ทุกคนเคยสงสัยกันไหมครับว่า ทำไมเพลงบางเพลง เราแค่ฟังเพียงครั้งเดียวแต่เพลงที่เราได้ฟังนั้นดันติดอยู่ในหูเราตลอดเวลาซะงั้น! สำหรับบทความนี้ผมมีคำตอบมาให้ทุกคนได้คลายข้อสงสัยกันครับ แต่ก่อนที่จะได้ทราบถึงคำตอบเหล่านั้น ผมขอแนะนำให้ทราบนิยามเบื้องต้นของคำว่า "ดนตรี" และ "เพลง" กันก่อนดนตรี คือ เสียงที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลง เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น เศร้า เสียใจ รื่นเริง น่าตื่นเต้น และความรู้สึกอื่น ๆ อีกมากมายเพลง คือ เสียงที่ถูกขับร้องออกมาพร้อมกับดนตรี หรืออาจจะเป็นเพียงดนตรีบรรเลงอย่างเดียวก็ได้ การประพันธ์เพลงนั้นไม่มีลักษณะตายตัว เนื่องจากขึ้นอยู่กับผู้แต่งในเพลงนั้น ๆ ว่าจะประพันธ์เพลงออกมาในลักษณะหรือรูปแบบใด เมื่อได้ทราบถึงนิยามของคำสองคำข้างต้นที่ได้กล่าวไป เรามาเริ่มดูวิธีการที่จะทำให้เพลงของเราติดหูและปังกันเลยดีกว่า1. มีความยาวที่เหมาะสมบุคคลทั่วไปมักจะใช้เวลาโฟกัสกับอะไรบางอย่างเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น เช่นเดียวกันกับเพลง หากเพลงนั้นยาวเกินไป จะทำให้ผู้ฟังนั้นอาจจะเกิดอาการเบื่อหน่ายจนเลิกฟังเพลงของเราไปก็ได้ หรือหากเพลงนั้นสั้นไป ผู้ฟังก็อาจจะลืมเพลงของเราไป ดังนั้นเพลงที่เราแต่งขึ้นมานั้น ควรจะมีความยาวอยู่ที่ 02:30 - 03:30 นาที จะถือว่าเป็นความยาวที่เหมาะสมสำหรับเพลงหนึ่งเพลง ตัวอย่างเช่นเพลง 'How You Like That' ของ BLACKPINK มียอดฟังในแพลตฟอร์มยูทูบประมาณ 979 ล้านครั้ง โดยเพลงมีความยาวทั้งสิ้น 03:03 นาทีhttps://www.youtube.com/watch?v=ioNng23DkIM2. Hook ติดหูและร้องตามได้ง่ายท่อน hook นั้นเป็นส่วนสำคัญของเพลงและมักจะเป็นท่อนที่ร้องซ้ำ ๆ กันในเพลงหลาย ๆ รอบ เพราะเป็นท่อนที่ผู้คนจะจดจำและร้องตามมากที่สุด ลองใช้ทำนองที่คุณอาจจะคิดว่าฮัมหรือร้องตามได้ง่าย หรือใช้คำที่อาจจะเป็นเทรนด์อยู่ในช่วงระยะเวลาขณะหนึ่ง นำมาประกอบเข้าด้วยกันและรังสรรค์ hook ของคุณออกมา ยกตัวอย่างเช่นเพลง 'วาฬเกยตื้น' ของ GUNGUN ที่มียอดฟังในแพลตฟอร์มยูทูบประมาณ 198 ล้านครั้ง ที่เป็นไวรัลฮิตอยู่ช่วงหนึ่งในโลกโซเชียล https://www.youtube.com/watch?v=8iHB4KaehIA3. การวางโครงสร้างของเพลงในแต่ละประเภทของเพลงนั้น จะมีการวางโครงสร้างที่ต่างกันออกไป ในบทความนี้ผมขอยกตัวอย่างของเพลง Pop โครงสร้างที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นคือ ABABCB โดยที่A คือท่อน Verse เป็นท่อนเนื้อเพลงธรรมดาB คือท่อน Chorus/HookC คือท่อน Bridge เป็นท่อนเนื้อเพลงที่จะสร้างความแตกต่างให้กับเพลงของคุณ ในท่อนนี้คุณอาจจะลองปรับทำนองให้ต่ำลงหรือสูงขึ้น หรืออาจจะใช้ Sound Effect ที่สร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้กับเพลงของคุณ4. การทำงานกันเป็นทีมการทำงานคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ดี คุณอาจจะได้โฟกัสอยู่กับตัวเองและทำอะไรก็ตามที่คุณอยากจะทำในเพลงของคุณ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีเสมอไป หากมีทีมของคุณ อาจจะเป็นเพื่อน ศิลปินท่านอื่น หรืออาจจะเป็นฟรีแลนซ์ที่ช่วยรับเขียนเนื้อร้อง ทำนอง ผู้คนเหล่านี้ อาจจะช่วยทำให้ไอเดียในการเขียนเพลงของคุณไปได้ไกลและอาจจะทำให้เพลงของคุณนั้นออกมาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย5. อย่าหยุดที่จะพบปะผู้คนในอุตสาหกรรมเพลงนั้น อย่าลืมว่ามีผู้คนมากมายที่คุณอาจจะสามารถร่วมงานกับเขาหรือปรึกษาเขาได้ในอนาคต พยายามทำความรู้จักและสนิทสนมกับพวกเขาเหล่านั้นเอาไว้ นั่นเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณกำลังประสบปัญหา เช่น คุณเขียนเนื้อเพลงไม่ออกสักที ทำนองของเพลงคุณดูแปลก ๆ ลองขอความช่วยเหลือจากพวกเขาดูสิจากประสบการณ์ด้านการทำเพลงของผม หากเป็นเพลงที่ผมทำด้วยตัวคนเดียว โดยเฉลี่ยแล้วเพลงของผมนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3 นาที (ตามข้อที่ 1) แต่หากเป็นเพลงที่มีศิลปินรับเชิญหรือ Featuring นั้น ส่วนใหญ่เพลงเหล่านั้นจะอยู่ที่ประมาณ 4 นาที เนื่องจากมีเนื้อเพลงที่ค่อนข้างเยอะ ผมมักจะใช้โครงสร้างเพลงพื้นฐานในการทำ เนื่องจากโครงสร้างจะช่วย scope ขอบเขตเนื้อหาของตัวงานที่จะสร้างขึ้นได้ แต่หากเพลงไหนที่ผมรู้สึกพิเศษ ผมก็มักจะใช้โครงสร้างพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เวลาที่ผมเขียนเพลงไม่ออก ผมมักจะออกไปหาประสบการณ์จากข้างนอก เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อน หาแรงบันดาลใจจากสถานที่หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต รวมไปจนถึงปรึกษาเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องบางคนที่ทำเพลงอยู่ด้วยกันโดยสรุปแล้ว 5 วิธีข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่ไกด์ไลน์ในการทำเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมายในการทำให้เพลงของคุณติดหูและปัง เพลงของคุณจะติดหูคนที่ฟังได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณใส่ความพยายาม ความตั้งใจในการทำแต่ละเพลงของคุณลงไปมากแค่ไหน ขอให้เพลงของคุณติดหูและปังในเร็ววันครับ! แหล่งอ้างอิงจาก: แหล่งอ้างอิง 1, แหล่งอ้างอิง 2, แหล่งอ้างอิง 3, แหล่งอ้างอิง 4เครดิตภาพจาก:ภาพปก โดย James Owen จาก unsplashภาพที่ 1 โดย Marius Masalar จาก unsplashภาพที่ 2 โดย Hans Vivek จาก unsplashภาพที่ 3 โดย Matt Moloney จาก unsplashเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !