Itaewon Class เป็นซีรี่ส์ที่คอซีรี่ส์เกาหลีหลาย ๆ คนต้องรู้จักอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้มีชื่อภาษาไทยว่า "ธุรกิจปิดเกมแค้น" โดยฉายทาง Netflix มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 16 ตอน และซีรี่ส์เรื่องนี้ก็ยังสร้างจากเว็บตูนของเกาหลีอีกด้วย Itaewon Class เล่าเรื่องราวของ "พัคแซรอย" พระเอกของเรื่องที่ได้ย้ายมาโรงเรียนใหม่และได้พบกับความไม่เป็นธรรมในชีวิตเนื่องจากเรื่องของอำนาจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาลุกขึ้นสู้นั้นมาจากอุบัติเหตุรถชนที่ได้พรากชีวิตของพ่อเขาไป แต่ผู้ก่อเหตุกับลอยนวลและใช้แพะรับบาปแทน เพราะเขามีอำนาจและไม่มีใครเอาผิดได้ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พัคแซรอยนั้นลุกขึ้นมาทำธุรกิจแข่งกับบริษัท "ชางกา" บริษัทของ "ชางแดฮี" พ่อของ "ชางกึนวอน" ที่เป็นคนขับรถชนพ่อของพระเอกนั่นเอง ตัวของซีรี่ส์นั้นดำเนินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับตัวละครอีกหลายตัว เช่น "โอซูอา" ผู้หญิงที่พัคแซรอยชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยม และ "โชอีซอ" นางเอกของเรื่องที่คลั่งไคล้พระเอกเป็นอย่างมากและเข้ามาช่วยให้พระเอกนั้นประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ เนื้อหาของเรื่องส่วนใหญ่เกี่ยวกับการทำธุรกิจปนกับการแก้แค้น ที่ชวนให้คนดูนั้นติดตามว่าสุดท้ายแล้วบทสรุปของตัวร้ายนั้นจะเป็นอย่างไรภาพจาก : https://ameblo.jp/psj881216/image-12567741463-14697665378.html5 ข้อคิดที่ได้จากการดู Itaewon Class1. ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ในวันแรกของการย้ายมาโรงเรียนใหม่พัคแซรอยได้เห็นชางกึนวอนทำร้ายเพื่อนในห้องและรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ผิดจึงเข้าไปช่วยแบะได้ชกชางกึนวอน แต่เนื่องจากชางกึนวอนเป็นลูกของผู้มีอำนาจในโรงเรียน สิ่งที่ชางกึนวอนทำนั้นทุกคนเห็นแต่ไม่มีใครว่าอะไรแม้กระทั่งครู พัคแซรอยนั้นถูกบังคับให้คุกเข่าขอโทษ แต่เขาก็มั่นใจว่าเขาไม่ผิด ทำให้เขาต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน และพ่อของเขาที่ทำงานอยู่บริษัทของพ่อชางกึนวอนก็ต้องออกจากงานด้วย แต่พ่อของพัคแซรอยนั้นไม่ได้ต่อว่าเขาแต่อย่างใด กลับภูมิใจในตัวลูกชายที่กล้าหาญและเป็นคนดีและปฎิบัติตามคำสอนของเขาที่ว่า "ให้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง" สิ่งที่พ่อของพระเอกสอนนั้นไม่ใช่เรื่องของการทำอะไรตามใจตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการให้เชื่อมั่นในความถูกต้อง และปฎิบัติตามความถูกต้องโดยที่ไม่ต้องสนว่าใครจะคิดยังไง เช่นเดียวกับโชอีซอ ที่คนมักจะมองว่าเธอเป็นคนขวางโลกและต่อต้านสังคม แต่เธอเพียงแค่ใช้ชีวิตตามแบบของตัวเองโดยที่ไม่สนคำพูดของคนอื่นและมองถึงเป้าหมายในอนาคตเพียงเท่านั้น และหากเราค้นหาการใช้ชีวิตในแบบของตัวเองจนเจอ และดำเนินชีวิตไปตามแบบนั้น เราก็จะสามารถค้นพบความสุขที่แท้จริง และประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอนภาพจาก : https://www.korseries.com/korseries-itaewon-class-2020/2. ไม่มีความรู้สึกใดคงอยู่ตลอดไป ข้อคิดนี้ถูกนำเสนอผ่านทางตัวละครอย่าง "โอซูอา" ผู้หญิงที่พัคแซรอยนั้นชอบมานานกว่า 10 ปี แต่เธอนั้นกลับไม่ยอมรับรักจากพัคแซรอยเสียทีและมั่นใจว่าคนที่พัคแซรอยรักนั้นมีแค่เธอเพียงเท่านั้น กว่าเธอจะรู้ว่าตนเองก็รักพัคแซรอยเช่นกัน ก็โดนโชอีซอนางเอกของเรื่องนั้นแย่งหัวใจของพัคแซรอยไปเสียแล้ว อันที่จริงนั้นผู้ชมหลายคนคงจะรู้ได้อย่างแน่นอนว่าโอซูอาก็รักพัคแซรอยมาตั้งแต่แรกเช่นกัน แล้วทำไมเธอถึงไม่รับรักจากพัคแซรอยเสียที แต่กลับทำตัวเป็นแรงผลักดันให้พัคแซรอยพัฒนาตนเองมากขึ้น สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นอีกอย่างคือความมั่นใจของโอซูอาที่บอกกับโชอีซอว่า พัคแซรอยไม่มีทางชอบโชอีซอได้เพราะพัคแซรอยชอบตนเองอยู่ แต่สุดท้ายแล้วความใกล้ชิดและความจริงใจที่โชอีซอมีต่อพัคแซรอยทำให้ ความรักกว่า 10 ปีของพัคแซรอยที่มีต่อโอซูอาถูกทำลายลงภาพจาก : blob:https://www.pinterest.com/9626c1cb-cb95-43a6-8d5b-f923758a54253. เราไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวใครให้เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ในเรื่องนั้นจะเห็นได้ว่ามีการต่อต้านเพศทรานส์เจนเดอร์เป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ายังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม โดยข้อคิดในข้อนี้เป็นคำปลอบใจจากพัคแซรอยที่ให้กับมาฮยอนอี พนักงานในร้านของตนที่เป็นทรานส์เจนเดอร์เนื่องจากเรื่องของเธอนั้นถูกเปิดเผย ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์และต่อว่าต่าง ๆ นานาทางอินเทอร์เน็ต คำพูดจากพัคแซรอยที่ว่า "เธอไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวคนอื่นให้เข้าใจในสิ่งที่เธอเป็น" ทำให้มาฮยอนอีนั้นหยุดเสียใจและกลับมาฮึดสู้ได้อีกครั้งโดยที่ไม่ต้องสนใจว่าใครจะมองตัวเธออย่างไร การที่จะทำให้คนทั้งโลกเข้าใจเรานั้น แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้ จะดีกว่าไหมถ้าเรามองข้ามคำพูดหรือคำดูถูกเหล่านั้นไป อย่าให้คำพูดเหล่านั้นเข้ามีผลกับชีวิตของเราและใช้ชีวิตในแบบของเราต่อไปภาพจาก : http://www.hallyukstar.com/2020/02/24/itaewon-class-ma-hyunyi/4. จงทำตัวให้เป็นดั่งเพชร"ฉันคือก้อนหิน ลองทำให้ฉันร้อนสิ ฉันจะเป็นหินที่ไม่ขยับเขยื้อน ลองทุบให้สุดแรง ฉันจะเป็นหินที่แข็งแกร่ง ลองเอาไปวางในที่มืดสิ ฉันจะเป็นหินที่ส่องประกายได้เอง ฉันไม่สนกฎธรรมชาติ ไม่แตกสลาย มอดไหม้หรือผุพัง ฉันรอดชีวิตมาได้ เพราะฉันคือ "เพชร" ประข้างต้นนั้นเป็นประโยคที่โชอีซอได้บอกกับมาฮยอนอี ตอนที่เรื่องที่มาฮยอนอีเป็นทรานส์เจนเดอร์นั้นถูกเปิดเผย ประโยคดังกล่าวไม่ใช่คำปลอบใจ แต่กลับเป็นประโยคที่ทำให้มาฮยอนอีนั้นมั่นใจในตัวเองมากขึ้น "เพชร" คือแร่ชนิดหนึ่งที่นอกจากจะมีค่ามากแล้ว ยังเป็นแร่ที่ได้ชื่อว่าแข็งแรงที่สุด ไม่มีอะไรทำให้เพชรแตกหักได้นอกจากเพชรด้วยกันเอง จึงเป็นที่มาสำนวนที่ว่า "เพชรตัดเพชร" ที่หมายถึงคนเก่งกับคนเก่งมาสู้กัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรทำตัวให้เป็นดั่งเพชร อย่าให้ใครมาทำให้เราหวั่นไหวหรือทำให้เราเจ็บปวดภาพจากซีรี่ส์ Itaewon Class ep.125. คนที่สำคัญที่สุดในชีวิต "คนที่คุณรู้สึกขอบคุณ" "คนที่รู้สึกผิดด้วยมากที่สุด" "ช่วงเวลาที่รุ้สึกกลัวที่สุด" "โชคดีที่สุดในชีวิตคืออะไร" ถ้าคนรักของคุณตอนนี้คือคำตอบของคำถามข้างต้น คน ๆ นั้นคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณ ทำถามเหล่านี้ทำให้พัคแซรอยนั้นรู้ตัวว่าตนเองนั้นรักโชอีซอ เพราะคำตอบของคำถามทั้งหมดนั้นคือโชอีซอ แล้วตอนนี้คุณเจอคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหรือยัง? คนที่สำคัญที่สุดในชีวิตนั้น หลายคนคงจะนึกถึงพ่อแม่เป็นคำตอนแรกอย่างแน่นอน แล้วถ้าไม่ใช่พ่อแม่ล่ะ ใครจะมาเป็นคนสำคัญในชีวิตได้บ้าง? ในบางครั้งเราอาจสับสนในความรู้สึกของตัวเองเช่นเดียวกับพัคแซรอยที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นรักโชอีซอเข้าแล้ว จนได้ยินคำถามเหล่านี้ เขาจึงมั่นใจในความรู้สึกของตนเองมากขึ้นลองค้นหาคนสำคัญของคุณด้วยคำถามเหล่านี้สิภาพจาก : https://www.soompi.com/article/1378503wpp/itaewon-class-shares-preview-of-park-seo-joons-new-business-and-employees