สวัสดีจ้าผู้อ่านทุกท่านที่ผ่านเข้ามา บทความนี้ผู้เขียนจะมานำเสนอ 5 นิทรรศการที่จัดในกรุงเทพประจำเดือนตุลาคม นิทรรศการที่ผู้เขียนหยิบมานั้น จะจัดยาวๆ จนถึงวันใดวันนึงของเดือนตุลาคมและบางนิทรรศการจัดถึงเดือนพฤศจิกายนและมีถึงเดือนธันวาคมเลยก็มีเช่นกัน และถ้าผู้อ่านไปแล้วได้แรงบันดาลใจกลับไปอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่ที่หยิบยกมาจะไปฟรี แต่มีนิทรรศการอยู่ที่นึงที่ต้องเสียเงินเข้าไป แต่ว่าผู้เขียนไม่ได้เข้าไปนะ แต่มาแนะนำให้สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศกัน เพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันว่าแต่ละนิทรรศการจัดอยู่ที่ไหนบ้างนิทรรศการ AN ORCHARD IN A BOXนิทรรศการนี้จะเป็นการนำความจริงและความฝันเข้าไปอยู่รวมกัน แต่ละภาพนั้นมีความหมายมากมายที่ลึกจนผู้เขียนยังต่อทึ่งกับการถ่ายทอดผ่านผลงานศิลปะของศิลปิน ประโยคที่ผู้เขียนจะจดจำได้แม่นเลยก็ประมาณว่า "ความจริงทำให้เกิดความฝันและความฝันทำให้เกิดความจริง" อะไรประมาณนี้ มีการนำตัวของอดัมและเอวาที่เป็นมนุษย์สองคนแรกที่เกิดมาบนโลกมาเป็นส่วนในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย ซึ่งผลงานศิลปะที่ศิลปินสื่อมาจะบอกว่าชีวิตของเรานั้นสามารถเติบโตเดินไปในทางที่ตัวเองเลือกได้อย่างไร ซึ่งคำอธิบายที่เขาได้เขียนไว้นั้นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวของชีวิตของมนุษย์ ว่าถึงเรื่องการเติบโต การเลือกเป้าหมายว่าจะเติบโตไปในทางใด จุดที่ผู้เขียนชอบสุดก็เป็นจุดนี้นี่เอง เป็นชุดที่มีหลากหลายสไตล์ หลากหลายความหมาย มุมมองผู้เขียนมองว่าการออกแบบชุดแต่ละชุดนั้นมีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกัน ไม่ว่าชุดไหนก็มีความเป็นเอกลักษณ์ เปรียบเสมือนเมล็ดที่ถูกหว่านแล้วออกผลมาก็แตกต่างกันนั้นเองจุดนี้จะมีชุดที่วางไว้ให้รับชมอยู่ประมาณ 5 ชุด การออกแบบก็จะแตกต่างกัน มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน และนี่เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการเท่านั้น เพราะ ยังมีอีกมากมายที่อยากให้ผู้อ่านลองไปสัมผัสกันแบบจริงๆ กันเองนะจ๊ะ แต่ไปแล้วได้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตกลับไปอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าได้ไปอ่านคำอธิบายที่ศิลปินสื่อไว้ในแต่ละผลงานจะทำให้เข้าใจความหมายที่ศิลปินได้ถ่ายทอดออกมาได้มากยิ่งขึ้นสำหรับการเดินทางก็จะอยู่ที่เจริญกรุง 30 เลี้ยวซ้ายก็จะเจอแล้วจ้า หน้าตาของหน้าสถานที่จัดนิทรรศการก็จะเป็นแบบนี้ เข้าไปก็เดินตรงจะมี 2 ประตู ให้ไปที่ประตูด้านซ้าย เปิดประตูเข้าไปแล้วก็สอบถามพนักงานได้เลยว่ามาชมนิทรรศการและทางพนักงานหรือ STAFF ก็จะบอกเลยว่าไปทางไหน ซึ่งจะอยู่ชั้น 2 มี STAFF คอยต้อนรับและให้คำแนะนำ และก็จะมีลงทะเบียนเข้างานด้วย ผู้เขียนก็เพิ่งรู้หลังชมผลงานเสร็จแต่เข้ามาก็ไม่ได้มีใครว่าอะไรแต่ผู้เขียนก็ลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้วหลังชมนิทรรศการเสร็จขึ้นบันไดไปชั้น 2 จะเจอกับตรงจุดนี้เลยนะจ๊ะ งานจะจัดถึงวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2566 นี้ เข้าชมฟรีพิกัด: ATT 19 (เปิดทุกวัน เวลา 09:00 น.-18:00 น.)นิทรรศการ COLLAPSED : ทรุดผู้เขียนก็ไม่ได้รู้มาก่อนว่ามีนิทรรศการนี้ด้วย เข้าไปแบบงงๆ แต่ว่านิทรรศการก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แรงบันดาลใจมาจากสถานการณ์ของปี พ.ศ. 2566 ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการนำเรื่องราวทางการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งของปี พ.ศ. 2566 ที่เป็นสิ่งที่จุดประกายทำให้เกิดนิทรรศการนี้ขึ้นมา แม้จะเป็นนิทรรศการที่จะดูเล็กๆ แต่ว่าผลงานของศิลปินไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ผลงานที่ผู้เขียนชอบที่สุดภายในนิทรรศการก็เป็นงานนี้นี่แหละ การตั้งเก้าอี้จำนวน 400 ตัว เพื่อสร้างผลงานศิลปะ ตอนแรกผู้เขียนก็ทึ่งกับการตั้งเก้าอี้แบบนี้มาก แต่พอมารู้ความหมายที่แท้จริงแล้วก็คือแผนที่ของประเทศไทยนั้นเอง ผู้เขียนไปเห็นชื่อจังหวัดที่เขาได้เขียนไว้ตรงพื้น โดยจังหวัดที่ตั้งเก้าอี้ได้สูงที่สุดแน่นอนก็ต้องเป็น "กรุงเทพมหานคร" นั่นเอง การจะตั้งเก้าอี้แบบที่ไม่ล้มได้นี่ถือว่าสุดยอดแล้วละสำหรับผู้เขียนตรงนี้จะมีคลิปการจัดตั้งเก้าอี้ด้วย ภายในคลิปจะเห็นการทำของเขาว่าเป็นยังไงมายังไง ผู้เขียนชอบที่เห็นความพยายามอย่างชัดเจนมากเป็นอันดับแรกของศิลปิน เขามีพลาดเก้าอี้ล้มบ้าง แต่ว่าเขาก็พยายามทำให้ผลงานชิ้นนี้เสร็จสมบูรณ์ ผู้เขียนเลยชอบผลงานนี้มากที่สุดภายในงานและนี่เป็นผลงานศิลปะที่อยู่ภายในงาน ซึ่งจะมีไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ทุกผลงานเต็มไปด้วยเก้าอี้เป็นส่วนมากเลยสำหรับการเดินทางก็มาจากซอยเจริญกรุง 30 เลยจาก ATT 19 ไปนิดเดียวเอง จะเจอกับ Warehouse 30มาตรงที่ 333 Galleryเข้ามาจะมีคนต้อนรับที่หน้าเคาน์เตอร์ก็จะเจอกับป้ายตามรูปนี้เลย และก็ไม่ต้องลงทะเบียน เข้าชมฟรีได้เลยจ้า งานจัดถึงวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2566 นี้พิกัด: 333Gallery หรือ Warehouse 30 (เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 11:00 น.-18:00 น.)นิทรรศการ Time to go homeนี่เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกจากศิลปินอย่างคุณ KENZ เป็นนิทรรศการที่จะนำพาทุกคนที่เข้ามาที่นิทรรศการนี้ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน ภายในผลงานเต็มไปด้วยผลงานที่ออกแนวเป็นการ์ตูนเป็นส่วนมาก โดยนิทรรศการนี้จะสื่อว่าหากเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือจากอุปสรรคต่างๆ หรือเรื่องอื่นๆ จะทำให้ย้อนนึกถึงบ้านเสมอ เพราะ บ้านเป็นสิ่งที่เราจะนึกถึงเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล อยู่แล้วสบายใจ ปลอดภัยหายห่วงแน่นอนผู้เขียนไม่ได้ประทับใจผลงานไหนเป็นพิเศษ เพราะ ผู้เขียนชอบทุกผลงานในนิทรรศการนี้มากๆ เลย แต่ละภาพในมุมมองของผู้เขียนก็คือ เวลาจะผ่านไป เราก็จะมีบ้านหลายหลังให้ได้อยู่และให้กลับไปได้เสมอ ถ้าต้องการอยากจะกลับไป นิทรรศการนี้หากผู้อ่านอยากสัมผัสบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านให้ลองมารับชมผลงานกันได้เน้อการเดินทางก็มาจากซอยเจริญกรุง 30 แล้วเลี้ยวซ้ายจากซอยเจริญกรุง 30 เดินตรงสุดแล้วก็เลี้ยวขวาก็จะเจอกับ River Cityขึ้นไปชั้น 2 ตรงหน้านิทรรศการจะเป็นแบบนี้นะจ๊ะ นิทรรศการจะจัดถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 นี้จ้า พิกัด: River City Bangkok : ชั้น 2 Trendy Gallery (เปิดทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.)นิทรรศการ Italthai Portrait Prizeสำหรับนิทรรศการจะเป็นนิทรรศการที่มีผลงานของศิลปินทั้งหมด 70 ท่าน โดยจะวาดจากบุคคลที่เป็นต้นแบบสำคัญของเรื่องราวในอดีตของศิลปินที่ได้ถ่ายทอดออกมา แต่ละภาพถือว่าเต็มไปด้วยความหมายที่ดีมากๆ เมื่อได้อ่านคำอธิบายของรูปนั้นๆ ผู้เขียนแนะนำให้อ่านคำอธิบายของภาพทุกรูปเลย เพราะ ทุกรูปมีความหมายจริงๆ เต็มไปด้วยบุคคลสำคัญของศิลปินที่ทำให้ศิลปินสร้างผลงานออกมาได้อย่างสวยงามและดูแล้วเห็นถึงคุณค่าของรูปนั้นๆ เลยภาพที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดก็คงเป็นภาพนี้ เห็นแล้วรู้สึกว่าติดตาและชอบมากที่สุดเลย ความหมายก็คือการช่วยเหลือกัน ให้กำลังใจเวลามีปัญหา ถึงแม้แต่ละคนจะมีนิสัยเป็นยังไงแต่ก็คอยช่วยเหลือกันและคอยผลักดันสู่ความสำเร็จได้เลย อีกภาพนึงที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดเลยก็คือภาพนี้ ความหมายที่ผู้เขียนอ่านมาก็คือ เป็นเพื่อนผู้หญิงที่สวยที่สุดและวาดออกมาเพื่อเป็นสื่อสัญลักษณ์ของความสวยงามของมนุษย์ ภาพนี้ผู้เขียนก็ยอมรับตรงๆ ว่าสวยมากจริงๆ มีการใส่รายละเอียดที่ดูแล้วต้องหยุดมองเลยสำหรับการเดินทางก็เหมือนกับนิทรรศการ Time to go home มาจากซอยเจริญกรุง 30 แล้วเลี้ยวซ้ายจากซอยเจริญกรุง 30 เดินตรงสุดแล้วก็เลี้ยวขวาก็จะเจอกับ River Cityนี่คือหน้านิทรรศการนะ อยู่ชั้น 2 มีหลากหลายผลงานเลย หากผู้อ่านสนใจก็ลองไปดูกันได้ และเน้นย้ำว่าอ่านคำอธิบายของรูปภาพทุกรูป เพราะ จะทำให้เข้าใจความหมายของรูปภาพได้มากขึ้น นิทรรศการจัดถึงวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 นี้จ้าพิกัด: River City Bangkok : ชั้น 2 RCB Galleria 4 (เปิดทุกวัน เวลา 10:00 น. - 20:00 น.)นิทรรศการ คลังสยอง จุนจิ อิโต้และก็มาถึงนิทรรศการที่กำลังฮอตฮิตกันในช่วงนี้เลย และผู้เขียนเพิ่งรู้ว่าต้องเสียเงินด้วย นึกว่าเข้าฟรี อันนี้ผู้เขียนไม่ได้เข้าไปนะ เพราะ เป็นนิทรรศการที่ต้องเสียเงินเข้าไป แต่ว่าใครที่ชอบหรือติดตามอนิเมะสยองขวัญเรื่องนี้อยู่แล้วก็ลองไปสัมผัสกันได้จ้า ผู้เขียนได้ยินเสียงกรี๊ดจากข้างนอกเลย แสดงว่าดีจริงตรงนี้จะเป็นราคาบัตรนะก็แต่ละราคาจะแตกต่างกันผลงานก็ดูสยองแต่ก็มีความสวยงามในมุมมองผู้เขียน สำหรับงานจะจัดถึง 31 ธันวาคม พ.ศ.2566 นี้เลยจ้า จัดยาวๆ ยันสิ้นปีพิกัด: MBK Center ชั้น 4 ตรงแถวโซนธนาคาร (เปิดทุกวัน เวลา 10:00 น. - 22:00 น.)เป็นไงกันบ้างกับนิทรรศการที่ผู้เขียนหยิบมา ทุกสถานที่เป็นสถานที่ที่ผู้เขียนไปด้วยตัวเองทั้งหมดเลย ผู้อ่านสนใจนิทรรศการไหนก็ไปเยี่ยมชมกันได้เน้อ ทุกนิทรรศการทำให้ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาหลายอย่างเลย ขอฝากบทความนี้กันด้วยเน้อ ฝากแชร์ให้คนอื่นๆ ที่สนใจอยากไปนิทรรศการศิลปะกันได้เน้อ แชร์ให้คนอื่นได้เข้ามาอ่านกัน ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันจ้า ติชมกันได้จ้า ขอบคุณจ้า แค่เข้ามาอ่านบทความก็ช่วยให้ผู้เขียนมีกำลังใจอย่างมากในการทำบทความต่อไปแล้วจ้าช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJภาพปกทำโดย Canva ภาพประกอบผู้เขียนถ่ายเองจ้าส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้