ภาพโดย hermaion from Pexels ใครเคยมีปัญหาเรื่องท้องผูก คงรู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน จะมีความรู้สึกว่ามันแน่น ๆ อึดอัด อยากจะขับถ่ายแต่ว่าถ่ายไม่ออก อุจจาระแข็ง พอขับถ่ายออกมาก็เหมือนว่าออกไม่หมด บางคนถ่ายเป็นเลือด อาการท้องผูกในแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแพทย์จะถือว่า ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์ ถ่ายไม่ถึง 3 ครั้ง เรียกว่า ท้องผูก ภาพโดย Pixabay from Pexels โดยปกติแล้ว คนส่วนมากมักจะขับถ่ายในช่วงเช้าของทุกวัน แต่เราเป็นคนหนึ่งที่เมื่อก่อน ชอบมีปัญหาเรื่องท้องผูก และมีพฤติกรรม 2 วันถ่ายครั้ง มานานหลายปีโดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดปกติ ช่วงหลังหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ร่างกายมีการปรับตัวทำให้สามารถขับถ่ายได้ทุกวัน รู้สึกว่ามันดีกว่า สุขภาพดีขึ้นมาก เลยอยากมาเล่าให้ฟังว่าทำอย่างไรบ้าง 1. ดื่มน้ำ ภาพโดย Daria Shevtsova from Pexels เมื่อก่อนทำงานออฟฟิศ งานเร่ง งานรีบ จึงขี้เกียจเดินไปเติมน้ำ ใช้วิธีอดทนเอา พองานเสร็จค่อยดื่มน้ำ การดื่มน้ำน้อยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ หลังจากที่ออกจากงาน มาทำงานอยู่ที่บ้าน เราไม่เร่งรีบเหมือนก่อนเท่าไร มีเวลาดูแลตัวเอง จิบน้ำระหว่างวันอยู่ตลอด ประมาณว่าจิบน้ำทุกครึ่งชั่วโมงเลย รวม ๆ ดื่มน้ำประมาณวันละ 1-1.5 ลิตร 2. ฝึกหัดนิสัยนั่งขับถ่าย ภาพโดย Alexas_Fotos จาก Pixabay บางครั้งความรีบเร่งบีบบังคับ ทำให้เราไม่มีเวลาในการขับถ่ายที่มากพอ ลำไส้ใหญ่จะไม่บีบตัวผลักดันอุจจาระลงมา เราควรนั่งขับถ่ายให้เป็นนิสัยในเวลาเดิมทุกเช้า ช่วงแรกที่นั่งไป อาจจะไม่ออก แต่ถ้าทำบ่อย ๆ ร่างกายจะรู้เวลาเอง 3. รับประทานผัก ภาพโดย Magda Ehlers from Pexels เรื่องนี้เราสามารถเป็นคนเลือกได้เอง ถ้าอยากขับถ่ายคล่อง ควรรับประทานผัก เพื่อให้มีกากใยมากเพียงพอ อาจจะเลือกผักที่มีใบ เช่น ผักกาดขาว ตำลึง คะน้า 4. รับประทานผลไม้ ภาพโดย Magda Ehlers from Pexels เราเป็นคนชอบรับประทานผลไม้ เวลาที่ตอนเช้าถ่ายไม่ออก เราจะรีบหาผลไม้มารับประทานทันที ไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด เช่น กล้วย มะละกอ ส้มโอ มะขาม ที่จริงแล้วถ้าเรารับประทานกล้วยน้ำว้าช่วงเช้า เวลาผ่านไปสักพัก ก็จะรู้สึกเริ่มมวนท้องค่ะ แต่ถ้ากล้วย มะละกอ เอาไม่อยู่ เราต้องกินมะขามค่ะ 5. ออกกำลังกาย ภาพโดย Daniel Reche from Pexels เรื่องนี้พิสูจน์ได้จริง ๆ ค่ะ เมื่อก่อนไม่ได้ออกกำลังกายเลย ระบบขับถ่ายไม่ค่อยดี ตอนนี้เรามักจะเดินออกกำลังกายตามสวนสาธารณะช่วงเช้าเป็นประจำ ระบบขับถ่ายดีขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ คุณอาจจะเดิน วิ่ง เล่นโยคะ หรือแอโรบิกก็ได้ทั้งนั้นค่ะ หาเวลาให้ตัวเองดู ถ้าอยากให้ตัวเองมีสุขภาพดี อายุยืน ปราศจากโรคภัย ก็ควรดูแลตัวเองบ้าง อย่าละเลย คิดว่าเดี๋ยวอายุมาก ๆ ค่อยดูแล มันจะไม่ทันค่ะ อย่าปล่อยให้เกิดอาการท้องผูกนาน ๆ นะคะ เพราะว่ามันอาจจะนำไปสู่โรคอันตรายในอนาคตได้