สวัสดีค่ะ เมื่อตอนเด็ก ๆ ผู้เขียนเคยได้ยินคำสอนจากคนเฒ่าคนแก่ที่ว่า "ตั้งใจเรียนให้สูง ๆ โตขึ้นมาจะได้รับราชการเป็นเจ้าคนนายคน" ขอยอมรับเลยว่าตอนนั้นไม่เข้าใจคำว่า 'ข้าราชการ' นั้น หมายความว่าอย่างไร แล้วทำงานเกี่ยวกับอะไร จนกระทั่งผู้เขียนโตขึ้น เรียนจบ และได้มีโอกาสเข้ามาทำอาชีพรับราชการครู จึงทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ข้าราชการ ก็หมายถึง การทำงานรับใช้ประชาชนนี่เอง แต่อย่างไรก็ตาม หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าอาชีพข้าราชการครูเป็นอาชีพที่ได้เงินเดือนน้อย ก้าวหน้าช้า กว่าฐานเงินเดือนจะสูงก็ต้องทำงานไปหลายปี ทำให้หลาย ๆ คนไม่อยากสอบบรรจุ ผู้เขียนยอมรับค่ะ ว่าข้าราชการครูเป็นอาชีพที่เงินเดือนน้อยก็จริง แต่ก็ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่แตกต่างจากเอกชนนะคะ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ 1. เงินเดือนขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้งขอบคุณรูปภาพจาก Nattanan Kanchanaprat จาก Pixabay ถึงแม้ว่าอาชีพนี้จะเริ่มต้น Start แค่ประมาณ 15,000 บาท แต่ระบบก็ให้เราได้ขึ้นเงินเดือนทุกปี ปีละ 2 ครั้ง คือประมาณเดือนตุลาคมและเดือนเมษายน เพียงแต่ว่าเม็ดเงินที่ขึ้นนั้นอาจจะน้อยกว่าเอกชนบางที่ อย่างเช่น ผู้เขียนเป็นครูบรรจุใหม่ ก็จะได้ขึ้นประมาณ 500 บาท สองครั้งก็ตก 1,000 บาทต่อปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารของแต่ละโรงเรียนนะคะว่าจะให้เราได้เปอร์เซ็นต์การขึ้นเงินเดือนเยอะหรือน้อย แต่ยังไงก็ได้ขึ้นทุกคนแน่นอนค่ะ ถ้าเราไม่ได้ทำผิดวินัยร้ายแรง นอกจากนี้เมื่อเราอายุงานมากขึ้น เงินเดือนที่จะได้ขึ้นก็มากตามไปด้วยนะคะ บางคนที่บรรจุมานานแล้ว เป็นครูอาวุโส เงินเดือนขึ้นทีปีละประมาณ 4,000 บาทเลยทีเดียว2. มีวันหยุดที่มากกว่าพนักงานเอกชนทั่วไปขอบคุณรูปภาพจาก marijana1 จาก Pixabay หากเทียบกับงานออฟฟิศทั่ว ๆ ไป อาชีพครูถือเป็นอาชีพที่มีวันหยุดค่อนข้างเยอะนะคะ นอกเหนือจากวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่เราได้หยุดกันเป็นปกติอยู่แล้ว เรายังมีช่วงปิดเทอม ที่ให้ครูได้พัก เตรียมการสอนสำหรับเทอมต่อไป อะ ๆ แต่อย่าคิดว่าเราจะได้ปิดเทอมเท่ากับที่นักเรียนหยุดกันนะคะ บอกเลยว่าน้อยกว่านั้นเยอะค่ะ เพราะเราต้องเข้าเวร มีงานโรงเรียนที่ต้องทำในช่วงนั้นอีก ถ้านับถึงวันที่ได้หยุดพักผ่อนจริง ๆ น่าจะประมาณแค่ 3 - 4 อาทิตย์เท่านั้นเอง แต่ก็ยังถือว่าเยอะอยู่ดี3. มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้ตัวเอง คู่สมรส บุตร พ่อแม่ และเบิกค่าเล่าเรียนบุตรได้ขอบคุณรูปภาพจาก Parentingupstream จาก Pixabay สำหรับใครที่ตัวเองหรือคนในครอบครัวป่วยบ่อย การรับราชการถือว่าคุ้มมากเลยค่ะ เพราะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด โดยผู้เขียนมีคนรู้จักที่พ่อของเขาป่วยเป็นโรคไต ต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เขาก็ได้สวัสดิการจากรัฐบาล ทำให้ไม่ต้องเสียค่าฟอกไตเดือนละประมาน 20,000 บาทเลย แต่มีข้อจำกัดคือต้องรักษาในโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้นค่ะ เอกชนไม่ครอบคลุม นอกจากนี้ อาชีพข้าราชการก็สามารถเบิกค่าเล่าเรียนบุตรได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกรมบัญชีกลาง ถึงแม้อาจจะเป็นจำนวนเงินไม่มาก แต่ก็ถือว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากโขนะคะ4. มีความมั่นคงและเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขอบคุณรูปภาพจาก Raten-Kauf จาก Pixabay ด้วยความที่อาชีพเราค่อนข้างมั่นคง ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนไล่ออก ดังนั้นจึงมีสถาบันการเงินปล่อยกู้ให้ค่อนข้างเยอะ สำหรับคนที่มีหัวทางธุรกิจ ก็สามารถกู้เงินมาลงทุนให้งอกเงย มีรายได้เสริมอีกทาง แต่ถ้าหากใครกู้มาซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย ก็อาจจะทำให้ติดหนี้หัวโต ต้องทนทำงานไปจนกว่าจะเกษียณนะคะ5. มีบำนาญและได้เงินจากกองทุน ก.บ.ข เมื่อเกษียณอายุขอบคุณรูปภาพจาก Michael Schwarzenberger จาก Pixabay หากใครที่ทำงานเอกชน อาจจะต้องวางมีการออมเงินในส่วนที่ต้องใช้ตอนเกษียณอายุใช่ไหมคะ แต่สำหรับอาชีพข้าราชการอาจจะไม่ต้องกังวลในส่วนนี้มากนัก เพราะเราจะได้รับบำนาญจากรัฐทุกเดือน เพียงแต่ว่าอาจจะน้อยลงจากเงินเดือนประมาณครึ่งหนึ่ง แต่แหม .. แก่แล้วก็คงอาจจะไม่ต้องใช้เงินเยอะเท่าไหร่ นอกจากนี้เรายังได้รับเงินก้อนจากกองทุน ก.บ.ข ที่เราสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะมีเงินบำนาญ แต่ก็ไม่ควรก่อหนี้จนทำให้ต้องหักเงินบำนาญไปใช้หนี้ ทำให้ไม่มีเงินดำรงชีวิตนะคะ เพราะไม่งั้น นรกมาเยือนแน่ ๆ ค่ะ และนี่คือ 5 ข้อดีของอาชีพข้าราชการครูที่ผู้เขียนอยากนำมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้กัน เผื่อว่าใครสนใจจะเข้าบรรจุ จะได้นำข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณานะคะ ครั้งต่อไปผู้เขียนจะนำเรื่องราวอะไรมาแชร์กันอีก ขอฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณภาพปกจาก Sasin Tipchai จาก Pixabay