รูปแบบการดำเนินชีวิตในปัจจุบันมักจะส่งผลต่ออารมณ์ต่างๆ หากเป็นอารมณ์ทางบวกก็ดีไป แต่ถ้าเป็นอารมณ์ทางลบละ เราจะจัดการกับมันอย่างไรดีนะ ซึ่งเป็นธรรมดาของชีวิตอยู่แล้วที่เราจะมีทั้งทุกข์และสุขมาเยือน เวลาทุกข์นั้นมักจะเกิดความเศร้าตามมา หากเศร้านานๆ เค้าก็จะกลายภาวะซึมเศร้า ต่อยาวๆ ไปก็ไปจบที่โรคซึมเศร้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะจมอยู่กับความเศร้าตรงนั้น เพราะไม่ว่าเราจะเศร้าอยู่ไหนระดับไหนๆ ก็ตามต้องยอมรับความจริงกับตนเองก่อนว่าเราเศร้า และการเศร้านั้นปกติมาก โอเคมากๆ เลยที่จะเศร้าไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม เพราะเป็นเรื่องธรรมดา เด็กน้อยคลอดออกมายังร้องไห้เลย และการเศร้านี้แหละที่เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในการดำเนินชีวิตของเราพอเรายอมรับได้แล้วเราก็มาดูวิธี 5 วิธีง่ายๆ ที่สามารถเปลี่ยนเศร้าให้เป็นสุขได้อย่างไรบ้าง ด้วยตนเอง ไม่พึ่งพิงใคร ไม่เบียดเบียนใคร เราสามารถรับผิดชอบต่ออารมณ์ของเราเองได้ ไม่ว่าบวกหรือลบ เราคือคนที่เข้าใจตัวเราที่สุดแล้ว ก่อนจะเลือกทำวิธีใดวิธีหนึ่งใน 5 วิธีนี้ หากเป็นไปได้ควรหาที่ตนสงบ ให้ตนเองได้ผ่อนคลายจากบทบาทต่างๆ จากสังคม เช่น เจ้านาย ลูกน้อง หรือ ครอบครัว เช่น พ่อ แม่ ลูก หรือภาระต่างๆ วางลงซักครู่ เป็นการเติมแบต ชาร์จพลังให้ตนเอง ด้วยตนเองกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลย1. ออกกำลังกาย หรือเปลี่ยนอิริยาบทหากนั่งอยู่ให้ลุกขึ้นมาเดิน ขยับมือ แขน ขา ให้ร่างกายได้เปลี่ยนท่าทาง แต่จะดีที่สุดหากสามารถไปออกกำลังกายหนักๆ ให้เหงื่อออกท่วมตัว โดยออกกำลังกายตามความชอบ และไม่กดดันตัวเองเพิ่มว่าต้องมีต้องได้ เช่น ต้องเต้นเอโรบิคให้ทันกลุ่ม ท่าไม่ผิด ต้องวิ่งให้ได้ 10 กิโล เป็นต้น ออกกำลังเท่าที่เราอยากออก ในความเร็ว และรูปแบบที่เราพอใจ เช่น ว่ายน้ำ วิ่ง เดินเร็ว หรือเต้นแอโรบิก เป็นต้น2. ฟังเพลงเพิ่มกำลังใจให้ตนเอง ดนตรีสามารถช่วยเยียวยาจิตใจได้เสมอ สามารถทำได้ง่ายทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะขณะเดินทางหรือนั่งพักผ่อนในบ้าน แนวเพลงก็เอาที่ตนเองชอบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงไทยหรือต่างประเทศ สร้างเพลย์ลิสต์สำหรับฟังยามเศร้าให้กำลังใจตอนเองขึ้นมา และเลือกเพลงโดนใจที่ให้กำลังใจตนเองเสริมทางบวกได้เลย หากนึกเพลงไม่ออก ของยกตัวอย่างเพลงไทยที่ให้กำลังใจตอนเอง อาทิเช่นปลายฝัน ของ ว่านธนฤต ฤดูที่แตกต่าง ของ บอย โกสิยพงษ์Live and Learn ของ บอย โกสิยพงษ์ร่มสีเท่า ของ วัชราวลีความเชื่อ ของ Bodyslam 3. เขียนหรือวาด ระบายความรู้สึกหากระดาษที่พร้อมเขียนแล้วทิ้งมาซักใบหรือหลายๆ ใบ จากนั้นเริ่มจรดปากการหรือดินสอ หรืออุปกรณ์อะไรก็ได้เขียนได้ วาดหรือเขียนมันอออกมา หากยังไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นตัวอักษรได้ก็วาดหรือจะลงสี ทำอะไรก็ได้ที่ได้ระบายๆ ออกมา แต่หากมีความพร้อมมากในการระบายด้วยตัวหนังสือก็เขียนมันออกมา ถ้ายังไม่แน่ใจจะเรื่องเขียนจากตรงไหน ให้เริ่มจากเราเป็นใคร รู้สึกอย่างไรตอนนี้ เพราะอะไร แล้วถ้าเราเป็นคนนอกมองตอนเองเข้ามาเราจะช่วยคนๆ นี้อย่างไรดีนะ เมื่อเขียนเสร็จแล้วหากอยากทบทวนสามารถอ่านผ่านตัวอักษรได้ หากไม่ต้องการทบทวนอยากระบบสามารถฉีกทิ้งได้เลยเนื่องจากจะเป็นการมั่นใจได้ว่าข้อมูลนั้นได้ระบายออกมาและจะไม่มีใครมาอ่าน หรือหากเป็นภาพที่วาดหรือระบายก็ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าต้องการเก็บไว้ทำความเข้าใจตนเองต่อ หรือต้องการทำลาย4. สัมผัสธรรมชาติ ต้นไม้ สวนสาธารณะ ทะเล หรือน้ำตกยุคปัจจุบันนั้นเวลาวันๆ แทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนใหญ่หมดไปกับหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดสาเหตุเศร้า อาทิเช่น เล่น Social เค้ามีเราไม่มี ก็เซ็งละเป็นต้น ดังนั้นจึงหาเวลาพักสายตาไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง เอาง่ายที่สุดมองไปที่พื้นที่สีเขียวจากต้นไม้ปล่อยให้สายตาได้พักคลายอารมณ์ต่างๆ ลง หรือหากสามารถจัดสรรเวลาก็ออกไปสวนสาธารณะต่างๆ ชมต้นไม้ใบหญ้า หากมีทุนทรัพย์และเวลาก็จัดทริปไปเที่ยวแบบผ่อนคลาย ไม่เอาจำนวนสถานที่ ไม่เอาเที่ยวตามกระแสให้รูปสวยๆ เอาเที่ยวให้ใจได้ผ่อนคลาย ดนตรีบำบัดด้วยเสียงน้ำไหล นกร้อง แทน ลองดูว่าการสัมผัสธรรมชาติแบบใดที่โดนใจคุณ เมื่อเราได้สัมผัสธรรมชาติจะช่วยให้ความเศร้าลดลงเราจะเห็นได้ว่าธรรมชาติเป็นไปตามธรรมดาต้นไม้มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัย สัตว์ต่างๆ หาอาหารกินดำรงชีวิต กลับมาที่ตัวเรานั้นทุกข์ เศร้า เพราะเราต้องการบ้างอย่าง แต่เมื่อไม่ได้ หรือผิดความคาดหวังเลยเกิดความไม่สบาย กายใจขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมดาที่ไม่ได้ทุกอย่างดังใจปรารถนา ที่ทุกคนต้องเจอและผ่านไป แค่รับรู้และยิ้มกับตนเองพร้อมไปต่อรีวิวเที่ยวสวน5. กอด หรือคุยกับตัวเองให้กำลังใจตนเองในวันที่เศร้า ยอมรับความเศร้านั้นหากอยากหาสาเหตุ ทบทวน ก็ย่อมได้ แต่ก็มีทางลัดกว่ายอมรับว่าเศร้า และพร้อมก้าวต่อไป หลายต่อหลายครั้งที่เมื่อเศร้ามักต้องการคนอื่นๆ ให้กำลังใจ แต่จริงๆ แล้วเราสามารถทำสิ่งนั้นๆ ได้เองด้วยการกอดตนเอง ง่ายๆ เอามือขวาไปจับไหล่ซ้าย และมือซ้ายไปจับไหล่ขวา กอดแน่นเท่าที่เราต้องการ ตัวเราจะรู้ว่าไม่ได้อยู่เดียวดายกับความเศร้านั้นนะ ยังมีเพื่อนแท้คือตัวเธอเองอีกคนไงละ นอกจากการกอดตัวเองแล้วมีอีกวิธี คือ การคุยกับตัวเอง ฟังดูเองเหมือนกับคนบ้าหรือเปล่าแต่อันที่จริงไม่ใช่น้า ปกติคนเราคุยกับตนเองอยู่แล้ว สิ่งที่ต่างกันคือเราเปล่งเสียงออกมาเพื่อให้เราตื่นรู้กับความรู้เศร้าของเรา ว่าเราเศร้าอะไร ยังไงนะ อันนี้อาจะต้องอาศัยพื้นที่มิชิดหน่อยเนื่องจากมีการใช้เสียง เพราะได้ระบายความรู้สึกของตนออกมาเองได้หมด ไม่ต้องเกรงใจผู้ฟัง เพราะคนฟังคือเราเองได้ทำงานกับตนเองนี้แหละ ว่าเสียงในใจเราตอนนั้นเป็นอย่างไร แล้วเราอยากทำไงต่อ อะขอเศร้าต่ออีก 30 นาที หรือโอเคสุขละพร้อมไปต่อโดย 5 วิธี เปลี่ยนเศร้าให้เป็นสุข ด้านบนเป็นวิธีแนะนำเบื้องต้นที่ผ่านประสบการณ์จริงแล้วได้ผล จากโรคซึมเศร้า ดีขึ้นสู่ภาวะซึมเศร้า และกลับมาไม่เศร้าแล้วเป็นคนปกติ ที่ยอมรับได้ทุกการเปลี่ยนแปลง ทุกอารมณ์ไม่ว่าจะบวกหรือลบเราก็แค่รับรู้ เข้าใจมัน ยอมรับได้ แล้วก็ไปต่อ เพราะไม่มีสิ่งใดอยู่ยังยืนยง ทุกอย่างๆ ต่างๆ เข้ามาแล้วผ่านไป ตามธรรมชาติ การที่เรายังมีโอกาสได้มีชีวิต คือ สิ่งที่ดีที่สุด สนุก ทุกข์ สุข เศร้า ไปกับมัน ^.^ บอกลาความเศร้าให้ไวแล้วไปสนุกต่อกับกับชีวิตกันค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความนะคะ ^.^ ขอขอบคุณที่มาของภาพ ดังนี้ภาพปก CanvaPixabay ภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !