ภาพประกอบปกจาก Pixabay โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่เกิดจากความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง จากการที่โครงสร้างภายในของกระดูกถูกทำลายหรือเกิดการสลายตัวจนทำให้เนื้อกระดูกมีลักษณะเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ จนกลายเป็นลักษณะเหมือนฟองน้ำเลยเรียกว่า ภาวะกระดูกพรุน ซึ่งจะส่งผลให้กระดูกส่วนนั้นๆมีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณกระดูกสันหลัง สะโพก และกระดูกข้อมือ วันนี้ผมจะมาบอก 5 ปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุนดังนี้ 1. ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะในผู้หญิง เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าอัตราเสี่ยงของการเกิดภาวะกระดูกพรุนมีความสัมพันธ์กับอายุที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งคาดหวังมีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง 2. หญิงวัยหมดประจำเดือน ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงตามธรรมชาติส่งผลทำให้มวลกระดูกสลายตัวเร็วกว่าการสร้างมวลกระดูก จนทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้ง่ายเนื่องจาก ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันการสูญเสียมวลของกระดูก และช่วยเพิ่มมวลกระดูกให้มีมากขึ้นได้อีกด้วย 3. ดื่มสุรา กาแฟ สูบบุหรี่จัด พฤติกรรมดังกล่าวจะมีผลต่ออัตราการสลายตัวของแคลเซียมออกจากระดูกเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าบุหรี่มีผลทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมีปริมาณลดลงส่งผลต่อภาวะกระดูกเพิ่มมากขึ้น ภาพประกอบจาก Pixabay 4. ไม่ค่อยออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการเก็บกับแคลเซียมที่กระดูก เสริมสร้างความแข็งแรง และความยืดหยุ่น ทำให้กระดูกสามารถทนรับแรงกระแทกได้ดี ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย กระดูกจะเปราะ ขาดความยืดหยุ่น และทนต่อแรงกระแทกได้น้อย เป็นเหตุให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ ภาพประกอบจาก Pixabay 5. ขาดแคลเซียม หรือวิตามินดี ผู้ที่ขาดวิตามินดังกล่าวมักจะมีอาการเบื้องต้นคือ ตะคริว ผิวแห้ง เล็บเปราะ ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณการขาดวิตามินระยะต้น ในระยะยาวจะส่งผลให้คนไข้กระดูกเปราะ แตกหักง่าย และเป็นโรคกระดูกพรุนในที่สุด ภาพประกอบจาก Pixabay และนี่ก็เป็น 5 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้กระดูกพรุนและแม้ว่าภาวะกระดูกพรุนจะดูน่ากลัวและอันตรายโดยเฉพาะในผู้หญิงแต่ภาวะนี้เราสามารถป้องกันได้ด้วยการปรับพฤติกรรมไม่ดื่มสุรา กาแฟ สูบบุหรี่ และออกกำลังกายเป็นประจำหากอายุมากกว่า 35 ปีอาจเริ่มรับประทานอาหารเสริมจำพวกแคลเซียมจะสามารถลดปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะนี้ได้