขึ้น โดยอาจจะเตรียมอาหารเช้าไว้ก่อนเข้านอน ง่ายๆ อย่างการทำแซนวิสที่อุดมไปด้วยผักและโปรตีนไขมันต่ำไว้ หรือทำอาหารคลีนง่ายๆ ใส่กล่องแบ่งไว้กิน แถมยังเอากล่องที่เหลือเตรียมไปกินมื้อกลางวันที่ออฟฟิศด้วย ง่ายๆ แค่นี้ก็จะทำให้สาวๆ มีหุ่นเพรียวสวยได้แบบไม่ยุ่งยากแล้ว 4.งดกินแป้ง ไขมันและโปรตีน เพราะมื้ออาหารเช้า เป็นช่วงที่ร่างกายของเราต้องการได้รับสารอาหารต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อสร้างพลังงานให้แก่ร่างกายและยังบำรุงสุขภาพให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน แต่ก็ยังมีสาวๆ บางคนเคร่งครัดกับการกินอาหารเช้ามากเกินไป โดยงดกินแป้ง ไขมัน และโปรตีน หรืออาจจะกินในปริมาณน้อยกว่าความต้องการที่ร่างกายควรจะได้รับ จนทำให้ร่างกายขาดสารอาหารหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ อีกทั้งเมื่อเรางดกินแป้งที่ให้คาร์โบไฮเดรตก็ย่อมส่งผลทำให้ไร้เรี่ยวแรงพลังในการทำงาน หน้ามืด ใจสั่น ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลทำให้หิวโหยและอยากกินแต่อาหารแคลอรีสูงในมื้อถัดไปเหมือนเดิมอยู่ดี ดังนั้น จงอย่าจำกัดสัดส่วนอาหารมากเกินไปเลยดีกว่า เพราะร่างกายจะรู้สึกขาดและมีผลกระทบต่อการลดน้ำหนักตามมาในระยะยาวได้ในที่สุด อาจจะเลือกกินแป้งประเภทไม่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวโอ๊ะ ขนมปังโฮลวีทและโฮลเกรน เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ร่างกายจะย่อยสลายช้าๆ แถมช่วยควบคุมความหิวได้อีกด้วย สำหรับในส่วนไขมันก็อาจจะกินไขมันจากปลา น้ำมันมะกอกและอะโวคาโด ส่วนโปรตีนก็กินจากปลา ไข่และเนื้อไก่ไร้หนัง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้สาวๆ ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ แบบไม่ทำให้อ้วนแล้วล่ะ ภาพถ่ายโดย Trang Doan จาก Pexels 5. กินผลไม้แทนอาหารเช้าแทนที่จะเป็นแป้ง ไขมัน โปรตีน บางคนยังมีความเชื่อผิด ๆ ว่าการกินแป้งเยอะในตอนเช้าจะทำให้อ้วน จึงควรบริโภคแป้งให้น้อย เลยเปลี่ยนจากการทานแป้งมาเป็นการทานผลไม้แทนแล้วราดด้วยโยเกิร์ตหรือมูสลี่แทนอาหารเช้าที่มีสารอาหารครบ แต่หารู้ไหมว่า การทานผลไม้และโยเกิร์ตนั้นให้ปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก ไม่ต่างจากการทานแป้งที่ได้จากข้าวกันทีเดียว ดังนั้น ให้เปลี่ยนมาทานอหารเช้าให้ให้คุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนดีกว่า เช่น โจ๊กหมูไข่ ต้มจืดหมูสับ เป็นต้น จะทำให้ได้รับสารอาหารที่ครบแถมยังอ้วนน้อยกว่าการทานน้ำตาลที่แฝงอยู่ในโยเกิร์ตและผลไม้บางชนิดที่เราคาดไม่ถึงซะอีก และนี่ก็คือ 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการกินอาหารเช้าลดน้ำหนักในแบบผิดๆ ที่นำมาฝากกันนะคะ หวังว่าเพื่อนจะรับประทานอาหารที่ดีและมีความสุขกับการดูแลสุขภาพและรูปร่างของตัวเองกันนะคะ ภาพถ่ายโดย Julian Jagtenberg จาก Pexels