การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่เพียงแต่ทำให้ทุกคนบนโลกนี้เกิดความตื่นตัวและตื่นตระหนก แต่ยังส่งผลให้คนทำงานเกิดจากการเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่ต้องออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือรถสาธารณะเพื่อไปทำงาน แต่ปัจจุบันหลายองค์กรได้เริ่มทยอยให้พนักงานลองทำงานแบบ Work from Home การทำงานแบบ Work from Home มีทั้งข้อเสียและข้อดีแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ก่อนที่เราจะเริ่มทำ Work from Home เรามาดูกันว่า 5 สิ่งที่เราต้องต่อสู้ถ้าต้องทำ Work from Home มีอะไรกันบ้าง 1. ต่อสู้กับเตียงนอน การทำงานอยู่บ้านสิ่งที่ยากที่สุด คือ การลุกขึ้นจากเตียงนอนเพื่อขึ้นมาทำงาน ปกติเวลาที่เราต้องตื่นไปทำงานเราจะลุกขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก แต่การทำงานแบบ Work from Home เราจะบอกตัวเองว่าเดี๋ยวก็ได้ เดี๋ยวค่อยลุก ดังนั้น ถ้าจะทำงานแบบ Work from Home แล้ว เราต้องตั้งจิตตั้งใจตัวเองให้มั่นเลยว่าฉันต้องลุกมาทำงานเหมือนเวลาไปทำงานปกติ เพื่อให้การทำงานเป็นระบบและเราจะมีงานส่งได้ทันตามเวลาที่กำหนด ขอบคุณภาพ : https://bit.ly/397b0TW 2. ต่อสู้กับลูกน้อย สิ่งที่ยากรองลงมาสำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว คือ ลูกน้อย เราหยุดงาน ลูกก็หยุดเรียน เมื่อเด็ก ๆ อยู่บ้านบางครอบครัวมีคนช่วยเลี้ยงก็ดีไป แต่ครอบครัวที่ไม่มีคนช่วยเลี้ยงบางทีลูกก็จะเข้ามาหา บางทีเราทำงานอยู่ลูกก็ร้อง หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่จะทนได้อย่างไร แนวทางแก้ไขวิธีนี้ให้หาคนช่วยเลี้ยงถึงเวลาพักคุณค่อยเข้าไปอยู่กับลูก และถ้ามีห้องที่จัดเป็นสัดส่วนได้ควรแยกเป็นห้องทำงานเลย แต่หากไม่มีทั้งสองข้อนี้การเจรจากับลูกให้เข้าใจว่าต้องทำงานก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่เชื่อว่าการทำงาน Work from Home ทำให้คุณมีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้นแน่นอน ขอบคุณภาพ : https://bit.ly/395lH9j 3. ต่อสู้กับเสียงรบกวน อยู่ออฟฟิศก็มีเสียงรบกวนแต่อยู่บ้านเสียงรบกวนจะไม่ใช่เรื่องของงานหรือเสียงเม้าท์แบบที่เคยได้ยิน แต่เป็นเสียงพูดคุย เสียงร้องโวยวาย ที่อาจทำให้คุณเสียสมาธิทำงานได้ เมื่อเจอกับเสียงแบบนี้คุณต้องตั้งมั่นสมาธิสุดฤทธิ์ คิดเสียว่าเราต้องทำงานให้เสร็จและพยายามตัดเสียงรอบข้างให้ได้ 4. ต่อสู้กับโซเชียล อยู่ออฟฟิศใช่ว่าจะไม่เปิดอยู่ออฟฟิศก็เปิด แต่อยู่บ้านจะเปิดมากกว่า ยิ่งไม่มีคนมาคุมด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งต้องติดตามข่าวสารโควิด-19 ด้วยแล้วฉันต้องรู้ก่อนใคร วิธีง่าย ๆ ตั้งมั่นไว้เลยว่าทำงานเสร็จแล้วค่อยมาเปิดดูว่าความเคลื่อนไหว เพราะถ้าเปิดไปทำงานไปคุณจะสนใจโซเซียลมากกว่างาน ขอบคุณภาพ : https://bit.ly/3djz6Ol 5. ต่อสู้กับการไม่มีสมาธิ อันนี้สำคัญสุด เพราะการไม่มีสมาธิ คือ หนทางที่ให้คุณทำทั้ง 3 ข้อที่ผ่านมา พอเราไม่มีสมาธิเราจะคิดว่านอนหน่อยดีกว่า ไปเล่นกับลูกดีกว่า ไปดูโซเซียลดีกว่าเดี๋ยวสมาธิมาเอง พอทำกิจกรรมทั้ง 3 ไปเรื่อย ๆ ดูนาฬิกาอีกทีหมดเวลางานแล้ว ยังไม่ได้ส่งงานเลย คุณก็ต้องมาทำงานตอนดึกหรือไม่ก็ส่งงานล่าช้า การทำงานแบบ Work from Home สิ่งสำคัญ คือ ควรส่งงานให้ทันกับเวลาที่กำหนดเพราะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณได้ทำงานจริง ๆ แม้การ Work from Home จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา แต่กำลังเป็นเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าการ Work from Home ครั้งนี้อาจจะทำให้องค์กรของคุณตัดสินใจให้ Work from Home ต่อกันไปเลยดีกว่า