เคยสงสัยกันไหมคะ? ว่าทำไมคนต่างชาวที่เข้ามาเที่ยว หรือคนไทยที่ไปเที่ยวต่างประเทศถึงได้พูดภาษากันได้เก่งกันปร๋อเชียว ทั้งที่เราเองเรียนภาษามาตั้งแต่อนุบาลเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยพูดได้ ฟังก็ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ถ้าต่างชาติเข้ามาคุยเราก็ได้แต่วิ่งหนีหรือตีหน้ามึนใส่อย่างเดียว รู้สึกว่าฉันไม่ได้เรื่องจริงๆที่เรียนมามันไม่เข้าหัวเลย แต่กับคนอื่นๆแล้วถึงเรียนมาไม่กี่ครั้งก็พูดได้ วันนี้จะมาสอน 5 ทริคดีๆ ที่ใช้ในการฝึกเมื่ออยากเข้าใจภาษาต่างชาติกันมากขึ้น ถ้าฝึกบ่อยๆไม่นานเกินรอก็ทำได้แน่ เริ่มแรกต้องทำใจให้สงบก่อน ตั้งสติ มุ่งมั่นสร้างเป้าหมาย ว่าเมื่อไหร่ฉันจะสามารถเก่งภาษาขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น กำหนด 2 อาทิตย์ ฉันจะท่อง A-Z ให้ได้ขึ้นใจ , กำหนด 1 เดือน ฉันจะต้องสะกดคำออกและแปลความหมายได้เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็ไปอ่านทริค ทั้ง 5 ข้อ กันเลย 1. เรียนรู้ไวยากรณ์ ตัวอักษร ตัวสะกด พยัญชนะ นับเป็นสิ่งพื้นฐานที่ช่วยให้เราเรียนรู้และเข้าใจได้ไวมากขึ้นด้วยการจดจำตัวอักษรของภาษาที่เราต้องศึกษา เช่น ก-ฮ , A-Z ซึ่งในการอ่านแต่ละครั้งและนำมาเปรียบเทียบของตัวอักษรทั้งหมด จะช่วยให้เราแยกแยะออกได้ง่ายๆ โดยเราก็เขียนภาษาของเรากำกับเข้าไปด้วยกันท่องจำไม่ได้ เช่น N แทน น , B แทน บ , T แทน ต,ท เป็นต้น หลังจากได้ตัวอักษรแล้ว ภาษาก็ยังแบ่งแยกย่อยออกไปตามในลักษณะต่างๆ ซึ่งนั่นจะเป็นหลังจากที่เราเข้าใจตัวอักษรและวรรณยุกต์ที่ใช้ได้มากขึ้นแล้ว 2. จดดีกว่าจำ ตามหลักจิตวิทยาแล้วการเขียนจะช่วยให้เราจำได้ง่ายกว่าดู โดยเราอาจจะมีสมุดโน๊ตบันทึกไว้จดเพื่อท่องจำ เมื่อเราเกิดสงสัยหรือลืมขึ้นมาเราก็สามารถมาเปิดอ่านขึ้นได้ เริ่มในหน้าแรก แน่นอนว่าจะต้องเขียนตัวอักษรพยัญชนะเอาไว้เหนือสิ่งอื่นใน ต่อด้วยตัวสะกด วรรณยุกต์ เพื่อที่จะให้เราสามารถเปิดเข้ามาเรียบเรียงตัวได้ง่ายขึ้น หลังจากนั้นก็เริ่มจดคำที่เป็นพื้นฐานลงไปก่อน เช่น ตัวเลข , สี , ศัพท์เรียกแทนตัว you & i , คำทักทาย , คำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ Hi what is your name? สวัสดีคุณชื่ออะไร? , How are you? คุณสบายดีไหม? 3. อ่านและฝึกพูดซ้ำๆ แค่ต่อวันก็พอ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราจำได้ใช่ไหมล่ะคะ น่าแปลกที่เราสามารถอ่านนิยายที่ชอบได้ โดยตื่นมาต่อวันก็ยังจำได้ไม่ลืม แต่พอเป็นหนังสือเรียนแค่หน้าเดียวก็เกินพอ ทั้งนี้เราคงไม่สามารถบังคับตัวเองได้ว่าถ้าเราไม่ใช่คนมุ่งมั่นหรือหมกหมุ่นก็คงไม่สามารถทำใจยอมอ่านซ้ำเป็นครั้งที่สอง แต่ถ้าเปลี่ยนจากอ่านซ้ำๆให้หมดเล่ม เป็นการอ่านทีละคำเพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นล่ะ วิธีการก็ง่ายมากค่ะ เราสามารถจดคำศัพท์ที่เราไม่เข้าใจ และก็กำหนดว่าวันนี้ฉันจะท่องได้กี่คำ ในสักกี่รอบกัน เช่น วันนี้ฉันจะอ่าน 1-10 เป็นภาษาอังกฤษให้ได้ ก็อ่านไปสัก 3 รอบ จนรอบที่ 4 เมื่อเรามั่นใจว่าเราสามารถเขียนได้โดยไม่ต้องดูได้แล้วก็เริ่มเขียน หรือถ้ายังจำไม่ได้ เราก็พลิกสลับไปมาดูไว้ให้ชินตา(แต่ห้ามดูทุกคำนะ) ถ้าแบบเบสิค ก็เริ่มแค่ 5 คำก่อน ปิดตาปิดหูปิดเฉลย และลงมือเขียนได้เลย 4. โน๊ตช่วยคุณได้ จะมีอะไรที่ทำให้ภาษาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้มากที่สุด คำตอบคือ บ้านของเรานั่นเอง นอกจากเราจะพักอาศัยอยู่ในบ้านเกือบทุกห้วงเวลาแล้ว สิ่งที่จะช่วยเราได้ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นพื้นที่ภายในบ้าน เพียงแค่เรามีกระดาษโน๊ตเล็กเล็กคอยจดคำศัพท์ลงไปและนำไปติดไว้ทั่วทุกมุมห้อง เป็นไปไม่ได้เลยว่าตัวภาษานั้นจะไม่มีทางรอดพ้นสายตาเรา เช่น Glass ที่แปลว่าแก้วน้ำ เราก็ไปติดบนแก้วน้ำซะเลย หรือ Fridge ที่แปลว่าตู้เย็น เราก็ไปติดด้านหน้าตู้เย็นเลย ถือเป็นทริคง่ายๆที่ช่วยให้เราจำได้ง่ายขึ้น (ในวันที่เราขี้เกียจจดอะนะ) 5. ความชอบและงานอดิเรกประจำวัน ต้องบอกก่อนว่าโซเชียลมีเดียกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราอย่างสิ้นเชิง คงไม่พ้นที่จะบอกว่าเราสามารถรับฟังและรับรู้เรื่องราวข่าวสารต่างๆในหลายประเทศได้มากมาย แม้กระทั่งตอนกำลังเล่นเกม ที่มักใส่ภาษาของเซิร์ฟเวอร์นั้นๆเข้ามาร่วมด้วย ดังนั้น มันคงเป็นเรื่องง่ายถ้าเราจะอาศัยสิ่งเหล่านี้ในการฝึกภาษาไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เราเป็นคนไทยไม่เข้าใจภาษาเกาหลีเลยแต่ชอบฟังเพลง EXO มาก จึงต้องเสิร์ชหาคำแปลเนื้อเพลงอีกที ซึ่งก็นับเป็นสิ่งที่เราสามารถต่อยอดและพัฒนาต่อได้เรื่อยๆ โดยอาศัยสิ่งที่เราชอบและเราสะดวกใจที่จะทำ ซึ่งไม่จำเป็นว่าเราจะต้องหาความรู้แค่กับหนังสือเรียนอย่างเดียว โดยปัจจุบันนี้มีแอพลิเคชั่นมากมายที่ใส่ฟังก์ชันภาษาที่ 2 เข้ามาให้เราสามารถเข้าใจ ท่องจำ และเรียนรู้ได้อีกด้วย ทั้งนี้การที่เราจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ต้องเริ่มจากความมุ่งมั่นที่มีในตัวเรานะคะ อย่าไปคิดว่าภาษาต่างชาติมันยาก เพราะไม่มีอะไรยากเกินเอื้อมมือเราที่ได้ลองทำหรอกค่ะ^^ ขอบคุณเครดิตภาพปก โดย Pexels จาก Pixabayภาพที่ 1 โดย Jambulboy จาก Pixabayภาพที่ 2 โดย Free-Photo จาก Pixabayภาพที่ 3 โดย Free-Photo จาก Pixabayภาพที่ 4 โดย libellule789 จาก Pixabayภาพที่ 5 โดย Free-Photo จาก Pixabayภาพที่ 6 โดย Free-Photo จาก Pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !