ระยะนี้มีข่าวการจับกุมขบวนการ “ธุรกิจสีเทา” โดยเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน จนเป็นข่าวให้เราได้ติดตามกันหลายคดี แต่ละคดีเกี่ยวข้องกับเงินจากการกระทำผิดกฎหมายหลายพันล้านหรือหลายหมื่นล้านบาท บทความนี้ผู้เขียนขอเสนอคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาดังกล่าว ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่สื่อมวลชนกล่าวถึงเป็นประจำ โดยผู้เขียนหวังว่าจะทำให้เพื่อน ๆ มีความเข้าใจมากขึ้นเมื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยผู้เขียนได้รวบรวมและเรียบเรียงมาให้อ่านเพื่อความเข้าใจของหลาย ๆ ท่านที่เพิ่งติดตามข่าวนี้ธุรกิจสีเทาเพื่อน ๆ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมไม่เรียกว่า “ธุรกิจสีดำ” ในเมื่อเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เหตุผลที่เรียกว่า "ธุรกิจสีเทา" ก็เพราะผู้กระทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นพนันออนไลน์ ฟุตบอลออนไลน์ เว็บลามกอนาจาร ค้ายาเสพติด หลอกลวงออนไลน์ เป็นต้น เรารู้อยู่แล้วว่าเป็นกิจกรรมที่ผิดกฎหมายชัดเจนแต่กลุ่มนี้จะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และเงินจากการกระทำผิดดังกล่าวไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เพราะไม่มีที่มาที่ไปของเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง จากปัญหานี้ก็ทำให้ผู้กระทำผิดนิยมนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ หรือสนับสนุนบริษัท หรือกลุ่มทุนต่าง ๆ ที่ประกอบธุรกิจถูกกฎหมาย ธุรกิจนั้นจะมีกำไรหรือขาดทุนก็ไม่สำคัญเพราะยังไงก็มีเงินจากการกระทำผิดกฎหมายเข้ามาหมุนเวียนอยู่แล้ว ธุรกิจที่เสกขึ้นมาบังหน้านี้ เรียกว่า “ธุรกิจสีเทา” คือ เป็นธุรกิจที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือการนำเงินจากการกระทำ “ผิดกฎหมาย” มาทำให้ “ถูกกฎหมาย” โดยไม่ได้มุ่งหวังที่จะประกอบธุรกิจจริง ๆ เป็นเพียงแค่การ “ฟอกเงิน” ฟอกเงินเงินจากการกระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนดนั้น มักมีเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล เมื่อผู้กระทำผิดกฎหมายต้องการนำเงินนี้เข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อจะได้นำเงินไปใช้จ่าย ลงทุน หรือเคลื่อนย้ายเงินได้อย่างสบายใจ จึงจำเป็นต้องแปลงสภาพของเงินดังกล่าวเพื่อให้เห็นว่าเงินนี้มีที่มาที่ไปถูกต้อง จึงนำเงินไปลงทุนหรือทำธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ธุรกิจที่ว่านี้เรียกว่า “ธุรกิจสีเทา” ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ผู้กระทำผิดกฎหมายอาจจะเปิดบริษัททำธุรกิจเพื่อฟอกเงินด้วยตนเอง หรือนำเงินไปลงทุนในธุรกิจประเภทต่าง ๆ ก็ได้ โดยที่ตนเองไม่จำเป็นต้องเปิดบริษัทเอง กระบวนการแปลงสภาพเงินที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมายให้เป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย เรียกว่า “ฟอกเงิน” บัญชีม้า“บัญชีม้า” น่าจะเป็นคำศัพท์ที่ได้ยินบ่อย ๆ ความหมายของบัญชีม้า คือ บัญชีธนาคารที่ใช้ในการโยกย้ายถ่ายเทเงินของผู้กระทำผิดกฎหมาย ผู้เปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวเรียกว่า “ม้า” การโอนเงินผ่านบัญชีม้าจะมีการโอนเงินกันหลายต่อหลายทอดเพื่อให้ยากต่อการติดตามเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่รัฐ วัตถุประสงค์ของบัญชีม้าคือการปกปิดบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถสาวไปถึงตนเองได้ ส่วน ม้าที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ถือว่ามีความผิดมูลฐาน หรือความผิดฐานฟอกเงินตามกฎหมายด้วย โบรกเกอร์บัญชีม้าก่อนหน้านี้ บุคคล (ม้า) ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อทราบว่าตนเองถูกหลอกหรือเกรงกลัวกฎหมายก็จะไปแจ้งความเพื่อปิดบัญชี ซึ่งเจ้าของบัญชีสามารถปิดบัญชีเองได้ จึงทำให้ผู้กระทำผิดกฎหมายไม่สามารถควบคุมม้าแต่ละบัญชีได้ จึงเกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ จากปัญหานี้จึงทำให้เกิดกลุ่มบุคคลตั้งตัวเองเป็น “คนกลาง” ระหว่าง “บัญชีม้า” กับ “บุคคล/กลุ่มบุคคลที่กระทำธุรกิจผิดกฎหมาย” ขึ้น เรียกว่า “โบรกเกอร์” หน้าที่โบรกเกอร์ คือ 1. จัดหาม้าเพื่อให้มาเปิดบัญชีทั้งการจ้างให้เปิดบัญชี หรือหลอกลวงให้เปิดบัญชีแล้วยึดบัญชีธนาคารเอาไว้ 2. ควบคุมบัญชีม้าไม่ให้เจ้าของบัญชีไปปิดบัญชีธนาคาร วิธีการควบคุมม้า คือ การข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายร่างกาย เป็นต้น เพื่อให้ม้าหวาดกลัว ไม่กล้าปิดบัญชี 3. เบิกเงินจากบัญชีม้าที่ตนเองควบคุมอยู่มาให้ผู้กระทำผิดกฎหมายด้วยเงินสด หรือโอนเงินผ่านแคชเชียร์เช็คถูกหวยทิพย์เป็นรูปแบบการฟอกเงินประเภทหนึ่ง โดยจะมีการควานหาผู้ที่ถูกหวยรัฐบาลหรือลอตเตอรี่จริง ๆ จากนั้นผู้กระทำผิดกฎหมาย นายหน้า หรือคนกลางก็จะติดต่อขอซื้อสลากดังกล่าวในราคาแพงกว่าที่ถูกรางวัลจริง ๆ เช่น เจ้าของสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 หากนำไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ ก็จะได้เงิน 6 ล้านบาท (หากหักค่าอากรแสตมป์ 0.5% จะได้เงินจริง ๆ 5,970,000 บาท) แม้จะซื้อสลากใบนั้นแพงกว่าเงินที่ได้จากการนำไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ ก็ตาม แต่ถือว่าคุ้มค่าสำหรับเงินที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมาย เพราะสามารถอ้างได้ว่าที่ร่ำรวยขึ้นมานี้มาจากการซื้อลอตเตอรี่ ทั้งที่ไม่ใช่การถูกลอตเตอรี่จากการซื้อลอตเตอรี่ตามแผงขายลอตเตอรี่จริง ๆ เหมือนคนทั่วไป จึงเรียกว่า "ถูกหวยทิพย์" คำว่าทิพย์ก็มาจากวลีฮิตที่ว่า "เมืองทิพย์" "ผัวทิพย์" เป็นต้น คำว่าทิพย์ก็คือ "ไม่จริง" "หลอกตัวเอง" หรือ "คิดไปเอง" ในมุมมองของผู้เขียนเกี่ยวกับการทำความเข้าใจคำศัพท์ในข่าวจะทำให้เพื่อน ๆ ติดตามข่าวด้วยความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าคำศัพท์เหล่านี้ ความหมายมันผันเปลี่ยนไปได้ตามยุคสมัย ขึ้นอยู่สถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคำศัพท์หลาย ๆ คำก็มีการประดิษฐ์หรือประสมคำขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีความหมายแทนประเด็น บุคคล หรือเหตุการณ์ที่เป็นข่าว เช่น โบรกเกอร์ ใช้ในวงการตลาดหุ้น หมายถึง บริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเป็น "นายหน้า" ซื้อขายหลักทรัพย์ แต่กรณีธุรกิจสีเทานี้ โบรกเกอร์ถูกนำมาใช้ในความหมายที่เป็นกลุ่มผิดกฎหมายที่เป็นตัวกลางระหว่าง "ม้า" ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารกับ "ผู้กระทำผิดกฎหมาย" ซึ่งเป็นการประดิษฐ์คำขึ้นมาใหม่ มีความหมายใหม่ หมายเหตุ เนื้อหาและภาพประกอบเป็นของผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !